top of page
  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon

2012.04.04 Japan Trip #1 Day6 - Tokyo Disney Sea


และแล้วก็มาถึงวันที่จะได้ไป Tokyo Disney Sea แล้ว! ซึ่งเราก็ใจจดใจจ่อตั้งตารอคอยวันที่จะได้ไปเที่ยวสวนสนุกในต่างประเทศครั้งแรกแบบนี้มานาน และไปเที่ยวทั้งทีก็เลยล็อควันให้เป็นวันที่พยากรณ์อากาศระบุว่าฟ้าโปร่งอากาศแจ่มใสด้วยเพื่อไม่ให้เสียอรรถรสในการเล่นเครื่องเล่นทั้งหลาย

การเดินทางจากที่พักของเราที่ย่านชินโอคุโบะไปยัง Tokyo Disney Sea จะค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควรเลย คือต้องเริ่มจากนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line ไปต่อรถไฟสาย Chuo Line Rapid ที่สถานี Shinjuku เพื่อไปลงที่สถานี Tokyo แล้วก็ต้องเดินเปลี่ยน platform ไปขึ้นรถไฟสาย Keiyo Line ซึ่งเป็นรถไฟสายที่วิ่งออกไปทางจังหวัดจิบะไปลงที่สถานี Maihama ที่เป็นสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ทางเข้า Tokyo Disney Land และ Tokyo Disney Sea ที่สุด ค่าโดยสาร 380 เยน ใช้เวลาเดินทางเกือบๆ 1 ชั่วโมงเต็ม

เราออกจากที่พักตอนประมาณเกือบ 10 โมงเช้า มาถึงสถานี Maihama 11 โมงพอดีๆ อากาศ ณ ตอนนั้นก็ร้อนพอเป็นพิธี ฟ้าสว่างและแดดแรงตามปกติของประเทศนี้ พอมาถึงแล้วเราก็แวะซื้อของกินในคมบินิด้านหน้าสถานีแป๊บนึงแล้วเดี๋ยวจะต้องนั่งรถไฟ Disney Resort Line เข้าไปที่ Tokyo Disney Sea อีกที

เดินมาที่สถานีของรถไฟ Disney Resort Line ที่อยู่ใกล้ๆกัน

กดซื้อตั๋วโดยสารเหมือนกับซื้อตั๋วรถไฟทั่วไป ค่าโดยสารในการนั่งไปลงที่ Tokyo Disney Sea ราคา 250 เยน รถไฟก็หน้าตาน่ารักเก๋ๆ มีช่องหน้าต่างเป็นรูปมิกกี้เม้าส์

เข้ามาด้านในขบวนรถไฟ ที่นั่งก็ดูดีตามประสารถไฟรีสอร์ท เบาะนุ่มนั่งสบาย ชอบ!

ห่วงที่จับก็เป็นรูปมิกกี้เม้าส์ เรียกว่าเก็บทุกเม็ดจริงๆประเทศนี้

จากแผนที่ route map ของรถไฟ Disney Resort Line รถไฟจะวิ่งวนเป็นวงกลมไปทางด้านขวามือก่อน โดยจะผ่านสถานี Tokyo Disney Land กับ Bayside ก่อนจะถึง Tokyo Disney Sea น่ะ

และสุดท้ายก็มาถึงทางเดินเข้าสู่ Tokyo Disney Sea จนได้ เดินอีกเล็กน้อยก็จะถึง Entrance Gate ล่ะ

มาถึง Entrance Gate แล้วครับ! ด้านหลังตรงนั้นจะเป็นโรงแรม Tokyo Disney Sea Hotel MiraCosta ล่ะ ค่าห้องพักคืนนึงมีถึงหมื่นบาทอ่ะ ฮ่าๆ

ต่อแถวๆ จะมีเจ้าหน้าที่เช็คตั๋วและตรวจสัมภาระก่อนเข้าไปด้านใน

เข้ามาแล้วๆ สิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือน้ำพุกับลูกโลกที่เป็น landmark แรกของ Tokyo Disney Sea

