2015.04.16 Japan Trip #8 Day8 Part2 - Koriyama, Sendai
หลังจากที่ผิดหวังเล็กๆกับซากุระที่เมืองคิตะคะตะ ก็เลยต้องมาตามหาซากุระสวยๆตามเส้นทางที่นั่งรถไฟผ่าน ตอนขามาเรานั่งรถไฟผ่านแถวๆสถานี Kikuta แล้วเห็นซากุระที่ดูสวยแบบตะลึงมาก ก็เลยคิดว่าไหนๆก็ผ่านทางแล้ว ขอแวะชื่นชมกับความงามให้สมกับที่ตื่นตะลึงตอนนั่งรถไฟผ่านซะหน่อย

ออกจากสถานีมา เลี้ยวขวาแล้วเดินไปตามถนนประมาณ 200 เมตร จะเห็นสะพานข้ามแม่น้ำอยู่ข้างหน้า

เดินถึงสะพาน หันไปทางขวาจะเจอเป้าหมาย ซากุระเพียบ!

ส่วนทางฝั่งซ้ายมือของสะพานก็มีซากุระให้เห็นนะ แต่ค่อนข้างน้อย

ถึงกระนั้นงั้นเดินไปเก็บรูปทางซ้ายก่อนละกัน

ซากุระอยู่หน้าบ้าน สวยดีนะ

เดินย้อนกลับมาที่สะพานแล้วข้ามไปอีกฝั่งกันต่อ

มุดใต้ทางรถไฟ ก็มาถึงจุดเริ่มของเส้นทางชมซากุระริมน้ำแล้ว

นี่คือซากุระต้นแรกที่รอต้อนรับเราอยู่ที่นี่

และต้นถัดๆไปริมแม่น้ำเพียบเลย ทอดยาวไปตามริมแม่น้ำโทดะ

เห็นแค่นี้ก็รู้สึกชื่นใจแล้วซิ ไปเดินเก็บบรรยากาศฟินๆต่อข้างในดีกว่า

เดินเข้ามาด้านใน เราจะไปเดินตรงที่มันเป็นคันดิน

แม่น้ำนี่คือตามธรรมชาติมากๆ

ซากุระกำลังบานพีคทุกต้นเลย

เดินลงไปตรงพื้นดินริมแม่น้ำ ชันนิดนึงต้องเดินระวังๆเอา

มองกลับขึ้นไปดูซากุระริมถนนด้านบน

มุมริมแม่น้ำนี่สวยงามจริงๆ

ถ่ายรูปไว้หน่อยๆ ซากุระที่มาโดยคาดไม่ถึง

มีจุดที่เป็นคันหินชั้นๆกั้นน้ำเป็นระยะ ดูสวยดี

เส้นทางเดินยังอีกยาว เดินกันต่อๆ

หันกลับไปมองทางที่เดินผ่านมา

เก็บรูปกันไม่หวาดไม่ไหว

ลองเปลี่ยนมาใช้เลนส์ 70-300 มาถ่ายเทเลซะหน่อย ถึงสะพานตรงนั้นดูแล้วก็ยังมีแนวซากุระยาวต่อไปอีกด้วยนะ

แต่เราคิดว่าคงเดินวนตรงสะพานแล้วกลับมาทางอีกฝั่ง
ดีใจที่ได้มาเจอซากุระสวยๆแบบนี้โดยบังเอิญ แถวๆนี้ unseen มากไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเดินเลยสักคน

เดินมาถึงใกล้ๆสะพานและ มีบันไดเดินกลับขึ้นไปบนถนนทางด้านบน

เห็นกลุ่มนักเรียนม.ปลายเดินมา

เดินกลับขึ้นไปบนถนนด้านบน

มีป้ายเตือนด้วยแฮะ

ประตูระบายน้ำ

เห็นแนวซากุระแล้วฟินแบบมากๆ

ถ่ายรูปไปเยอะเลย ถึงสะพานแล้วก็เดินกลับดีกว่า เดี๋ยวไม่ทันรถไฟที่จะกลับสถานี Koriyama ด้วย

