top of page
  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon

2012.08.04 Japan Trip #2 Day3 - Tokyo Idol Festival


และแล้ววันนี้ก็มาถึง.. การตะลุยเทศกาลงาน Tokyo Idol Festival 2012 มหกรรมงานชุมนุมของเหล่าไอด้อลมากมายถึง 111 ยูนิต 732 ชีวิต จากทั่วประเทศญี่ปุ่น งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 ส.ค. 2012 โดยจะมีเวทีถึง 11 เวทีด้วยกันให้เหล่าโอตาคุทั้งหลายวิ่งรอกเพื่อดูไอด้อลคนโปรดของตัวเอง

สำหรับโอตาคุญี่ปุ่นที่จะตามเฉพาะวงที่ตัวเองปลาบปลื้มมากๆไม่เกิน 3-5 วง หรือเหล่าตัวพ่อก็วงเดียวแต่ตามน้องๆไอด้อลคนโปรดไปทั่วทุกที่ในงานก็คงไม่ต้องวางแผนการรับชมอะไรกันมากมาย แต่สำหรับโอตาคุต่างชาติที่นานๆจะมีโอกาสได้มาเจอไอด้อลซักทีนึงนี่.. ต้องวางแผนกันอย่างดีเลยล่ะ

มาเที่ยวนี้ต้องดูให้คุ้มและทำภารกิจของตัวเองให้สำเร็จด้วย ก็คือเราจะต้องเอาเสื้อ Handmade ที่เตรียมมาไปให้เซรัน หนึ่งในสมาชิกของวง Cheeky Parade ที่เราชอบมากๆในวันแรกและให้สาวๆสมาชิกวง ぱすぽ☆ ทั้ง 9 คนในวันที่สอง แบ่งวันลงตัวแบบนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภารกิจจะราบรื่นล่ะนะ

เริ่มต้นออกจากที่พักราวๆ 07.30 น. สมาชิกในการตะลุยพบปะไอด้อลในวันนี้มี 3 คนคือเรา,ปอนด์และคุณเอเกรียงไกร พวกเรานั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line จากสถานี Asakusa (เพราะที่พักอยู่ที่อะสะคุสะ) ไปลงที่สถานี Shimbashi แล้วต่อรถไฟสาย Yurikamome Line ที่เป็นรถไฟฟ้าลักษณะเหมือนกับ BTS บ้านเราเลย จากสถานี Shimbashi ไปลงที่สถานี Telecom Center โดยสถานีนี้จะอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้าของงาน TIF เลย

รถไฟสาย Yurikamome Line นั้นจะวิ่งข้ามจากฝั่งแผ่นดินใหญ่ไปทางสะพานสายรุ้ง Rainbow Bridge ไปยั่งฝั่งโอไดบะที่เป็นเกาะถมทะเลอยู่ในอ่าวโตเกียวนั่นเอง

เดินลงจากสถานี Telecom Center มายังด้านหน้าของงาน จะเป็นเวที Welcome Marquee ซึ่งจะมีถ่ายทอดสดผ่านทาง Ustream ด้วย ที่เวทีนี้จะเป็นเหมือนรายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ที่มีไอด้อลเป็นแขกรับเชิญทำนองนั้น (ได้มีโอกาสดูเหมือนกันตอนเดินผ่านก่อนจะขึ้นรถไฟฟ้ากลับที่พัก)

มาถึงก็ต้องไปรอคิวเพื่อรับสายรัดข้อมือเข้างาน แต่รอนานมากเพราะเค้าเรียกรับตามเลขที่บัตรของตั๋วที่ซื้อ ระหว่างนั้นพวกเราทั้งสามก็เลยตัดสินใจลองไปเดินดูสถานที่รอบๆงานดูกันก่อน ไล่ไปตั้งแต่ Grand Market ที่เป็นโซนที่วงต่างๆจะนำสินค้าของวงมาวางขาย อาจจะเป็นไอด้อลที่มายืนขายด้วยตัวเองบ้างสตาฟฟ์วงขายบ้างแล้วแต่วง กับอีกโซนใกล้ๆกันตรงใต้ตึกข้างๆคือ Greeting Square จะเป็นโซนที่จัดอีเว้นท์(เรียกว่าทคเท็งไค)พบปะแฟนๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับมือ,การแจกลายเซ็น,การถ่ายรูปคู่ ประมาณนี้ ช่วงนี้ล่ะที่เราจะได้มีโอกาสมอบของให้กับไอด้อลที่ชอบ

