top of page
  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon

2012.08.03 Japan Trip #2 Day2 - Asakusa, Harajuku, Yoyogi, Shibuya


เช้าวันนี้กะไว้ว่าจะพาเพื่อนร่วมทริปทั้งสามคนไปไหว้พระที่วัดเซ็นโซจิซะหน่อย ก่อนที่จะไปเดินเล่นกันที่ฮาราจุกุและชิบุย่าต่อ

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในห้องเล็กๆแบบเตียงสองชั้นกับคนสี่คน แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมออกเดินทาง

ห้องนอนพวกเราอยู่ที่ชั้น 3 ของ Guest House

ภาพด้านหน้าของ "Khaosan Tokyo Annex Guest House Asakusa" ถ่ายตอนกลางวันเห็นป้ายด้านหน้าชัดกว่า

เดินข้ามสะพานอะซุมะหรือสะพานอะสะคุสะกลับมาที่ย่านอะสะคุสะ ก็จะได้พบกับประตูคะมินะริมง ซึ่งเป็นประตูเส้นทางเข้าสู่วัดเซ็นโซจิ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากมายอยู่แถวๆนั้น

เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้มาเยือนวัดที่อะสะคุสะนี้

เดินผ่านไปตามถนนเข้าสู่ตัววัดที่กลายเป็นถนนชอปปิ้งที่มีชื่อว่านะคะมิเสะ (Nakamise Shopping Street) มีความยาวประมาณ 300 เมตรกว่าๆ ร้านรวงสองข้างทางรวมถึงตรอกใกล้ๆอีกมากมายหลายร้อยร้านเลย เราก็แวะซื้ออะเกะมันจูกินไปสองก้อนรองท้อง ฮ่าๆ

เดินผ่านบรรดาร้านรวงต่างๆเข้ามาด้านในก็จะพบกับประตูโฮโซมง เป็นประตูทางเข้าวัดชั้นใน

สังเกตจะเห็นว่าไม่ว่าประตูใหญ่ประตูไหนก็จะต้องมีโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่แขวนไว้อยู่ใต้ขื่อประตู

เดินผ่านเข้าประตูโฮโซมงเข้ามา ก็จะได้เห็นตัวอาคารหลักของวัดเซ็นโซจิหรือก็คืออะสะคุสะคันนง ด้านข้างทั้งซ้ายและขวามือที่เห็นสองฝั่งข้างทางเดินนั้นจะเป็นซุ้มขายและให้เช่าเครื่องรางและของที่ระลึก รวมถึงเซียมซี "โอมุกุจิ" ด้วย

เดินมุ่งหน้าขึ้นไปที่อาคารหลักของวัดเพื่อไหว้พระและเจ้าแม่กวนอิม ระหว่างทางมองทางขวาก็จะเห็นเจดีย์ห้าชั้นอยู่

ไหว้ขอพรกันครับ

วิธีสักการะนั้น ก็คำนับก่อน แล้วก็โยนเหรียญลงไปตรงช่องไม้ด้านหน้านี้ ตบมือสองครั้ง แล้วก็อธิษฐานขอพร จากนั้นก็คำนับอีกครั้งเป็นการแสดงความเคารพ

จากนั้นก็เดินดูบริเวณรอบๆวัด มีรูปปั้นพระยูไลบ้างพระจิโซบ้างอยู่ด้วย

และที่เป็น recommend ในบริเวณใกล้ๆวัดที่อะสะคุสะนี้ ก็จะเป็นร้านเมล่อนปังและซอฟต์ครีมกับน้ำแข็งไสเจ้าดั้งเดิม "คะเก็ตสึโด" ร้านนี้ชื่อเสียงดังพอตัวเลยนะ ดาราศิลปินก็แวะมากินกันเยอะ

ปอนด์ซื้อน้ำแข็งไสมากินถ้วยนึง ขโมยกินไปคำนึง อร่อยดีนะ หวานๆหอมๆดี ขออีกคำ!!!

จากอะสะคุสะ เรานั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line สีส้มยาวๆ จากสถานี Asakusa ไปลงที่สถานี Omote-sando เกือบสุดสายแน่ะ ไปอีกสถานีนึงก็สถานี Shibuya คือสุดสายแล้วนะนั่น ฮ่าๆ

มาถึงโอโมเตะซังโดแล้ว ก็เดินไปทางสวนโยโยงิที่อยู่ไม่ห่างไปเท่าไหร่นัก ที่นั่นจะมีเทศกาลดนตรี a-nation จัดอยู่เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์ในเดือนสิงหาคมของทุกปีล่ะ

เดินข้ามสะพานลอยมา ปรากฏว่ามันยังไม่เปิดให้คนดูเข้าในเวลานี้แฮะ คงจะต้องไปทำอะไรอย่างอื่นแทนก่อน..

