2012.04.09 Japan Trip #1 Day11 - Shinjuku
และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของทริปนี้ ก่อนจะต้องเดินทางไปสนามบิน เรามีเวลาอีกประมาณครึ่งวันเช้า นั่นก็คงทำให้เราไม่ได้ไปไหนไกลนอกจากจะเดินไปแถวย่านชินจุกุที่สามารถเดินจากที่พักไปได้ง่ายๆ
หลังจากผ่านค่ำคืนแห่งการแพ๊คกระเป๋ากลับบ้านมาจนดึกดื่น เช้านี้ก็เลยตื่นนอนกันสายหน่อย กว่าจะเตรียมตัวเสร็จก็เกือบสิบโมงเข้าไปแล้ว..

มีเสบียงที่ซื้อจุนมาจากเมื่อวานไว้กินตอนเช้าก่อนไปเดินเล่ยที่ชินจุกุ คะเรปังสุดอร่อยที่ซื้อจากร้านที่ย่านนะคะโนะ แล้วก็นมกล่อง ส่วนเป๊ปซี่นี่เก็บไว้กินระหว่างเดินเล่น

เวลา check-out คือ 10.00 น. เก็บกระเป๋าเดินออกจากห้องพักหมายเลข 103 ที่อยู่อาศัยมา 10 คืนเต็มๆ ถือว่าเป็นที่พักที่ดีเลยล่ะ ห้องใหญ่กว้างขวางและกำลังใหม่อยู่ ถ้ามีโอกาสคงแวะมาพักอีกทีแน่นอน

ออกจากที่พักมาโดยฝากกระเป๋าเดินทางไว้ก่อน เดี๋ยวกลับไปเอาตอนจะไปสนามบิน เดินมาทางด้านหลัง มุ่งหน้าสู่ชินจุกุ มีห้างหลายห้างเลยที่อยากจะแวะเข้าไปเดิน แต่ก็ต้องคอยดูเวลาเอาไว้ด้วย เดี๋ยวไปสนามบินช้าเกินจะแย่

มาถึงสี่แยกตรงที่มีจอ VTR ยักษ์ของห้าง LABI สาขาชินจุกุ เริ่มรู้สึกว่าแดดร้อนจริงๆเลย (อุณหภูมิเกือบ 30 องศา) ดีนะที่มาร้อนเอาวันสุดท้ายวันเดียว..

เดินไปตามซอกซอยเล็กใหญ่ของชินจุกุ ร้านค้าเยอะดีจังแถวนี้

เดินออกไปทางซ้ายแถวๆ 3-chome นี่ห้างใหญ่บานเบอะเลย ทั้ง OIOI ทั้ง ISETAN โอ้โหมากๆ เอาไว้มีโอกาสกลับมาอีกทีค่อยมาเดินเล่นนะ ตอนนี้ไม่ทันละ ฮ่าๆ

ห้าง BIG CAMERA ที่นี่ก็สาขาใหญ่โตมากๆ

เดินวกกลับมาตรงถนนเส้นหลักหน้าย่านคาบุกิโจอีกครั้ง เอาง่ายๆก็เดินชอปปิ้งแค่โซนนี้นั่นล่ะ จะได้ไม่เสียเวลาจนเกินไป

ข้ามหนนกลับไปแถวๆร้านดองกี้โฮเท โซนนี้ก็ร้านค้าเยอะแยะละ สุดท้ายได้เสื้อสูทมือสองมาตัวนึงราคา 2,079 เยน

ร้านยา Matsumoto KiYoshi เป็นร้านที่เหมาะกับคุณผู้หญิงมากๆ ว่าด้วยเรื่องของเครื่องสำอางและยา ถือว่ามีครบครันเลยล่ะ เราก็ซื้อแว็กแต่งผมมาหระปุกนึงที่ร้านนี้

ขนมราคาถูกก็พอมีขายอยู่บ้าง น่าซื้อกลับไปเป็นของฝากอยู่เหมือนกันแฮะ..