คุณพ่อมดมิกกี้นั่งอยู่บนหมวกเวทมนตร์

เดินตามคนอื่นๆเข้าไป ผ่านทางนี้เข้าไปก็จะเป็นบริเวณภายในสวนสนุกจริงๆละ

เข้ามาด้านในแล้วจะเจอเวิ้งน้ำอันกว้างใหญ่และภูเขาไฟขนาดยักษ์ที่เป็นเครื่องเล่นอันหนึ่งด้วย(เดี๋ยวเดินเข้าไปแถวนั้นทีหลัง)

ลองมาดูแผนที่ของ Tokyo Disney Sea กันก่อน จะได้รู้เส้นทางการเดินเล่นของเราในวันนี้ เข้ามาถึงด้านในก็จะพบกับโซน Mediterranean Harbor แล้วเราก็เดินวนไปทางซ้ายมือก่อน ก็คือไปทางโซน American Waterfront นั่นเอง

เป้าหมายแรกที่ว่าจะไปก็คือ The Tower of Terror ที่เป็นเครื่องเล่นที่อยู่ใกล้กับ Entrance Gate มากที่สุด

ที่นี่ล่ะ The Tower of Terror เครื่องเล่นที่น่าจะเป็นที่นิยมที่สุดแล้ว

แต่พอเดินมาถึงปุ๊บก็ต้องถอดใจกันเลยทีเดียว เพราะแถวยาวมากๆ Fast Pass ก็หมดไปแล้วด้วย ถ้าจะต่อคิวรอเล่นเครื่องเล่นนี้ต้องรอมากกว่า 3 ชั่วโมงเลยล่ะ ลาก่อน..

เดินไปอีกหน่อยนึงก็จะถึงโซน American Waterfront ที่มีเรือ SS Columbia เป็นตัวชูโรง ข้างในนั้นก็จะมีเครื่องเล่นอยู่ เดี๋ยวค่อยวกกลับมาใหม่เพราะลองส่องๆดูแล้วคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

เดินข้ามสะพานไป อีกฟากตรงนี้เค้าจัดโซนเป็นหมู่บ้านของพวกนักเดินเรือและชาวประมงของโซน Mediterrenean Harbor

มองกลับไปยังฝั่งตรงที่เราเดินเข้ามา เวิ้งน้ำตรงนี้ช่วงหัวค่ำจะมีแสดงโชว์แสงสีเสียงด้วยล่ะ ซึ่งก็ต้องมาแข่งกันจับจองที่ยืนดูกันหน่อย

เดินเล่นแถวหมู่บ้านชาวประมงกันซะหน่อยๆ

เรือเดินสมุทรลำหนึ่งที่เทียบท่าอยู่ จำไม่ได้แล้วว่าขึ้นไปถ่ายรูปข้างบนได้มั้ย

ส่องสาวๆที่ขึ้นไปยืนถ่ายรูปมาหอที่อยู่ข้างๆสะพาน น่ารักดี ฮ่าๆ

แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้คุณแฟนถ่ายรูปให้นะ! ฮ่าๆ

เดินมาจบเกือบสุดโซน American Waterfront ละ

สุดประภาคารนั่นก็จะเข้าสู่โซนถัดไปละนะ

ยินดีต้อนรับเข้าสู่โซน Port Discovery โซนนี้จะเป็นเครื่องเล่นแนวแบบยานบินไฮเทคๆหน่อยชื่อว่า Storm Rider มีคนเล่นเยอะพอควรเลยนะเนี่ย

เห็นว่า Fast Pass ยังไม่หมด ก็เลยไปกดตั๋ว Fast Pass มาซะเลย ซึ่งจะได้เล่นในรอบ 13.00 น. แต่ตอนนี้เพิ่งจะเที่ยงเอง ก็เลยไปเดินเล่นโซนอื่นก่อนก็แล้วกัน ถึงเวลาค่อยกลับมาเล่น

เราก็เลยเดินเลยไปโซนถัดไปก่อน นั่นก็คือโซน Lost River Delta ซึ่งจะเป็นโซนแนวจังเกิ้ลล่าสมบัติตะลุยป่าโห่ฮาทาร์ซาน ราวๆนั้น อย่างเช่นในรูปนี่ก็ล่องเรืออารมณ์แบบแม่น้ำอะเมซอน

Welcome!