เดินเรื่อยไปจนถึงห้าง Zepp Tokyo Divercity ซึ่งมีกันดั้มยืนตระหง่านอยู่ด้านหน้า

เป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาเห็นกันดั้มตัวเป็นๆถึงที่โอไดบะ

เดินดูนั่นนี่เสร็จก็กลับไปแถวๆเวที Smile Garden ที่เป็นเวทีหลักของงานกลางสนามหญ้า บัตรของเราคิวที่ 2,000 กว่าๆ รอจนงานเริ่มไปประมาณ 10-15 นาทีแล้วแน่ะกว่าจะได้ ในที่สุดก็ได้ลิสต์แบนด์ผู้ร่วมงานซะที

เมื่อได้ลิสต์แบนด์มาแล้ว ก็เข้าไปลุยงานไอด้อลนี้กันเล้ย! เริ่มจากเวทีแรกที่เป็นเวทีเปิดงาน นั่นคือ Smile Garden ตอนนี้วงแรกคือวง Dorothy Little Happy เพิ่งแสดงจบไปหมาดๆ โดย Smile Garden นี้เป็นเวทีเปิดชนิดที่คนที่ไม่ได้ซื้อตั๋วหรือเดินผ่านมาผ่านไปเพื่อเที่ยวชมบรรยากาศรอบๆโอไดบะก็สามารถดูได้เพราะเป็นเวทีที่จัดกันกลางแจ้งเลย

แน่นอนครับว่า..วงที่เราติดตามและเฝ้ารอชมการแสดงก็คือ Cheeky Parade ซึ่งขึ้นแสดงเป็นวงที่ 3 ของสเตจนี้ เพราะเป็นวงโปรดอันดับ 1 ในใจ ไม่ว่าแดดจะร้อนซักแค่ไหนก็จะต้องดูให้ได้เลย!

และแล้วสเตจแรกของน้องๆ Cheeky Parade ในงาน TIF ก็มาถึง น้องๆเปิดตัวด้วย Intro เปิดตัวประจำของวง และต่อด้วยเพลง Cheeky Dreamer เพลงเปิดตัวของน้องๆตั้งแต่แรกเริ่มเดบิวเช่นเคย เพลงนี้เราเต้นตามน้องๆได้อย่างไม่มีขัดเขิน เหล่าแฟนคลับของน้องๆก็เช่นกัน วันนี้มากันเยอะมากๆ ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าเวลาผ่านไป 4 เดือน น้องๆจะมีแฟนคลับเยอะขึ้นได้ขนาดนี้ เห็นแล้วก็รู้สึกปลื้มใจ ปลื้มที่น้องๆเริ่มมีแฟนคลับเยอะเริ่มโด่งดัง ได้คอยติดตามดูไอด้อลที่ชื่นชอบเติบโตขึ้นเรื่อยๆมันก็สนุกดีออกนะ! ส่วนอีกสองเพลงที่น้องๆแสดงบนเวทีแรกนี้เป็นเพลงใหม่คือเพลง Tactics ซึ่งจุดเด่นก็คือท่าเต้นแบบ robot และเพลง Cheeky Fighter ที่เป็นเพลงสนุกๆแฝงไว้ด้วยความฮาๆแบบน่ารักของน้องๆ ท่าเต้นนี่เอาใจโอตาคุไปเลย ผมดูไป 2 รอบก็เต้นตามเชียร์ตามได้แล้วล่ะ จบ 3 เพลงก็เป็นอันจบสเตจแรกของน้องๆ ประทับใจมาก! น้องๆพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นแล้วจริงๆ แฟนๆก็เชียร์กันมันส์ เต้นตามก็เยอะ เห็นแล้วมีความสุขจริงๆ