ตรงทางเดินผ่านระหว่างโยโยงิกับชิบุย่ามีชอปของ SKE48 ที่เราไปซื้อสินค้าเป็นประจำอยู่ ก็เลยเดินไปแวะซื้อรูปก่อนละกัน ปกติจะเดินมาจากฝั่งชิบุย่า แต่ครั้งนี้เดินมาจากทางโยโยงิบ้างละ

รอบนี้ซื้อรูปมิกิกับมิเอโกะ เมมเบอร์ของ Team KII ล่ะ น่ารัก!!

จากนั้นก็เดินข้ามถนนกลับมาเพื่อจะไปเดินเล่นชอปปิ้งที่ฮาราจุกุต่อ เดินผ่านศาลจ้าวเมจิจุงกิ (Meiji-jingu) แต่ไม่ได้เดินเข้าไปข้างในนะ แค่เดินผ่านจริงๆ

เดินเลาะไปตามสถานีรถไฟ JR ก็มาถึงถนนทะเคะชิตะ ถนนชอปปิ้งชื่อดังของฮาราจุกุ และ AKB48 Official Shop Harajuku ก็ดักรอเราอยู่ตรงปากทางเข้าถนนทะเคะชิตะเลย!

ถ้าจะเสียเงินอีกครั้งก็คงไม่แปลกใจ เดินผ่านทีไรก็เข้าไปเสียเงินในนี้ทุกทีสิน่า

จากนั้นก็เดินเล่นกันต่อยาวๆตลอดสาย ตั้งแต่ต้นจนสุดถนนชอปปิ้ง

ดูเวลาก็บ่ายกว่าๆแล้ว ไปหาข้าวกินกันเถอะ เดินผ่านร้านบุฟเฟ่ท์อาหารแนวๆฝรั่งๆ ราคาไม่แพงมาก ทะเบะโฮไดแค่ 1,850 เยนเอง มีทั้งของคาวและของหวานด้วยนะ เลยเดินเข้าร้าน "Tabasa" นี้กันหมดทั้งสี่คนเลย

ภายในร้านก็จะเป็นบุฟเฟ่ท์ที่มีอาหารนานาชนิดให้เลือกตักกินได้ตามใจชอบเลย ในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งไม่อั้นๆ

เราชอบกินพาสต้าครีมซอสต่างๆมาก ก็จะตักกินเยอะหน่อย (อันนี้เป็น 1 ใน 3 จานที่ตักกิน ฮ่าๆ)

ของคาวทำให้เท่าทุน แต่ของหวานทำให้คุ้มนะ! เครปเอย แพนเค้กเอย ไอศกรีมเอย จบกันความผอม..

กินอิ่มแล้ว ต่อไปก็เป็นช่วงเวลาการไปเดินซื้อของหน้าอีเว้นท์ a-nation แล้วจ้า

ไม่แน่ใจว่าวันนี้มีไลฟ์การแสดงสดของศิลปินวงไหนมั้ย แต่ที่แน่ๆคือคนเข้ามาซื้อ "กู๊ดส์" หรือสินค้าของศิลปินต่างๆกันเพียบเลยล่ะ เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เข้ามาเพื่อการนี้

บู๊ธขายสินค้าของแต่ละศิลปินที่ร่วมงาน a-nation ในปีนี้

ใช่แล้ว! เราซื้อผ้า EXILE TRIBE มา แล้วอีกอันก็ผ้าของงาน a-nation 2012 เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเคยมาดูงานนี้แล้ว

จากโยโยงิยิมเนเซี่ยมสถานที่จัดงาน a-nation 2012 เดินทะลุถนนชิบุย่าโคเอ็งไปชิบุย่ากันต่อ และเป้าหมายแรกๆในการมาชิบุย่าก็คือซื้อซีดีเพลงไอด้อลญี่ปุ่นที่ร้าน Tower Records สาขาชิบุย่านั่นเอง

แล้วก็โชคดีมากที่วันนี้มีฟรีไลฟ์ของวง Himekyun Fruit Can ที่เป็นวงที่เราชอบมาก กับวง nanoCUNE วงน้องในสังกัดค่ายเดียวกัน ทั้งสองวงเป็นวงไอด้อลจากจังหวัดเอฮิเมะ เราเริ่มชอบวงนี้ตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซิงเกิ้ลเพลง Koi ga Tomaranai โดนใจเรามากๆ