เครื่องเล่นที่เป็นตัวชูโรงของโซนนี้ก็คือ Indiana Jones Adventure Temple of the Crystal Skull ตามอย่างในหนังเรื่อง Indiana Jones ภาคล่าสุดเลย

ตัวพีระมิดนี่ดูงานดีมากๆ เห็นแล้วแบบตื่นเต้นเลยอ่ะ! อยากเล่นมันซะตอนนี้เลย!

แต่พอไปดูที่ตู้กด Fast Pass ดูเวลาที่จะได้เล่นนั่นสิ.. 21.30 น. แน่ะ เอาก็เอาวะ กดไว้ก่อน ถ้าคนน้อยพอดีค่อยมาต่อคิวธรรมดาละกัน ข้ามไปก่อนอีกอัน.. (ตอนนั้นถ้าจะรอต้องรอ 3 ชั่วโมงถึงจะได้เล่น)

ไปต่อกันที่โซนติดกันๆกันเลยคือโซน Mermaid Lagoon ลักษณะดีไซน์ของโซนนี้จะเป็นเมืองบาดาลสมชื่อ

เดินผ่านเครื่องเล่นที่เป็นรถไฟเหาะแล้วรู้สึกอย่างเล่นขึ้นมา เห็นคนไม่ค่อยเยอะมากก็เลยไปต่อแถวเลย น่าจะเล่นเสร็จทันไปเล่น Storm Rider แหล่ะ

เจ้าเครื่องเล่นนี้มีชื่อว่า Flounder's Flying Fish Coaster มีเด็กๆมาเล่นกันเยอะมากเลย

ต่อคิวประมาณชั่วโมงนึง(นี่ขนาดคนไม่เยอะนะ..)ก็ได้เล่นแล้วล่ะ เครื่องเล่นแรกที่ได้เล่นเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ

ถ่ายคลิปตอนที่เล่นเครื่องเล่นนี้ไว้ด้วยล่ะ บันเทิง ฮ่าๆ

จบจากเครื่องเล่นแรกที่ได้เล่นไปแล้ว ขณะนี้เวลาบ่ายโมงนิดๆ เดี๋ยวเราจะเดินกลับไปเล่นเครื่องเล่น Storm Rider ที่กด Fast Pass ไว้ตอนแรก โดยเราเดินทะลุไปทางโซน Mysterious Island โซนที่มีปล่องภูเขาไฟนั่นล่ะ โซนนี้มีเครื่องเล่นผจญภัยๆประมาณทะลุแกนโลกอะไรแบบนั้นอยู่ เดี๋ยวค่อยกลับมาเล่น ดูคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ดีด้วย แล้วก็ตรงนี้มี Restaurant อยู่ เดี๋ยวเล่นเครื่องเล่นถัดไปแล้วจะกลับมากินข้าวที่นี่

เดินกลับมาถึงโซน Port Discovery อีกครั้ง พร้อมกับสาวๆนักเรียนม.ปลายแจ่มๆ ฮ่าๆ

เดินมาถึงเครื่องเล่น Storm Rider แล้ว

เดินเข้าแถวในช่อง Fast Pass มันก็จะไปเร็วหน่อย ประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ได้เข้าเล่นแล้ว พร้อมปฏิบัติภารกิจกู้โลกกับ Storm Rider แล้ว!

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าถ้าเล่นเครื่องเล่น Storm Rider เสร็จก็จะมากินข้าวที่ Vulcania Restaurant ที่เป็นร้านอาหารอยู่ในโซน Mysterious Island เราสั่งชาฮั่งกับมาโบโดฟุ มีชามะลิร้อนอีกแก้ว ราคาทั้งหมด 1,830 เยน แพงพอสมควรเลยนะ

หลังจากกินข้าวมื้อเที่ยงแล้ว ก็รีบทำเวลาไปลุยเครื่องเล่นกันต่อ เดินย้อนกลับไปที่โซน American Waterfront อีกครั้ง มุ่งหน้าสู่เรือ SS Columbia

สวัสดีชิพมั้งค์ มายืนแจกลายเซ็นรึไงเนี่ย ฮ่าๆ

โฉบตัดผ่านหน้าเครื่องเล่น The Tower of Terror อีกครั้ง คนก็ยังต่อแถวยาวเหยียดอยู่ดี..