จบจากสเตจแรกของน้องๆ Cheeky Parade เราตั้งใจจะเดินไปดูวง LinQ ต่อที่เวที Hot Stage ซึ่งอยู่ด้านในสุดของบริเวณงาน แต่ก่อนหน้านั้นเราต้องเดินผ่าน Grand Market ก่อน ซึ่งสถานที่นี้ทำให้เราได้ซาบซึ้งในเนื้อเพลงของพี่ฟอร์ดที่ว่า "หยุดตรงนี้ที่เธอ ไม่ไปไกลแล้วใจ.." จริงๆ.. คิดดูนะว่าเวลาคุณเจอไอด้อลมากหน้าหลายวงมายืนขายของอยู่ที่เต๊นท์ของตัวเอง บ้างก็ขายของเอง บ้างก็รอแจกลายเซ็น บ้างก็รอถ่ายรูปกับแฟนๆ เจอแบบนี้เข้าไปแทบไม่อยากกระดิกไปไหนเลย! ส่วนใหญ่ก็เป็นไอด้อลชั้นรองและชั้นไต่เต้าขึ้นมาใหม่ทั้งนั้น(ซึ่งไอด้อลระดับจิกะนี้ล่ะที่เราชื่นชอบมากกว่าไอด้อลที่ดังแล้วซะอีก เพราะความที่เข้าถึงได้ง่ายนั่นเอง) แต่จะไม่เห็นไอด้อลวงดังๆมาทำแบบนี้นะ คือดังอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมาล่าแฟนคลับเพิ่มก็เยอะอยู่แล้วอะไรแบบนี้ มีหน้าที่อยู่ 2 อย่างคือขึ้นแสดงบนเวทีกับมาร่วมอีเว้นท์จับมือเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว..

ในเมื่ออุตส่าห์เดินผ่านเข้ามาแล้ว เราก็เลยไปต่อแถวซื้อของของน้องๆ Cheeky Parade ซะเลย ก็ได้เสื้อยืดวง,ผ้าเชียร์และพัดอีก 3 อัน(ลายเซรัน,ยุริยะ,โมโมะซัง) ป้ายที่เต๊นท์ขายของเขียนไว้เค้าบอกว่าซื้อครบ 1,500 เยนจะได้บัตรจับมือ 1 ใบ พอเราเอาบิลไปแลกบัตรจับมือก็ได้มา 3 ใบ ซึ่งหมายถึงจะได้จับมือน้องๆครบ 9 คนแน่ๆ เพราะน้องๆจะถูกแบ่งแถวจับมือเป็น 3 แถวๆละ 3 คนพอดี และบัตรก็มี 3 สี 3 ใบด้วย (ของแบบนี้รู้กันได้ด้วยประสบการณ์ที่เคยมาดู Debut Live ของน้องๆเมื่อเดือน 4 ที่ผ่านมานั่นล่ะนะ!) โอกาสที่จะได้จับมือและพูดคุยกับน้องๆมาถึงแล้ว ดีใจมาก! จะได้เป็นการล้างแค้นรอบก่อนที่พลาดท่าไม่ได้จับมือกับน้องๆไปในตัว ตอนนี้เหลือแค่รอเวลาจับมือเท่านั้น ซึ่งเราได้ถามทางสตาฟฟ์ไปว่าอีเว้นท์จับมือของน้องๆมีกี่โมง เค้าก็บอกว่ามีตอนบ่ายโมงตรงที่ Greeting Square

(จริงๆแล้ว ในขณะที่กำลังต่อแถวซื้อของ Cheeky Parade อยู่ เราแอบมองน้องๆวง Jewel Kiss ไปด้วยเพราะอยู่เต๊นท์ข้างๆกันเลย น้องๆดูจะยังเด็กมาก วิ่งเล่นสนุกสนาน ในขณะเดียวกันก็โดนโอตาคุตัวพ่อป้ออยู่หน้าเต๊นท์ด้วย เราเลยคิดในใจว่าไว้เย็นๆจะกลับมาคุยด้วยดีกว่า ตอนนี้ขอเดินไปดูวงอื่นๆก่อนและกัน)