อันนี้คือ music video เพลง Koi ga Tomaranai ( ひめキュンフルーツ缶『恋が止まらない』MV )

ในเมื่อมีอีเว้นท์ ที่ Tower Records ในช่วงนี้ก็จะนำผลงานของ Himekyun Fruit Can มาวางแผงทุกซิงเกิ้ลทุกอัลบั้มที่มีเลย (เรามีซิงเกิ้ลครบแล้ว เหลืออัลบั้มที่ยังไม่มี)

Live Event ในวันนี้เป็นฟรีไลฟ์ที่สามารถไปรับบัตรเข้าชมไลฟ์ได้ที่ Information ของร้าน Tower Records สาขาชิบุย่านี้ได้เลย

รันหมายเลขเข้าอีเว้นท์ได้ 30 นาทีก่อนไลฟ์จะเริ่ม (ไลฟ์เริ่ม 18.30 น.)

บรรยากาศใน STAGE ONE ชั้น B1 ของ Tower Records สาขาชิบุย่า ไลฟ์วันนี้เริ่มต้นด้วย nanoCUNE แล้วจึงต่อด้วย Himekyun Fruit Can สนุกมากกกกกกกกก ยิ่งดูยิ่งรักน้องๆฮิเมะคุน

สำหรับช่วงบุปปังขายของหลังจบไลฟ์ในวันนี้ ถ้าซื้อแผ่นซีดีอัลบั้มของแต่ละวง จะได้บัตรสำหรับรับลายเซ็นหรือไซน์ไค 1 ใบ

เราซื้ออัลบั้มของ Himekyun Fruit Can 1 แผ่น (3,000 เยน) มา แล้วก็ไปต่อแถวซึ่งจะแยกแถวตามแต่ละเมมเบอร์ของวง เราไปต่อแถว "ไมไม" เซ็นเตอร์ของวงนี้ซึ่งเราชอบมากๆ พอถึงคิวเราก็บอกไมไมว่าเรามาจากประเทศไทยนะ น้องตกใจมากๆ เพราะนี่น่าจะเป็นคนต่างชาติคนแรกที่มาดูไลฟ์อีเว้นท์ของน้องๆวงนี้เลยล่ะมั้ง ตกใจมากขนาดต้องสะกิดโฮโนตันที่อยู่ข้างๆกันมาตื่นเต้นด้วยกัน ฮ่าๆ เราบอกว่าชอบฮิเมะคุนมากๆ แวะมาที่นี่เพื่อดูโดยเฉพาะเลยนะ(จริงๆโชคดีที่เจอพอดี) ไมไมยิ้มแบบหน้าบานกว่าปกติมากเลย สงสัยจะตื่นเต้นจัด เซ็นลายเซ็นไปคุยกันไปด้วย เราก็บอกว่าพรุ่งนี้เราจะไปดูงาน TIF ด้วยนะ จะตามไปดูที่นั่นด้วย ไมไมก็บอกว่าแล้วเจอกันนะ! เสียดายไม่ได้ถ่ายรูป มันต้องใช้บัตร 2 ใบถึงจะได้ถ่ายรูป ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันอีกครั้งแล้วล่ะเนอะ ส่วนปอนด์ไปต่อแถวของซากุจัง ซึ่งก็ฟินไม่แพ้กับเราเท่าไหร่ ฮ่าๆ

จบอีเว้นท์เดินออกมาจาก Tower Records ราวๆสามทุ่มเห็นจะได้ หิวนะแต่ไม่รู้ว่าจะกินอะไรที่ชิบุย่านี่ดี ก็เลยเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line จากสถานี Shibuya กลับไปลงสุดสายที่สถานี Asakusa แล้วไปหาข้าวกินแถวๆนั้นก็แล้วกัน

สุดท้ายก็ไปลงเองที่ร้านมัตสึยะ สั่งข้าวหน้าเนื้อ+ไข่อนเซ็น แล้วก็เดินกลับที่พักกันพร้อมหน้า

พรุ่งนี้แล้วนะครับ! กับการไปตะลุยงานอีเว้นท์ไอด้อลญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งแรกในชีวิตอย่าง "Tokyo Idol Festival 2012" ต้องเป็นเสาร์อาทิตย์ที่สนุกสุดๆเหนื่อยสุดๆและฟินสุดๆแน่เลย ว้าว!!

 
About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!

ชีวิตการท่องเที่ยวญี่ปุ่นและการเป็นติ่งรถไฟญี่ปุ่นของ Puttiano Rossi

  • Grey Facebook Icon
  • Grey Instagram Icon
  • Grey Twitter Icon

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

© 2023 by Extreme Blog. Proudly created with Wix.com

bottom of page