เดินย้อนกลับมาถึงตรงจุดที่เราเดินลงไปตรงคันติน

ตรงแถวๆสวนหย่อมนี่ก็ซากุระล้วนๆเลย

โดยรวมแล้วฟินมากจริงๆ รู้สึกแฮปปี้ที่แวะมา

เดินมาถึงห้องน้ำก็แวะเข้าห้องน้ำซะหน่อย
รีแคปการเดินชมซากุระที่นี่กันสักนิด

มองนาฬิกาแล้วเหลืออีก 10 นาทีรถไฟจะมา รีบเดินกลับไปที่สถานีกันดีกว่า

ทิ้งทวนก่อนกลับอีกสักรูปสวยๆ

จากนั้นเราก็เดินลอดใต้ทางรถไฟกลับไปทางเดิม

เดินกลับมาถึงสถานี Kikuta แล้ว

อีกหน่อยสถานที่นี้จะต้องดัง เชื่อเรา!

เดินเข้าสู่สถานีโดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้า ถ้าไม่มีตั๋วพาสรถไฟก็จะต้องกดตู้ซื้อตั๋วรถไฟจากตู้อัตโนมัติที่อยู่ในห้องนั่งรอรถไฟเอาเอง

รถไฟมาตรงเวลามากๆเลย

นั่งรถไฟ JR สาย Ban-etsu Line จากสถานี Kikuta มาสถานีเดียวก็ถึงสถานี Koriyama ยังมีเวลาก่อนดวงอาทิตย์ตกดินอีกพอสมควร เราเลยตัดสินใจจะไปเที่ยวที่เซนไดกันต่อก่อนกลับโตเกียว

แวะไปจองที่นั่งรถไฟชินคังเซ็นก่อน จากนั้นเดินออกมาด้านนอกด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมืองโคริยะมะว่ามันเป็นยังไง

แล้วก็กลับเข้าไปหาอะไรกินเล่นรอเวลารถไฟชินคังเซ็นไปเซ็นไดต่อ

มีเวลาอีกประมาณ 20 กว่านาที เห็นร้าน Lotteria ก็เลยแวะกินเบอร์เกอร์ซะหน่อย

พอใกล้ถึงเวลารถไฟชินคังเซ็นก็รีบเดินกลับไปที่สถานี

เดินกลับขึ้นไปชานชาลาชินคังเซ็น เดี๋ยวไปเซ็นไดต่อ

ยืนรอรถไฟชินคังเซ็นที่ชานชาลา ระยะห่างของรางกว้างมากๆเลย

รอรถอยู่สักพัก รถไฟชินคังเซ็น E2 ขบวนนี้ในนาม Yamabiko ก็มารับเราไปเซ็นได

เราขึ้นรถไฟ Shinkansen Yamabiko 57 จากสถานี Koriyama เวลา 17.02 น. จะไปถึงสถานี Sendai เวลา 17.37 น.

ครึ่งชั่วโมงจากโคริยะมะก็มาถึงเซ็นไดแล้ว

แวะจองที่นั่งรถไฟชินคังเซ็นกลับโตเกียวก่อน เสร็จแล้วเดี๋ยวเราจะพาไปใช้บริการรถไฟใต้ดินของเซ็นไดกัน แล้วจะพาไปเดินเล่นที่ถนนโจเซ็นจิ

เดินลงบันไดมาใต้ดินเลย มีทางเดินใต้ดินอยู่

เดินไปราวๆ 100 เมตรก็มาถึงตู้ขายตั๋วรถไฟแล้ว

เดี๋ยวเราจะนั่งรถไฟใต้ดิน Sendai Municipal Subway สาย Tozai Line จากสถานี Sendai ไปลงที่สถานี Kotodai-koen

ค่าโดยสารคนละ 200 เยน

รถไฟไม่แน่นเท่าไหร่ สบายๆนะ

มาถึงสถานี Kotodai-koen ออกทางออกไหนก็ดูแผนที่ในสถานีได้เลย

เดินตามแผนที่ที่ดูเอาไว้ที่สถานี เดินเรื่อยๆข้ามถนนก็มาถึงถนนโจเซ็นจิแล้ว ถนนโจเซ็นจินี้จะมีสวนหย่อมอยู่เหมือนเป็นเกาะกลางถนน

