top of page

2014.11.01 Japan Trip #7 Day10 - Harajuku,Shibuya,Shinjuku

วันที่ 10 ของทริปนี้ เริ่มต้นเดินทางจากเซ็นไดกลับคืนสู่โตเกียวอีกครั้ง และเราก็จะอยู่ที่โตเกียวอีก 3 วัน 2 คืนก่อนจะกลับไทย


ทีแรกมีแพลนจะไปเที่ยวชมสวนโชวะคิเน็น แต่ในเมื่อพยากรณ์บอกว่าจะมีฝนตกตั้งแต่เช้ายันค่ำ ก็ต้องล้มเลิกแพลนเที่ยวไป แล้วมุ่งหน้าไปชอปปิ้งกันทั้งวันแทน


ตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทาง เจอฝนพรำฟ้าสลัวๆแต่เช้าเลย แต่ฝนก็ยังอุตส่าห์หยุดตกตอนที่เรากำลัง checkout และออกจากโรงแรมเพื่อให้เราลากกระเป๋าไปสถานีรถไฟแฮะ


เมื่อคืนนี้เราพยายามจะมาจองที่นั่งรถไฟชินคังเซ็นเข้าโตเกียว ก็กะว่าจะเลือกรอบรถสักเวลา 8.00-8.30 น. จะได้ถึงโตเกียวเร็วๆแล้วมีเวลาชอปปิ้งมากขึ้น แต่ปรากฏว่ารถไฟรอบเวลาช่วงนั้นเต็มหมดเลย ก็เลยได้รอบรถไฟขบวนที่ช้ากว่า คือ Shinkansen Yamabiko 210 ที่ออกจากสถานี Sendai 9.06 น. จะไปถึงสถานี Ueno เวลา 11.18 น. (ช้ามาก)


มาถึงสถานีรถไฟเกือบๆจะ 9 โมงเช้า ก็รีบเดินขึ้นไปที่ชานชาลากันเลย


ชินคังเซ็นขบวนสุดท้ายที่จะได้นั่งในทริปนี้ และก็เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ใช้พาส JR Pass ด้วย


นั่งๆนอนๆไป 2 ชม. ในที่สุดก็มาถึงสถานี Ueno แล้ว


จากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปต่อรถไฟ JR สาย Yamanote Line เพื่อไปลงที่สถานี Uguisudani ที่พักที่เราจองไว้อยู่แถวนั้น


จากสถานี Ueno นั่งรถไฟมาแค่สถานีเดียวก็มาถึงสถานี Uguisudani แล้ว


ป้ายสถานี Uguisudani


เดินออกจากสถานีรถไฟมาเลี้ยวซ้ายและลงสะพานไปเรื่อยๆ ข้ามถนนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปอีกหน่อย


และเราก็มาถึงที่พักที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ Oak Hostel Uguisudani


เดินเข้าประตูมาก็เห็นการประดับประดาในธีมฮาโลวีนรอต้อนรับอยู่


ที่โรงแรมนี้เป็นที่พักใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อกลางปีนี้เอง ตอนที่เราจองผ่าน Booking ล่วงหน้าก็คือโรงแรมยังไม่เปิดให้บริการเลยด้วยซ้ำ สภาพก็ยังดูใหม่เอี่ยมอยู่แบบที่เห็น ข้อเสียเดียวของโรงแรมนี้ก็คงเป็นไม่มีลิฟต์ในโรงแรมนี่ล่ะ ต้องใช้แรงพนักงานช่วยยกกระเป๋าสัมภาระขึ้นไปที่ห้องพัก(โรงแรมมีทั้งหมด 4 ชั้น)


เราได้ห้องพักหมายเลข 310 เป็นห้องแบบ Semi Double Room มีห้องน้ำในตัว


สภาพของห้องก็ใหม่เอี่ยมตามคาด ตกแต่งแบบมินิม่อลสมัยใหม่


เตียงนอนแบบเซมิไม่นุ่มไม่แข็งกำลังนอนสบาย


ห้องน้ำสำเร็จรูปไม่ต่างจากที่พักที่อื่นๆเท่าไหร่


หลังจากนั่งพักเก็บข้าวของกันเล็กน้อย พอมาเช็คสัญญาณของ Pocket Wifi ปรากฎว่าอยู่ๆมันก็ไม่มีสัญญาณ คือมันขึ้นว่า "No Service" แบบนี้ตั้งแต่มาถึงโรงแรมเลย ตอนแรกก็คิดว่าเพราะโรงแรมนี้เป็นจุดอับสัญญาณรึเปล่านะ แต่สุดท้ายแล้วถือออกไปเที่ยวไหนๆก็ยังไม่มีสัญญาณอยู่ดี อาจจะซิมการ์ดเสียไม่ก็เครื่องคงเสีย เอาไว้จะกลับไป complain แต่ดีนะที่มาเสียเอาตอนถึงโตเกียวแล้ว ถ้าเกิดเสียตอนออกไปเที่ยวต่างจังหวัดนี่น่าจะลำบากชีวิตกว่านี้เยอะเลย


เมื่อพร้อมกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางออกเดินทางไปชอปปิ้งกันได้ เดินจากโรงแรมกลับไปที่สถานี Uguisudani


เราและคณะนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line จากสถานี Uguisudani มาลงที่สถานี Harajuku (ยังใช้ JR Pass ได้ วันสุดท้ายแล้ว)


และสถานที่แรกที่เรามาชอปปิ้งกันก็คือที่ถนนชอปปิ้งทะเคชิตะ ย่านฮาราจุกุนั่นเอง (คนเยอะทุกวันจริงๆ)


