2012.04.05 Japan Trip #1 Day7 - Kawagoe, Shinjuku
ในการเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นที่เป้าหมายหลักๆอยู่ในกรุงโตเกียวครั้งนี้ ถ้าจะไม่ได้ออกไปเมืองหรือจังหวัดข้างเคียงเลยมันก็จะดูอุดอู้ไปนิด.. เพราะงั้นคุณแฟนของเราก็เลยวางแพลนไปเดินเที่ยวที่เมืองคะวะโกเอะในจังหวัดไซตะมะที่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียวมากนัก เป็นเมืองเล็กๆที่มีสมญาว่าเป็น "Little Edo" นั่นเอง
การเดินทางจากย่านชินโอคุโบะที่เราพักอยู่นั้น เส้นทางที่จะไปถึงเมืองคะวะโกเอะโดยที่ใช้เวลาสั้นที่สุดก็คงจะเป็นการใช้บริการรถไฟโทบุ(Tobu Railway) สาย Tojo Line เราจะไปขึ้นรถไฟสายนี้ที่สถานี Ikebukuro ที่เป็นต้นสาย ซึ่งก็ต้องนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line จากสถานี Shin-Okubo ไปลงที่สถานี Ikebukuro แล้วเปลี่ยนไปต่อรถไฟสายนั้นที่อิเคะบุคุโระนั่นเอง
ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงนึง ค่าโดยสารรถไฟ Tobu ที่นั่งจากอิเคะบุคุโระไปจนถึงคะวะโกเอะ 450 เยน ก็ถือว่าไม่แพงมากนะ ถ้าเทียบกับรถไฟ JR
ดูจากแผนที่ใน Google Map แล้ว เราต้องเดินตรงตามเส้นทางสีเขียวนี้ประมาณเกือบๆ 2 กม.ถึงจะไปถึงย่านเก่าแก่ของคะวะโกเอะที่ขึ้นชื่อในเรื่องของขนมหวาน บวกกับสัญลักษณ์ประจำเมืองอย่างหอระฆังโบราณ Toki no Kane
จากหน้าสถานี Kawagoe เดินเลาะไปทางตึกห้าง Atre Maruhiro ทางซ้ายมือ จะเห็นถนนย่านการค้า ก็เดินไปทางนั้นนะล่ะ
ถนนย่านการค้าตรงนี้ชื่อว่า Crea Mall ล่ะ เป็นย่านการค้าที่ยาวประมาณเกือบๆ 1 กม.เลย
ย่านการค้าแห่งนี้มีร้านรวงค้าขายอยู่เต็มไปหมดเลย ทั้งกลางวันและการคืนค่อนข้างคึกคัก ขนาดเรายังแวะซื้อกระเป๋าถือมาใบนึงเลย ฮ่าๆ
อ๊ะ! ที่นี่ก็มีร้านขายขนม Okashi no Machioka ด้วยแฮะ! แล้วสินค้ามีเยอะมากๆด้วย ไม่จำเป็นต้องกลับไปแก่งแย่งกับคนอื่นในโตเกียวเลยอ่ะ คิดได้ดังนั้นก็เลยซื้อขนมเป็นของฝากกลับไทยมันซะที่นี่เลยก็แล้วกัน
เดินเลือกซื้อขนมอยู่พักใหญ่ๆก็ได้เวลาเดินกันต่อแล้ว นี่ยังไม่ถึงครึ่งทางที่จะไปถึงบริเวณย่าน Little Edo เลยนะเนี่ย
แต่ก่อนที่จะเดินไปต่อ เราซื้อขนมมากินแต่ยังหาที่นั่งกินไม่ได้ ปรากฏว่าเดินไปอีกนิดนึงเจอสวนสาธารณะพอดี มันชื่อว่า Crea Park ล่ะ โอเค นั่งกินนั่งดื่มกันตรงนี้สักพักละกัน