หลังจากซื้อของ Cheeky Parade เสร็จ เราก็เดินวนรอบๆ Grand Market เพื่อสำรวจดูว่ามีไอด้อลวงไหนมาขายของที่เต๊นท์อีกบ้าง ก็ได้เจอไอด้อลที่รู้จักตัวเป็นๆมากมายหลายวงเลย! ทั้ง palet งี้ ステーション♪ งี้ KNU งี้ JK21 งี้ เยอะแยะมากมาย เดินวนดูครบหนึ่งรอบก็มาหยุดตรงหน้าเต๊นท์ของน้องๆวง choice? ที่เราเคยบอกว่าจะต้องมาดูไลฟ์ให้ได้ บังเอิญมาเจอน้องๆตอนกำลังขายของที่เต๊นท์พอดีเลย! แน่นอนว่าเจอตัวเป็นๆเช่นนี้มันก็อยากจะเข้าไปพูดคุยบอกกับน้องๆให้ได้รู้ว่ามีแฟนคลับจากเมืองไทยมาดูด้วยนะ(เป็นจุดประสงค์หลักของการมาดูไอด้อลในงาน TIF ครั้งนี้เลย คือต้องการบอกให้น้องๆไอด้อลหลายๆวงได้รับรู้ว่ามีแฟนๆจากต่างประเทศด้วยนะ ไม่ว่าคุณจะเป็นวงเล็กๆไม่ค่อยดังแค่ไหน เป็นวงไอด้อลภูธรหรืออินดี้ยังไงก็ยังมีแฟนคลับที่ต่างประเทศนะ อะไรแบบนี้) กติกาของเต๊นท์นี้คือ ซื้อของอย่าง CD หรือ ผ้าเชียร์ หรือ รูปเซ็ต จะได้ลายเซ็นหรือไม่ก็ได้ถ่ายรูปกับน้องๆ โดยดูๆแล้วยูนิตอื่นๆของค่าย Finolia Factory ที่อยู่เต๊นท์ติดๆกันอย่าง Survive-Zero และ Rizumu ก็น่าจะใช้กติกาเดียวกัน

แต่สำหรับวง choice? นี่ แบบว่าแค่เห็นหน้าของ คุรุมิน กับ มิซึแฮม ก็แทบจุกแล้วล่ะ! สาวน้อยทั้งห้าจากค่าย finolia factory น่ารักในระดับไอด้อลหัวกะทิเลยด้วยซ้ำ! ไม่คิดว่าเจอตัวเป็นๆแล้วน้องๆจะน่ารักได้ถึงขนาดนี้! เราก็เลยแบบว่าเอาวะ..ซื้อผ้าเชียร์ซะเลย แถมซื้อซิงเกิ้ลล่าสุดอีกซักแผ่น ก่อนจะบอกน้องๆว่าเป็นแฟนคลับ choice? มาจากไทยนะ น้องๆเค้าตกใจกันใหญ่แล้วก็พูดว่าขอบคุณที่ชอบนะคะ ได้จับมือน้องๆด้วย แบบไล่ไปทีละคนเลยในตอนที่น้องๆเซ็นชื่อลงบนผ้าเชียร์ที่ซื้อ มิซึแฮมหน้าหวานมากๆ ลีดเดอร์อย่างมาโอะจังก็ตัวสูงชะมัด

พอถึงตอนที่คุรุมินกำลังจะเริ่มเซ็นชื่อ เราก็เรียกคุรุมินแล้วก็บอกว่าคุรุมินเป็นโอชิเมนของเรานะ น้องเค้าก็ "อ๊ะ!ขอบคุณค่า" แล้วน้องก็ถามชื่อเราเพื่อจะได้เขียนชื่อให้บนผ้า สุดท้ายก็ได้ลายเซ็นมาครบ แล้วเราเห็นโอตาคุคนก่อนๆเค้าถ่ายรูปน้องๆกันด้วยเลยถามน้องๆว่าถ่ายรูปได้มั้ย? น้องๆก็บอกว่าได้เลยค่ะ เราก็เลยถ่ายรูปหมู่น้องๆทั้งห้าโดยที่น้องๆยืนถือผ้าที่เซ็นลายเซ็นให้เรา (ปอนด์ก็ทำเหมือนเรานี่ล่ะ เลยได้เหมือนกันทั้งคู่ ฮ่าๆ) จากนั้นก็บ๊ายบายน้องๆทั้งห้า ถึงจุดนั้นก็ตั้งใจไว้และว่าจะไปดูการแสดงของน้องๆในงานนี้ซักรอบให้ได้ด้วย~

