2012.03.31 Japan Trip #1 Day2 - Tsukiji Fish Market, Akihabara
ในวันที่ 2 ของการมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นครั้งแรก วันนี้ผมมีแพลนที่จะไปตลาดปลาสึคิจิในช่วงเช้า และไปเดินชอปปิ้งที่ย่านอะคิบะในตอนบ่ายยาวๆถึงเย็นไปเลย โดยมีไกด์กิตติมศักดิ์อย่างพี่บิ๊กเป็นคนพาไปด้วย(อู๋จะตามมาสมทบอีกทีที่อะคิบะ)

ก็เพราะต้องไปตลาดปลาสึคิจินี่ล่ะ ที่ทำให้วันนี้ต้องตื่นเช้าและออกจากที่พักเช่้าหน่อย ออกเช้าๆก็ดีเหมือนกัน อากาศดีๆไม่ได้เจอกันได้บ่อยๆในชีวิต

จากสถานี Shin-Okubo ผมนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line ไปลงที่สถานี Ebisu เพื่อที่จะต่อรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hibiya Line ไปลงที่สถานี Tsukiji ตลาดปลาสึคิจิจะอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไหร่นัก ก็นัดเจอพี่บิ๊กที่สถานี Tsukiji เลยนั่นล่ะ

ออกจากสถานีรถไฟก็เดินตรงมุ่งหน้าสู่ตลาดกันเลย ซึ่งก่อนจะเข้าไปดูข้างในตลาด ก็จะต้องเดินผ่านโซนขายของกินของฝากกันก่อน ตรงนี้คนจะเยอะมาก ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือมาหาอาหารทะเลสดๆกินในยามเช้า

หนึ่งในร้านขายของกินแถวนี้จะมีร้านขายไข่หวานอยู่ร้านนึงที่เป็นที่นิยมมากๆ ไม่ว่าจะคนญี่ปุ่นคนไทยหรือคนชาติไหน ถ้ามาตลาดปลาสึคิจิจะต้องไปแวะซื้อกินกันแทบทุกราย

ผมก็ลองซื้อมากินดูเช่นกัน แค่ 100 เยนเท่านั้นเอง คิวยาวสักหน่อยแต่ก็คุ้มค่าที่จะรอ เพราะพอลองกินดูแล้ว มันอร่อยจริงๆนะ!

อีกอย่างที่ได้ลองกินดูก็คือเนื้อย่างครับ เดินผ่านร้านนี่แบบ..กินหอมโชยเตะจมูก ชวนให้ควักเงินซื้อมากินยิ่งนัก เลยจัดมากินสักไม้ อร่อยดีนะ ร้านจะอยู่ในซอยยิบย่อยหน่อย แต่ถ้าเดินๆดูก็หาเจอได้ไม่ยากครับ

หลังจากรองท้องกันด้วยของกินรายทางกันไปพอประมาณ ทีนี้ก็จะลองเดินเข้าไปดูในตลาดปลากันละ อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง ถึงตอนที่กำลังเดินเข้าไป ตลาดใกล้จะวายหมดแล้วก็เถอะ ก็อยากรู้อยู่ดีว่าหลังจากที่ประมูลซื้อของสดกันไปแล้ว ภายในตลาดจะมีวีถีกันอย่างไรต่อไป

หลายๆร้านของพ่อค้าคนกลางก็จะมีทั้งลูกค้าที่เป็นขาประจำที่อาจจะเป็นร้านอาหารหรือห้างร้านต่างๆแวะเวียนกันมาซื้อของสดๆกันกลับไป ลูกค้าขาจรก็มีบ้าง พ่อค้าที่นี่ดีนะ ใส่ใจเลือกและแนะนำแก่ลูกค้ากันเป็นอย่างดี

เดินผ่านไปมาในตลาดก็ได้เห็นชิ้นเนื้อปลามากุโร่ที่ถูกประมูลซื้อมาถูกแล่ตัดเป็นชิ้นเพื่อนำไปขายส่งขายปลีกตามเรื่องตามราว กองพวกนี้ก็ดูน่าจะมีคนจับจองซื้อกันไปแล้วแน่ๆ เห็นแล้วอยากขโมยกลับไปทำกินที่บ้านมาก 555+

หลังจากเดินดูความเป็นไปในตลาดปลากันพอหอมปากหอมคอแล้ว ที่นี้ก็ถึงเวลาของอาหารเช้ากันละ ร้าน "Sushi Zanmai" ที่เป็นร้านซูชิชื่อดังในโตเกียวเป็นเป้าหมายที่เล็งเอาไว้แต่แรก ร้านนี้มีสาขาอยู่ในบริเวณนี้ถึงสามสาขาแต่ก็มีคิวทุกสาขาเลย! ผมยืนต่อคิวอยู่กับแฟนผมและพี่บิ๊กประมาณ 15-20 นาทีได้มั้ง ก็มีเค้าน์เตอร์บาร์ว่าง 3 ที่พอดี

มาพูดถึงรสชาติกันหน่อย เนื้อปลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งมากุโร่ในทุกส่วนนั้น บอกได้เลยว่า "สดมาก" ผมนี่หยิบมากินโดยไม่เกี่ยงราคาจานเลยล่ะ! จะบอกว่าอร่อยจนลืมเรื่องทุนทรัพย์ในการกินก็ว่าได้ แต่..ใครจะสน 555+ (ไม่รู้เดี๋ยวนี้จะยังคงคุณภาพเอาไว้ได้เหมือนเดิมมั้ยนะ ไม่ได้กินซูชิร้านนี้มา 2-3 ปีแล้ว เห็นตอนนี้เปิดแบบ 24 ชั่วโมงแล้วด้วย โฮ่ๆ) ตอนคิดเงินนี่จำได้ว่าสองพันกว่าเยน ยังเบาๆเนอะ..