เดินชอปปิ้งจนถึงเกือบบ่ายก็ถึงเวลาอันสมควรละ แต่ก่อนจะไปสนามบินก็ต้องหาข้าวเที่ยงกินก่อน เดินวนอยู่แถวย่านคาบุกิโจ ผ่านร้านราเม็งร้านนึง ดูน่ากินดีนะ เอาร้านนี้ละกัน จะได้ไม่เสียเวลาเลือกร้านนาน ร้านนี้ชื่อร้านว่า "Kamukura" ล่ะ

เป็นร้านกดตู้สั่งออเดอร์หน้าร้าน เลือกเมนูแล้วหยอดเงินซื้อ เอาหางตั๋วไปยื่นที่เค้าน์เตอร์นั่งกินอีกที

สั่งชาชูเม็ง+ไข่+เนงิไป ราคาชามนี้ 1,000 เยนถ้วน อร่อยดี

อิ่มแล้วทีนี้ก็ได้เวลาไปสนามบินกันซะทีละ เดินกลับไปเอากระเป๋าเดินทางที่โรงแรม ก่อนจะพากันไปขึ้นรถไฟ JR สาย Yamanote Line ที่สถานี Shin-Okubo ไปลงที่สถานี Nippori (ค่าโดยสาร 160 เยน) จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วรถไฟ Keisei สาย Main Line Rapid เหมือนที่นั่งขามา ไปลงที่สถานี Narita Airport Terminal 1 (ค่าโดยสาร 1,000 เยน)

ยืนรอรถไฟที่จะมาถึงตอนบ่ายสองนิดๆ ระหว่างรอก็มีรถไฟ Skyliner ที่เป็นรถด่วนผ่านหน้าไปขบวนนึง เอาไว้คราวหน้าจะลองนั่งดูบ้าง

ขึ้นรถไฟมาละ จากสถานี Nippori ใช้เวลาประมาณ 80-90 นาที ก็จะไปถึงสนามบินนาริตะ

มาถึงสนามบินประมาณบ่ายสามโมงครึ่งได้ ก็ไปต่อแถว check-in รับตั๋วเครื่องบิน แล้วก็เดินเข้าเกทผ่านตม.ต่อทันที

ไฟลท์กลับของเราของ Delta Airlines เครื่องออกเวลา 18.45 น. ล่ะ

มีเวลาเดินชอปปิ้งของฝากถึง 2 ชั่วโมงเต็มๆ เลยไม่ค่อยรีบร้อนเท่าไหร่ ค่อยๆเดินไปทีละร้าน ร้านของฝากของที่ระลึกที่ Terminal 1 นี้มีเยอะมาก แน่นอนว่าเราก็ต้องซื้อของฝากเช่นกัน คุณแม่อยากกิน Tokyo Banana ซิ โดนค่าของฝากไปอีก 6,409 เยน ฮ่าๆ

ชอปปิ้งกันเสร็จเรียบร้อย ใกล้เวลาบอร์ดดิ้งคือ 17.50 น. ก็เดินมารอขึ้นเครื่องที่เกท (หมายเลข 24 นี่ล่ะ)

เครื่องออกดีเลย์นิดๆ ไม่มีปัญหาอะไร ขึ้นเครื่องไปก็นั่งรอกินมื้อเย็นบนเครื่อง ขอเติมเครื่องดื่มเยอะจนคุณป้าแอร์โฮสเตสสัญชาติอเมริกันแกล้งตีที่ไหล่เลย แกตลกดี ฮ่าๆ

ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง เครื่องแลนดิ้งที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 0.15 น. รอรับกระเป๋าเดินทาง แล้วก็แยกกับคุณแฟนไปขึ้นแท็กซี่กลับบ้านที่มีนบุรี (คุณแฟนมีพ่อมารอรับ) ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพครับ! เช็คสภาพข้าวของในกระเป๋าเดินทางก็โอเคดี ไม่มีอะไรแตกหักเสียหายเนอะ

หลังจากกลับไทยก็คงต้องไล่แจกของฝากให้หมดก่อนหยุดยาวช่วงสงกรานต์ละนะ ไม่งั้นกลัวว่ามันจะหมดอายุหรือไม่ก็เริ่มเก่าซะก่อน ของฝากนี่เน้นชาเขียวมากๆเลย ฮ่าๆ
จบแล้ว! ทริปญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา เป็นการเปิดโลกให้เรามากๆเลยล่ะ จากคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น ยิ่งเรื่องรถไฟนี่เป็นศูนย์เลย กลับมาถึงไทยก็พบว่าตัวเองเริ่มมีความรู้ขึ้นและเริ่มสนใจประเทศนี้มากขึ้นเยอะ ครั้งต่อไปสัญญาว่าจะทำการบ้านมาก่อนเดินทาง และจะต้องเก่งขึ้นคล่องขึ้นกว่านี้ให้ได้เลย
รวมๆแล้ว ทริปนี้ใช้เงินไปประมาณ 65,000 บาท(บวก/ลบนิดหน่อย) ไปทัวร์ก็คงราวๆนี้ล่ะ แต่ไปเองอยู่ได้นานกว่าทัวร์อีกเกือบเท่าตัวเลยจริงๆ เพราะงั้น มาแพ๊คกระเป๋าเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง กันเถอะครับ ^_^