มาถึงเรือ SS Columbia ซะที แถวเข้าคิวไม่ถึงกับยาวมากนัก ก็เลยเข้าไปต่อคิวซะ

ประมาณครึ่งชั่วโมงเองมั้ง ก็ได้เดินเข้าไปถึงข้างในเรือแล้ว

เครื่องเล่นที่ 3 ที่เราจะเล่นนี้มีชื่อว่า Turtle Talk ก็คือเหมือนไปนั่งพูดนั่งคุยเล่นกับคุณเต่าที่ชื่อ "Crush" ดังเช่นในรูปนี้ ถึงว่า..พ่อแม่จูงลูกๆหลานๆมาต่อคิวซะเยอะเลย

แต่นี่เป็นอะไรที่ปลื้มมากเพราะได้มีส่วนร่วมในโชว์นี้ด้วยเฉยเลยอ่ะ! คือตอนแรกคิดว่าเจ้าเต่า Crush จากเรื่อง Finding Nemo จะเป็นแบบอนิเมชั่นที่ฟิกบทบาทเอาไว้แล้ว ที่ไหนได้คำพูดคำจาเป็นการพากย์เสียงกันสดๆชนิดรู้การเคลื่นไหวของคนดูเลย ซึ่งมันโอเคมากเลยนะ และท่าทางกิริยาของเจ้าเต่านี่มันดันเป็น real time สดๆด้วยเนี่ยสิ!! อีกโคตรดี แล้วคือจู่ๆสตาฟฟ์ก็เดินตรงมุ่งมาที่เราแล้วก็เอาไมค์ยื่นมาให้เอาไว้คุยกับเจ้าเต่า Crush เราโดนเจ้าเต่านี่มันสุ่มเรียกให้ช่วยทำท่า lol ซะงั้น.. คนดูในห้องนี่นั่งฮากันบ้านแตก ฮ่าๆ เพิ่งเคยเจอแบบนี้ สนุกดีๆ

ออกมาจากเรือ SS Columbia แล้ว ใกล้ๆกันจะมีร้าน Gift Shop อยู่ ซึ่งถูกตั้งชื่อว่า McDuck'$ ให้ดูเหมือนมีลุงสกรู๊จเป็นเจ้าของร้าน

ภายในก็มีสารพัดสินค้าดิสนี่ย์มาวางขาย ขายดีมากๆ คนต่อแถวจ่ายเงินชนิดพนักงานไม่มีทางได้พักหายใจ ในส่วนของเราก็ปล่อยคุณแฟนไปชอปปิ้ง เราเดินดู+ถ่ายรูปเล่นเพลินๆ

ซื้อของกันเสร็จ ต่อไปก็จะเดินมุ่งหน้าสู่โซนที่เหลือที่ยังไม่ได้แวะเข้าไป นั่นก็คือโซน Arabian Coast ซึ่งมันอยู่ไกลจากตรงนี้มากๆ คือเราต้องเดินจากโซน American Waterfront, Mysterious Island, Mermaid Lagoon ถึงจะไปถึงได้

และการมาถึงโซน Arabian Coast แล้ว

โซนนี้จะเป็นสไตล์อาหรับสมชื่อ เครื่องเล่นก็จะเป็นลักษณะที่เข้ากับธีมของโซนเหมือนกับเจ้าพรมวิเศษนี้เป็นต้น

เรามาที่โซนนี้เพราะอยากจะเล่นเครื่องเล่น Sindbad's Storybook Voyage เรื่องราวการผจญภัยของซินแบด ฟังดูน่าสนุกใช่มั้ยล่ะ!