ในสวนนี้มีต้นซากุระที่ดอกซากุระกำลังบานสะพรั่งให้ดูอีกต่างหาก อารมณ์เหมือนมาปิกนิกชมดอกไม้ก็มิปาน
เดินผ่านย่านร้านค้ามาเรื่อยๆจนถึงสี่แยก ก็เดินข้ามถนนแล้วตรงต่อไปเรื่อยๆตามทาง
ข้างทางจะมีศาลเจ้าเล็กๆชื่อว่าศาลเจ้าคะวะโกเอะคุมะโนะจิงจะ (Kawagoe Kumano Shrine) เห็นมีคนญี่ปุ่นเดินแวะเข้าไปสักการะกัน เราก็เลยลองเดินเข้าไปกะเค้าด้วย
ไปยืนไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าตรงนี้ ถึงจะเป็นศาลเจ้าเล็กๆแต่ก็คงศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน
ตรงทางเดินเข้าสู่ศาลเจ้าจะมีพื้นถนนที่เป็นตะปุ่มตะปั่ม ที่สามารถถอดรองเท้าเดินเพื่อไล่เลือดลมมีประโยชน์ต่ออวัยวะทั้งภายในและภายนอกของร่างกายให้ลองเดินกันด้วยนะ
เดินตรงมาจนสุดถนน ทีนี้ต้องเดินเลาะไปทางซ้ายมือนิดนึง ผ่านพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่ชื่อว่า Yamazaki Museum นี้ไป จากนั้นก็เลี้ยวขวา ก็จะเริ่มต้นสู่เส้นทางในย่านเมืองเก่าของคะวะโกเอะแล้ว
ย่านเมืองเก่านี้เรียกว่า Kurazukuri Zone (蔵造りの町並み) ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยร้านขนมและของกินแล้ว ยังมีทั้งวัด,ศาลเจ้า, พิพิธภัณฑ์ รวมถึงหอระฆังโบราณ Toki no Kane ด้วย
ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ย่านเมืองเก่าของคะวะโกเอะครับ! ย่านที่ได้ชื่อว่า Little Edo นี้ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายจากยุคสมัยเอโะเมื่อ 300-400 ปีก่อนด้วยสิ่งก่อสร้างสองฝั่งข้างทางที่ยังคงเป็นอาคารเก่าแก่อยู่
ช่วงแรกที่ไปญี่ปุ่นนี่เรารับวัฒนธรรมการถ่ายรูปฝาท่อประจำแต่ละเมืองมาจากหลายๆคนและหลายๆสื่อ ไปที่ไหนก็ต้องถ่ายเพราะที่ญี่ปุ่นเค้าทำฝาท่อเป็นลายเฉพาะแตกต่างกันไปตามแต่ละเมือง มันเลยเหมือนเป็น stamp การเดินทางของนักท่องเที่ยวนั่นเอง
จากถนนเส้นหลัก เดินมานิดนึงจะเจอทางแยกใหญ่ๆอยู่ทางนึงชื่อว่าถนนคะเนะทสึกิ ที่ถนนนี้ล่ะเป็นที่ตั้งของหอระฆังโบราณ Toki no Kane (時の鐘) อันเป็นสัญลักษณ์ของย่านเมืองเก่าคะวะโกเอะ หอเดิมจากยุคเอโดะนั้นถูกไฟไหม้ไปในปีค.ศ.1893 ที่เห็นอยู่นี่คือหอที่สร้างขึ้นใหม่หลังจากไฟไหม้แล้ว 1 ปี ระฆังจะดังทุกวัน 4 เวลาคือ 6.00 น., 12.00 น., 15.00 น., 18.00 น.