สำหรับผมแล้ว เอ็งกะวะเนี่ยล่ะเมพสุดแล้ว!!

หลังจากกินซูชิเสร็จ ก็ถึงเวลาเดินทางสู่ย่านในฝันของหลายๆคนกันแล้ว! สถานีต่อไป.. "อะคิบะ" ว่าแล้วผมก็เดินกลับไปที่สถานี Tsukiji เพื่อนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Hibiya Line ไปลงที่สถานี Akihabara

แน่นอน ในยุคสมัยนั้น สิ่งที่กำลังโด่งดังฮ็อตฮิตมากๆก็คือ "AKB48" วงไอด้อลชื่อดังที่กำลังเป็นที่นิยมทั้งประเทศ และเคยเกือบจะได้มาแสดงในเมืองไทยเมื่อปี 2010 ด้วยซ้ำ(เพราะเหตุการณ์นองเลือดทางการเมือง ทุกอย่างเลยฝันสลายพังทลายไป) และนี่คือ AKB48 Cafe & Shop ซึ่งอยู่ข้างๆไม่ห่างจากสถานีรถไฟ JR เท่าไหร่นัก ดูดิ.. ถึงขนาดต้องต่อคิวเพื่อเข้าคาเฟ่และเข้าชอปกันเลยทีเดียว!!

ยืนแอ็คท่าถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย ครั้งแรกที่ได้มา

ย่านอะคิบะนี่คงจะรู้กันอยู่แล้วว่าเป็นย่านแห่งสินค้าอนิเมะและไอด้อลมากมาย จริงๆมันเป็นย่านที่ดังในเรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆนะ แต่ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ละว่าสิ่งที่ขึ้นชื่อกว่าคือสินค้าอนิเมะและไอด้อล ถึงขนาดเรียกว่าเป็น "ดินแดนสวรรค์ของโอตาคุ" (ผมเป็นหนึ่งในนั้น 555+)

ที่อะคิบะเนี่ย มีทั้งสินค้าใหม่สดมือหนึ่งและสินค้ามือสองวางขายเรียงรายเป็นร้อยเป็นพันร้าน ชนิดที่ว่าตาดีได้ตาร้ายเสียเลย สินค้าเดียวกันราคาต่างกันเยอะก็มีอยู่มาก นี่ไงถึงจำเป็นต้องเดินดูให้ทั่วก่อน 555+

แต่ก่อนจะเดินชอปจนติดลมบนไปมากกว่านี้ ขอแวะเติมพลังมื้อเที่ยงให้อิ่มท้องก่อนดีกว่า ว่าแล้วก็เดินเข้าร้านแกงกะหรี่ "แมมมอธคะเร" คู่แข่งของ "โกโกคะเร" เค้าว่ามันเป็นแกงกะหรี่ที่โคตรจะให้พลังงาน เดี๋ยวมาดูกันว่าจะให้พลังงานขนาดไหน..

ผมสั่งแกงกะหรี่หมูทอดแบบเพิ่ม stamina มา ก็สงสัยนะว่ามันจะเป็นยังไง อ๋ออออ.. เค้าตอกไข่ดิบมาให้ด้วยจ้า โด๊ปกันขนาดนี้เลย 555+ จานนี้ Special Stamina Curry ราคา 1,150 เยน

ทั้งอู๋(ที่ตามมาสมทบที่นี่)และพี่บิ๊กดูจะเอนจอยดี อิ่มหนำสำราญ

หลังจากท้องอิ่มก็จะเป็นการเดินชอปปิ้งในดินแดนสวรรค์แห่งนี้กันยาวๆล่ะนะ ร้านแรกที่ต้องเข้าอย่างยิ่งยวดก็คือ "animate" ศูนย์รวมสินค้าอนิเมะครบครัน ร้านนี้ดูดเงินจากผมไปพอสมควรเลยล่ะ..