นี่เป็นเครื่องเล่นที่ใช้เวลาในการต่อคิวน้อยที่สุดแล้ว ประมาณ 20 นาทีเท่านั้นเอง แต่ก็ดีละ ทำเวลาดี

เรื่องราวการผจญภัยของซินแบดจะถูกถ่ายทอดผ่านเครื่องเล่นนี้โดยการให้เรานั่งเรือล่องไปตามลำธาร รอบข้างทางจะมีเรื่องราวเป็นรีวิวประกอบเพลงแบบไทม์ไลน์การผจญภัยให้ได้ชมกัน เพลินดี

เดินผ่านจัตุรัสตรงกลางโซนมาอีกฝั่งก็จะมีเครื่องเล่นที่เป็นม้าหมุนคล้ายกับที่สวนสยามบ้านเราเลย

แต่ม้าหมุนที่นี่ดูสวยงามไฮโซกว่ากันเยอะ ฮ่าๆ

เดินออกจากโซน Arabian Coast แล้ว มองเวลาดูก็ 6 โมงกว่าๆ คุณแฟนบอกว่าต้องไปจับจองที่สำหรับดูโชว์การแสดงแสงสีเสียงที่เวิ้งน้ำด้านหน้าตรงโซน Mediterranean Harbor แล้ว ก็เลยรีบเดินโดยตั้งใจจะเดินทะลุผ่านโซน Mysterious Island ไป ระหว่างเดินก็เงยหน้ามองภูเขาไฟยักษ์ที่เป็นเครื่องเล่นที่ชื่อว่า Journey to the Center of the Earth ไป

รู้สึกชอบความสมจริงสมจังของเปลวไฟบนปล่องภูเขาไฟมากๆ มันปะทุเป็นระยะแผดเสียงคำรามฮึ่มๆตลอดเวลาด้วยล่ะ รู้สึกได้ฟีลลิ่งว่ามันคือภูเขาไฟจริงๆ

เดินมาถึงบริเวณหมู่บ้านชาวประมงก็เห็นคนเริ่มจับจองที่นั่งที่ยืนกันแล้ว ไอ้เราก็เลยต้องเดินเลยขึ้นไปตรงสะพาน เห็นว่าแถวสะพานยังไม่ค่อยมีคนก็เลยตัดสินใจไปยืนตรงสะพานละกัน บนนั้นก็น่าจะเห็นชัดอยู่เพราะอยู่ที่สูงซิ ระหว่างนั่งรอก็ไปซื้อป๊อปคอร์นกับโค้กมากินรอประทังความหิวไป

นั่งรออยู่เกือบๆชั่วโมงครึ่ง การแสดงก็เริ่มต้นในเวลา 2 ทุ่มตรง โดยมีพ่อมดมิกกี้เป็นตัวชูโรง

มีการจัดแสดงพาเหรดขบวนเรือที่ขนตัวการ์ตูนของดิสนี่ย์ทั้งหลายมาโชว์ตัวกันแทบครบครัน

รีวิวประกอบเพลงก็มา เจ้าหญิงทั้งหลายของดิสนี่ย์

และนอกจากนั้นยังมีการโชว์สเปเชี่ยลเอฟเฟกท์ของแท้ มังกรร้ายที่ออกมาจากกระจกตัวนี้ ต้องเดือดร้อนพ่อมดมิกกี้เป็นคนปราบ

การแสดงทั้งหมดใช้เวลา 20 นาทีไม่รวมการจุดพลุหลังจบการแสดง รวมๆแล้วก็ประมาณครึ่งชั่วโมง

หลังจากดูการแสดงทั้ง 2 ชุดจบลง ก็ได้เวลาไปเล่นเครื่องเล่นกันต่อ ยังมีเวลาอีก 1 ชั่วโมงครึ่งก่อนที่สวนสนุกจะปิด น่าจะยังเล่นเครื่องเล่นได้อีก 1-2 ที่นะ และโซนที่อยู่ใกล้ที่สุดที่ยังไม่ได้เล่นเครื่องเล่นก็คือโซน Mysterious Island นั่นเอง มีเครื่องเล่นที่เป็นเหมือนเรือดำน้ำชื่อว่า 20,000 Leagues Under The Sea หลังจากจบการแสดงแล้วคนยังโหรงเหรงมาก เลยอาศัยจังหวะนี้วิ่งไปเล่นเครื่องเล่นนี้ต่อทันที