ถนนโจเซ็นจิ จุดเด่นจริงๆอยู่ที่ต้นเคยากิที่ปลูกเรียงเป็นแถวยาวไปตลอดสองฝั่งถนน คือถ้ามาในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนจะดูเขียวสวย หรือฤดูใบไม้ร่วงก็เหลืองอร่ามตาดีมาก ช่วง Illumination ก็จะมีการจัดไฟประดับประดาจนมีนักท่องเที่ยวมาเดินชมกันเป็นล้านคน

รูปปั้นหญิงสาวเปลือย

เดินต่อไปอีกหน่อยละกัน

หยุดรอข้ามถนนตรงสี่แยกไฟแดง

ป้ายบอกเส้นทาง

ข้ามถนนมาเป็นทางลูกรังแฮะ.. สงสัยงบหมด

เดินกันต่อไปเรื่อยๆจนสุดเส้นทางของสวนหย่อม

รูปปั้นชายหนุ่มเปลือย

ตามสัญญาที่ให้ไว้กับเซ็นได กลับมาเยือนอีกครั้งเพื่อเดินเล่นที่ถนนโจเซ็นจิแล้วนะ!

จบภารกิจ ได้เวลาเดินชอปปิ้งแล้ว!

เคยมาเดินถนนชอปปิ้งที่เซ็นไดแล้ว ครั้งนั้นเดินจากฝั่งหน้าสถานีรถไฟมา คราวนี้เราเดินจากถนนโจเซ็นจิย้อนกลับไปบ้าง

เป็นถนนชอปปิ้งที่ยาวเหมือนกับเมืองอื่นๆทั่วญี่ปุ่น และก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจพอกัน

ใช้เวลาเดินราวๆ 20 นาทีก็กลับมาถึงหน้าสถานีรถไฟและ เดี๋ยวเลี้ยวเข้า Loft ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานี Sendai ต่อ

เจอฟุนัชชี่ก็เยอะ.ง

เจอสุมิกโกะก็แยะ..

ก่อนจะมาแวะร้าน HMV ที่ห้างข้างสถานีอีกเป็นที่สุดท้ายก่อนกลับ

ชอปกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็เดินกลับเข้าสถานีซื้อข้าวกล่องไปกินบนรถไฟขากลับ เสร็จก็มานั่งรอรถไฟที่ชานชาลา

ขากลับเราตั้งใจจองที่นั่งชินคังเซ็นขบวน E5 (Hayabusa) เอาไว้ คือตลอดทริปนี้เราได้นั่งชินคังเซ็น E2,E3,E4,E6,E7 มาแล้ว เหลือแค่ E5 ที่เคยนั่งแล้วก็จริง แต่ถ้าเอาให้ครบถ้วนในทริปนี้ทริปเดียวก็ต้องนั่ง E5 ด้วย

ขึ้นรถไฟมาแล้ว

เรานั่งรถไฟ Shinkansen Hayabusa 36 รถออกจากสถานี Sendai เวลา 20.30 น. จะกลับไปถึงสถานี Ueno เวลา 21.58 น.

และนี่คือข้าวกล่องที่ซื้อกลับมากิน ข้าวหน้าลิ้นวัวย่าง ราคากล่องละ 1,400 เยน

ที่มันล้ำๆก็คือมีสายดึงเพื่อทำความร้อนด้วย เหมือนได้กินลิ้นวัวที่เพิ่งย่างใหม่ๆเลย

กินเสร็จก็นั่งพักผ่อนเล่นเน็ตกันไปยาวๆจนกลับถึงสถานี Ueno

แล้วก็เดินกลับไปต่อรถไฟสาย Joban Line กลับที่พักที่สถานี Minami-Senju ตามปกติ

กลับที่พักก็เอาเสบียงที่ตุนไว้มากิน จะกะริโกะอันนี้ซื้อตอนอยู่ที่คิตะคะตะ

แล้วก็โด๊ปด้วยโคล่าผสมเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ง่ายๆก็โค้กใส่M150 แต่มันไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่..

และก็ปิดวันมั่วๆลงไปได้แบบสวยงามเกือบเพอร์เฟกท์ ประสบการณ์มั่วครั้งแรกนี่บันเทิงจริงๆ 555+
แต่พรุ่งนี้ไม่มั่วนะ เพราะเรามีแพลนจะไปเที่ยวที่จังหวัดนะงะโนะและเมืองมัตสึโมโตะ
เจอกันพรุ่งนี้ครับ!
Comments