นี่คือตึกของร้าน Don Quijote ร้านขายของที่มีทุกสิ่งอันซึ่งเป็นร้านชื่อดังของญี่ปุ่น สำหรับที่สาขาอะคิบะนั้น Theater การแสดงของวง AKB48 อยู่ด้วยที่ชั้น 8 ครับ ใครสนใจก็ส่ง E-Mail สุ่มจองคิวเข้าชมการแสดงกันล่วงหน้าได้เลย เว็บไซต์ของวงนั้นหาไม่ยากเนอะ

ที่อะคิบะนี้ ร้าน Game Arcade มีอยู่เยอะมากๆ สิ่งที่ฮิตกันมากในหมู่วัยรุ่นทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติรวมทั้งคนไทยก็คือเจ้าตู้ UFO Catcher นี้ล่ะครับ เกมคีบสารพัดสิ่งของตั้งแต่ตุ๊กตายันขนมของกินนี้ ดึงดูดให้คนมาลองใช้ทักษะการคำนวณองศาและน้ำหนักกัน ครั้งละ 100-200 เยน ถ้าใครชอบล่ะก็ที่อะคิบะเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะมาลองวิชากันครับ

นอกจากสินค้ามือหนึ่งแล้ว ที่อะคิบะนี้เหล่าสินค้ามือสองก็เป็นที่นิยมเช่นกัน และร้านขายสินค้ามือสองก็มีจำนวนมาก บางทีน่าจะมากกว่ามือหนึ่งด้วยซ้ำ ซึ่งมีในลักษณะทั้งเจ้าของร้านรับซื้อคนที่เอามาขายต่อในราคาถูกแล้วก็เอามาแปะป้ายขายในร้าน รวมถึงเจ้าของสินค้าเอาสิ่งของมาฝากให้ร้านช่วยตั้งขายให้โดยที่ร้านจะเก็บค่าเช่าหรือค่าบริการการฝากขายเอา แหล่งใหญ่แหล่งนึงก็คือตึก AKIBA Cultures Zone ตึกนี้ครับ

ที่ตึก AKIBA Cultures Zone นี้ มีร้านขายสินค้ามือสองอยู่มากมาย(มือหนึ่งก็มีแต่เป็นส่วนน้อย) อย่างเช่น ร้าน K-BOOKS นั้นก็ขายพวกหนังสือการ์ตูนมังงะ,โดจิน,โนเวลแบบมือสองอยู่เพียบ, ร้าน TRIO นี่ก็จะเป็นร้านที่รวมสินค้าเกี่ยวกับไอด้อลนักร้องญี่ปุ่นแทบทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็น รูป,เสื้อ,ผ้าเชียร์,แม็กกาซีน,ซีดีเพลง ฯลฯ, ร้าน ROBOT+ROBOT ก็จะเป็นร้านขายฟิกเกอร์การ์ตูนต่างๆแบบมือสอง เป็นต้น เรียกว่ามาเดินเล่นที่ร้านนี้ได้เป็นชั่วโมงเลยล่ะ (อีกที่นึงคงจะเป็นตึก Radio Kaikan)

เดินชอปปิ้งเพลิน รู้สึกตัวอีกทีก็สองทุ่มกว่าๆแล้ว พอเริ่มรู้สึกตัวถึงเวลาท้องมันก็เริ่มหิวขึ้นมาทันที ผมก็เลยถามพี่บิ๊กว่าเราจะไปกินอะไรกันดี? พี่บิ๊กเลยพาไปเดินดูร้านอาหารที่ห้าง Yodobashi (พอดีว่าพี่บิ๊กจะไปซื้อของเล็กน้อย) โอเค ตกลงตามนั้น

พี่บิ๊กได้แนะนำร้านนี้ ชื่อร้านว่า "Fugetsu" เป็นร้านโอโคโนมิยะกิ ก็ดูโอเคดีนะ เอาแหล่ะ ร้านนี้ล่ะ

โอโคโนมิยะกิทำเองที่ญี่ปุ่น ก็โอเคนะ เป็นฟีลลิ่งที่ดี

แบบที่ใส่เส้นโซบะเข้าไปด้วยนี่ยิ่งเลิศเลย ชอบมากๆ

หลังกินมื้อเย็นเสร็จก็แยกย้ายกันกลับที่พัก จบวันด้วยภาพลักษณ์ดั่งโอตาคุสายโหด 555+ แบกข้าวของพะรุงพะรัง สิริรวมยอดรายจ่ายที่อะคิบะ ผมหมดไปเกือบๆสองหมื่นเยนแน่ะ.. เงินไหลออกจากกระเป๋าสตางค์ราวกับมีอาถรรพ์..


สินค้าทั้งอนิเมะและไอด้อลสามารถทำให้คุณหมดเงินได้เสมอ.. นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับนี่ 555+

ขอทิ้งท้ายวันนี้ด้วยเครื่องดื่มที่ผมชอบมากๆอีกอย่างก็แล้วกัน นั่นก็คือ "Van Houten Cocoa" โกโก้อร่อยๆที่มีทั้งแบบกล่องและแบบกระป๋อง มันอร่อยมากๆ โกโก้ของ Van Houten นั้นเหมือนจะมีส่วนผสมที่เป็นน้ำอยู่มาก จึงทำให้ดื่มแล้วเย็นชื่นใจเพราะน้ำจะเก็บความเย็นได้ค่อนข้างดีกว่านม อร่อยมาก ตัวนี้ผมแนะนำจริงๆครับ แล้วพบกันใหม่ในวันถัดไปครับ!