เมื่อเรือดำน้ำเล่นออกเดินทาง ดำดิ่งลงไปใต้สมุทร มันก็จะมืดมากๆจนมองอะไรแทบไม่เห็นเลย

เราก็จะได้เห็นพวกสัตว์ประหลาดใต้ท้องสมุทรที่ลึกลงไปสองหมื่นโยชน์อะไรแบบนั้น

เครื่องเล่นก่อนหน้านี้ทำเวลาดีมากๆ ทำให้ยังมีเวลาเหลือเฟือสำหรับเครื่องเล่นสุดท้าย ได้เวลามุ่งหน้าสู่ Indiana Jones Adventure Temple of the Crystal Skull ที่โซน Lost River Delta กันแล้ว!

แถวต่อคิวยาวก็จริง แต่ไม่มีปัญหาอะไรเพราะนี่ก็เครื่องเล่นสุดท้ายที่จะเล่นละ ค่อยๆเดินไหลไปกับฝูงชน

เข้ามาด้านในพีระมิดที่เห็นสูงๆตระหง่านจากข้างนอกนั่นแล้ว

คือต้องขอชมว่างานดีมากๆ ให้บรรยากาศว่าเรากำลังเป็นอินเดียน่าโจนส์จริงๆ

ประมาณ 1 ชั่วโมงกับการต่อแถวเดินเข้ามาจนถึงเครื่องเล่น กำลังจะได้เล่นแล้ว!

ความสนุกมันอยู่ที่การลุ้นว่าอินดี้จะเอาตัวรอดออกไปได้หรือไม่ ก็เหมือนว่าเราได้ผจญภัยไปพร้อมอินดี้อ่ะ ถ้าอินดี้รอดเราก็รอด ถ้ามันตายเราก็ตาย ฮ่าๆ

เป็นความบันเทิงที่ดี เสียวดี ร้องอ๊ากตลอดทางเลยเรา ฮ่าๆ

ตอนเล่นเสร็จ อินเดียน่า โจนส์ จะมารอโบกมือส่งพวกเรากลับโดยสวัสดิภาพ ขอบคุณมากนะอินดี้!

เวลา 22.30 น. สตาฟฟ์สวนสนุกเริ่มจะต้อนนักท่องเที่ยวให้เดินออกจากสวนสนุกแล้ว~ เราก็เลยเดินกลับออกมาด้านหน้าเช่นกัน

ทัศนียภาพในยามค่ำคืนของ Tokyo Disney Sea มันก็สวยดีนะ!

มองเห็นเครื่องเล่นเด่นๆของแต่ละโซนได้ชัดเจนดี เจ้าปล่องภูเขาไฟนี่ก็เริ่มจะสงบกะเค้าซะที ฮ่าๆ

เดินย้อนออกมาถึงตรงทางออก โซนนี้คนยังพลุกพล่านเพราะมีร้านขายของที่ระลึกดักอยู่นั่นเอง (แต่เราไม่ซื้อล่ะ)

เป็นความประทับใจแรกที่ดีมาก สนุกมากๆกับทุกเครื่องเล่น ถือเป็นความทรงจำที่ดีเลยนะที่ได้มาเที่ยวที่ Tokyo Disney Sea แห่งนี้ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาเที่ยวอีกนะ

ทิ้งท้ายต้องไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ landmark นี้

จบการผจญภัยอันแสนเหนื่อยแต่สนุกกว่า 12 ชั่วโมงที่ Tokyo Disney Sea แล้วครับ!

ถึงตรงนี้เหนื่อยมากจนแทบอยากจะเหาะกลับที่พักเลยอ่ะ

ต้องตุนเสบียงกลับเข้าไปกินในที่พักเยอะเลย ฮ่าๆ

 
About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!

ชีวิตการท่องเที่ยวญี่ปุ่นและการเป็นติ่งรถไฟญี่ปุ่นของ Puttiano Rossi

  • Grey Facebook Icon
  • Grey Instagram Icon
  • Grey Twitter Icon

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

© 2023 by Extreme Blog. Proudly created with Wix.com

bottom of page