มาทันได้ยินเสียงระฆังดังในเวลาบ่าย 3 โมงตรงพอดีเลยอ่ะ เหง่งหง่างๆ
ด้านล่างของหอระฆังนั้นก็มีศาลเจ้าเล็กๆตั้งอยู่ด้วยนะ
ลืมบอกไปว่าที่ย่านนี้เราจะเห็นหญิงสาวสวมชุดกิโมโนสวยๆมาเดินผ่านไปมาเป็นปกติเลยล่ะ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงบ่ายสามโมงแล้วแท้ๆ แต่เรายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย พอดีมองไปฝั่งตรงข้ามกับหอระฆังก็เห็นมีร้านอาหารอยู่ร้านนึงชื่อว่า "近長魚店" อ่านจากป้ายดูเค้าเปิดสองช่วงเวลาคือ 11:30～16:00(L.O.15:30) และ 18:00～21:00(L.O.20:30) ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสามโมงแสดงว่ายังกินได้อยู่ เลยเดินเข้าร้านมา
ร้านนี้มีเซ็ตอาหารหลากหลายดี ส่วนมากจะเป็นพวกซาซิมิกับพวกดงบุริอาหารทะเลสดๆ แต่เราสนใจเมนูนึงคือ "แก้มปลามากุโร่ย่าง" เลยสั่งมากิน ซึ่งมันอร่อยมากๆ รู้สึกเหมือนได้กินเนื้อย่างมากกว่าเนื้อปลา หอมและรสชาติดีจริงๆ เซ็ตนี้ราคา 1,600 เยน พอได้กินแล้วรู้สึกว่ามันไม่แพงเลย
กินข้าวเที่ยงเสร็จก็ต้องต่อด้วยของหวานเนอะ.. แถวนี้มีซอฟต์ครีมมันม่วงที่ขึ้นชื่ออยู่(เพราะขายกันแทบทั้งบาง)
ซื้อมากินซะหน่อย โคนละ 300 เยนล่ะ มันก็จะหอมๆแต่รสชาติมันก็จะมันๆนมๆหน่อย
เดินออกจากถนนคะเนะทสึกิออกมาที่ถนนหลักคือคุระสึคุริอีกครั้ง ทีนี้ก็ได้เวลาเดินเพลิดเพลินไปกับร้านขายขนมนานาชนิดสองฝั่งข้างทางแล้ว ขนมน่ากินทั้งนั้นเลย
คราวนี้เราจะเดินไปย่านที่ขายขนมหวานพวกลูกอมลูกกวาดกันบ้าง ซึ่งทางเดินจะอยู่ฝั่งซ้ายของถนนคุระสึคุริ เดินมาตามทางเรื่อยๆจะเจอคุณกิ้งก่าขี่เหรียญห้าเยนที่อยู่ด้านหน้าของร้านอาหาร うなっ子
เดินผ่านมาอีกนิดนึงจะเจอถนนเล็กๆเป็นทางเดินเข้าสู่ย่านร้านขายขนมหวาน
มีร้านขนมหวานโบราณอยู่ตามสองฝั่งข้างทางเลย แต่ละร้านก็มีขนมที่เหมือนกันบ้างต่างกันบ้างปะปนกันไปให้เราเดินเลือกซื้อกันอย่างมันส์มือ
ที่เห็นอยู่นี้คือลูกกวาดนะ กินได้จริงๆ ฮ่าๆ
ตั้งกระจาดขายขนมกันแบบนี้แล้วให้อารมณ์คุ้นๆเหมือนที่เมืองไทยเลยจริงๆ
เราเห็นหลายคนซื้อขนมปังยาวๆแบบนี้ถือไปมากันหลายคนเลย ตอนแรกนึกว่าดาบ ฮ่าๆ
เวลาเดินเล่นไปซื้อของกินไปนี่เป็นความเพลิดเพลินอย่างหาที่สุดมิได้จริงๆ กินกันจนอ้วนตัวแตกไปข้าง ฮ่าๆ
เดินวนแถวย่านร้านขนมหนึ่งรอบก็ไม่เหลืออะไรให้ทำอีกละ ก็เลยเดินกลับมาที่แถวถนนย่านการค้า Crea Mall เดินดูร้านค้านู่นนี่จนได้เวลามื้อเย็น เห็นร้าน "Italian Tomato Cafej Jr." นี้มีพาสต้าน่ากินดี กินตอนนี้คนยังไม่เยอะมากด้วย เลยเอาร้านนี้ล่ะ
สั่งเฟตตูชินี่ไวท์ครีมซอสมากิน
กินมื้อเย็นเสร็จก็เดินเล่นต่อในส่วนของถนนที่เหลือ ก่อนจะเดินกลับไปที่สถานีรถไฟเพื่อกลับโตเกียว