แต่มาถึงฮาราจุกุก็เที่ยงแล้ว คุณแม่หิวก็เลยต้องหาร้านกินข้าวเที่ยงกันก่อน เห็นมีร้านอาหารดูสวนๆต้นไม้ๆอยู่ในซอยทางซ้ายมือของทะเคชิตะ เลยเดินเข้าไปส่องแมนูหน้าร้าน คุณแม่โอเคก็เข้าร้านกันเลย


มื้อเที่ยงที่ฮาราจุกุวันนี้เป็น "ข้าวกับสเต๊กหมู" ล่ะ


สิงกันอยู่ที่ฮาราจุกุหลายชั่วโมง จากนั้นก็เดินกันยาวๆต่อไปถึงย่านโอโมเตะซังโด


หลังจากไม่ได้มาแวะซะหลายทริป รอบนี้เราจะไม่พลาด! เดินเข้าไปดูของเล่นที่ร้าน Kiddy Land


ช่วงนี้ไปที่ไหนก็เจอฟุนัชชี่


ตอนเราเดินดูๆอยู่ ปรากฎว่าเจ้าคาปิบาระซังตัวใหญ่ยักษ์ข้างบนมันตกลงมาใส่หลังเรา! สงัสยจะอยากกลับบ้านด้วย 555+


ออกจากร้าน Kiddy Land แล้ว ก็เดินทะลุ Cat Street มายังย่านชิบุย่า


ระหว่างทางต้องเดินผ่านร้าน Tower Records อยู่แล้ว ก็ขอแวะเข้าไปเก็บตกแผ่นซีดีที่เล็งๆเอาไว้หน่อยละกัน ก่อนจะไปวอดวายในร้าน Village Vanguards ต่อ


เดินชอปปิ้งกันขาลากจนเริ่มหิว ได้เวลาทานข้าวเย็นแล้ว ว่าแล้วก็พาคณะขึ้นลิฟต์ห้าง Seibu ชิบุย่าไปที่ชั้น 8 ที่เป็นชั้นร้านอาหาร จริงๆแล้วเย็นนี้ตั้งใจจะกินมื้อเย็นเป็นซูชิสายพานที่ร้าน Midori นะ แต่ตอนไปถึงร้านแล้วเจอคนต่อคิวยาวมากๆ รอนานเกินชั่วโมงแน่ๆ เลยต้องเปลี่ยนแผนเอาไว้มากินพรุ่งนี้เช้าแทน ส่วนเย็นนี้กินเทมปุระร้านใกล้ๆกันไปก่อน ร้านชื่อว่า "Tempura Tsunaha" ก็ดูน่ากินดี


สั่งกันมาคนละเซ็ตอาหารที่ไม่ซ้ำกัน 4 เซ็ต เทมปุระทอดสดๆใหม่ๆอร่อยมาก อิ่มเอมกันทุกคน


หลังจากอิ่มข้าวเย็นแล้วก็ลงลิฟต์มาที่ชั้นใต้ดินของห้าง Seibu ต่อ มีร้านขนมตลอดจนซุปเปอร์มาร์เก็ต ตรงนี้มีมาการองร้านดังอยู่ด้วย ไม่ซื้อก็คงจะไม่ได้


เสร็จจากชิบุย่าแล้ว ยังพอมีเวลาเหลือก่อนสามทุ่ม ไหนๆก็มาโซนนี้แล้ว ขอไปชินจุกุต่อเลยและกัน ร้านรวงน่าจะยังไม่ปิด เดินกางร่มลุยฝนที่น่าจะเริ่มกลับมาตกอีกครั้งในช่วงที่เรากินข้าวเย็น


เดินผ่านห้าแยกชิบุย่ามาถึงสถานีรถไฟ JR


เรานั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line จากสถานี Shibuya มาลงที่สถานี Shinjuku ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที


พยายามเดินลัดเลาะเข้าห้างเข้าทางเดินใต้ดินเพื่อหนีอากาศหนาวและฝน ไหนๆแล้วขอไปกินไอติมท้าหนาวที่ร้าน GROM ซะหน่อย


ร้านนี้เลือกได้ว่าจะใส่ถ้วยหรือโคน และเลือก 1 2 หรือ 3 รส เลือกไซส์ได้อีกด้วยนะ อย่างถ้วยนี้ของเรา 500 เยน 2 รสใส่ถ้วย


สุดท้ายก่อนจะกลับที่พัก แวะทิ้งทวนด้วยการสำรวจตลาดที่ร้าน Don Quijote สาขาชินจุกุซะหน่อย เผื่อได้ซื้อของฝากกัน


มาดูกี่ทีๆสินค้าก็ค่อนข้างจะเดิมๆเนอะ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ แต่ก็มีของให้ได้ซื้อทุกที 555+


จากนั้นก็ได้เวลากลับโรงแรมที่พักกัน เดินย้อนกลับไปที่สถานี Shinjuku เพื่อนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line กลับไปลงที่สถานี Uguisudani แล้วเดินกลับเข้าโรงแรมแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย


เป็นอันจบหนึ่งวันที่แสนตะกุกตะกัก ไหนจะจองรถไฟไม่ทันจนมาถึงโตเกียวช้า ไหนจะฝนตกๆหยุดๆทั้งวัน และ Pocket Wifi ก็ดันมาเสียไปอีก ก็เลยไม่ค่อยได้เล่นโซเชี่ยลเท่าไหร่ พอกลับถึงที่พักก็ต้องใช้ Wifi ของโรงแรมเตรียมตัวหาข้อมูลนี่นั่นเตรียมไว้ล่วงหน้าเพราะอาจจะติดต่อกับคนอื่นลำบาก Wifi ฟรีในโตเกียวก็ไม่ได้มีเยอะเท่าไหร่


แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ!

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page