สถานีรถไฟคะวะโกเอะนั้น มีทั้งสถานีของรถไฟ JR และรถไฟ Tobu ล่ะ แต่ถ้าจะกลับโตเกียวให้ง่ายก็ต้องเป็นรถไฟ Tobu นะ ไม่งั้นก็ต้องไปขึ้นรถไฟ Seibu นั่นก็กลับโตเกียวได้ แต่ว่าต้องเดินอีกนิดไปขึ้นรถไฟนั้นที่สถานี Hon-Kawagoe ไม่ใช่สถานี Kawagoe นี้
ซื้อตั๋วรถไฟกลับโตเกียวแล้วก็เดินเข้าสู่ชานชาลากันเลย
เราก็จะนั่งรถไฟ Tobu สาย Tojo Line นี้กลับไปลงที่สถานี Ikebukuro แล้วก็ต่อรถไฟ JR สาย Yamanote Line กลับไปลงที่สถานี Shin-Okubo เพื่อเก็บข้าวของที่ที่พักก่อน
เห็นเวลาเพิ่งจะสองทุ่มนิดๆ เลยไปเดินเล่นต่อแถวย่านชินจุกุ ตามที่แพลนไว้ถ้าหากมีเวลาเหลือก็ว่าจะไปชมวิวที่ตึก Tokyo Metropolitan Government Building หรือ "อาคารสำนักงานบริหารมหานครโตเกียวนั่นเอง"
เดินมาถึงถนนยะสึคุนิ หน้าจอ LCD ของตกห้าง LABI สาขาชินจุกุ
ข้ามถนนมาแล้วเดินไปทางขวามือ เดินรอดใต้ทางรถไฟเพื่อไปโผล่ทางฝั่งตะวันตกของย่านชินจุกุนี้
ย่านนี้ก็จะเต็มไปด้วยตึกสำนักงานมากมาย เราก็จะเจอพวกมนุษย์เงินเดือนเยอะหน่อยแถวนี้
เดินมาถึงบริเวณด้านหน้าทางลงสถานีรถไฟใต้ดิน Toei สาย Oedo Line สถานี Tochomae แล้ว สถานีนี้จะอยู่ด้านหน้าของตึก Tokyo Metropolitan Government Building หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า "Tokyo Tocho" ซึ่ง Tochomae ก็แปลว่าด้านหน้าตึกดังกล่าวนั่นเอง
ตึก Tokyo Metropolitan Government Building นี้เป็นตึกแฝดล่ะ มีความสูง 243 เมตร ชั้นชมวิวจะอยู่ที่ความสูง 202 เมตร สามารถชมวิวได้ทั้งจากตึกฝั่งเหนือและฝั่งใต้เลย แต่ว่าสองฝั่งจะเปิดเวลาไม่เท่ากันนะ ตึกฝั่งเหนือจะเปิด 9.30-23.00 น. แต่ตึกฝั่งใต้จะเปิดแค่ 9.30-17.30 น. เท่านั้น แล้วเรามาเอาป่านนี้ก็คงจะต้องไปที่ตึกฝั่งเหนืออย่างเลี่ยงไม่ได้ ฮ่าๆ (ลืมบอกว่าต้องขึ้นไปก่อน 22.30 น. นะ แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจกระเป๋าก่อนขึ้นลิฟท์ไปด้วยล่ะ)
ถึงแล้ว! จุดชมวิวที่อยู่สูง 202 เมตร ว่ากันว่าในวันที่ฟ้าโปร่งจะมองเห็นภูเขาไฟฟุจิเลยด้วยนะ!!
วิวจากจุดชมวิวบนตึก Tokyo Metropolitan Government Building ก็จะสวยๆประมาณนี้ (นี่ปรับแสงให้เห็นชัด)
นั่นมันตึก Nakano Sun Plaza นี่นา!
มองลงไปด้านล่าง..
ที่บริเวณจุดชมวิว เค้ามีร้านขายของที่ระลึกด้วยนะ ใครสนใจอยากได้ของติดมือกลับไปก็ลองเดินชมดูได้ๆ
ถ่ายรูปชมวิวอยู่จนถึงเวลาตึกปิดก็คือห้าทุ่ม ก็ลงลิฟท์มาแล้วเดินกลับที่พัก(จริงๆก็แวะซื้อของที่ดองกี้โฮเตด้วยน่ะนะ) มีโอกาสได้เดินผ่าน Bus Terminal ซึ่งทำเรางงมาก ถ้าขึ้นมาแล้วมันไม่มีทางออก เกือบหลง ฮ่าๆ
ปิดท้ายคืนนี้กับด้วย..ขนมที่เราซื้อมาจากร้านขนมที่คะวะโกเอะ เห็นมันถูกดีเลยซื้อมาเยอะแยะเลย กะจะเอาไปเป็นของฝาก อันไหนอร่อยบ้างก็ยังไม่รู้ ใครที่ได้รับของฝากไปรบกวนคอมเม้นท์กันด้วยเด้อ ฮ่าๆ