หลังเดินออกจากเต๊นท์ของน้องๆวง choice? ซึ่งอยู่ล๊อคที่สองแล้ว เราเดินกลับเข้าไปด้านในล๊อคนี้อีกรอบ ก็เจอเต๊นท์ของวง Himekyun Fruit Can และ nanoCUNE วงที่เราเพิ่งจะไปดู Free Live เมื่อวานนี้ที่ Tower Records ชิบุย่า ซึ่งได้จับมือ+ได้ลายเซ็นของน้องไมไมกลับมาด้วย ที่บู๊ทเขียนป้ายว่าซื้อผ้าเชียร์จะได้บัตรจับมือ ถ้าซื้อเสื้อจะได้บัตร 2 shots หรือก็คือถ่ายรูปคู่นั่นล่ะ แต่ว่าเราซื้อแค่ผ้าเชียร์มา(ผืนสีดำ) แบบว่าขอแค่เข้าไปจับมือทักทายก็พอและ.. กะแบบไปจับมือทักทายน้องๆโดยเฉพาะไมไมว่าเรามาตามที่บอกเมื่อวานนี้แล้วนะ คือเมื่อวานตอนที่จับมือเราบอกไมไมว่า..ผมมาจากไทยนะ! ชอบฮิเมะคุนมาก ไมไมเซอร์ไพรส์มากคือน้องเค้าไม่คิดว่าวงของเค้าจะโด่งดังไปถึงต่างประเทศได้ล่ะมั้ง เราเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่มาจับมือกับฮิเมะคุนเลยด้วย ก่อนเดินออกมาก็บอกไมไมไปว่าพรุ่งนี้เจอกันที่งาน TIF นะ น้องเค้าก็ถามว่าไปดูด้วยหรอคะ? เราก็บอกว่าใช่ น้องไมไมเค้าก็เลยบอกว่าแล้วเจอกันนะคะ วันนี้ก็เลยจะมาทักทายเฉยๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย จะถามไมไมว่าจำคนไทยเมื่อวานได้มั้ยก็แค่นั้นด้วย

มองนาฬิกาอีกทีจะเที่ยงและ สุดท้ายก็พลาดดูวง LinQ ที่ Hot Stage รวมถึงสเตจที่ 2 ของ Cheeky Parade อีกทั้งสเตจแรกของ Himekyun Fruit Can ไปซะแล้ว! นี่ล่ะเราถึงได้บอกว่าควรระวัง Grand Market กับ Greeting Square เอาไว้ให้ดี เข้าไปแล้วออกยากมาก ถ้ามัวแต่จะเดินซื้อของนู่นนี่เพื่อไปจับมือไอด้อลหรือมัวแต่ไปยืนดูยืนคุยกับไอด้อลที่อยู่ที่นั่น จะทำให้พลาดการดูไลฟ์สเตจได้อย่างที่เราเจอนี่ล่ะ!

ไม่เป็นไรๆ ที่พลาดไปแล้วไว้ไปหาดูเอาพรุ่งนี้ก็ได้เนอะ พอเริ่มคิดได้เราและคณะก็วิ่งกลับไปรอดูวง Afilia Saga East ที่ Smile Garden กัน มันเริ่มเวลาเที่ยงตรงพอดี สาวๆอฟิเลียมาร้อง 3 เพลงด้วยกัน มี La.La.La Revolution เพลงโปรดของเราด้วย! เต้นตามเชียร์ตามสนุกมากๆเลย แล้วยิ่งมากับปอนด์ที่มารอบนี้เพื่อดูอฟิเลียโดยเฉพาะแบบนี้ สงสัยจะได้ดูซ้ำอีกหลายรอบแน่นอน ตอนนี้อฟิเลียคือวงโปรดอันดับ 1 ของปอนด์เค้าซิ ฮ่าๆ

จบจากไลฟ์สเตจของ Afilia Saga East ดูเวลาแล้วก็ใกล้จะบ่ายโมงและ ผมเลยรีบไปตรง Greeting Square เพื่อรอจับมือกับน้องๆ Cheeky Parade ทั้ง 9 คน โดยที่ทั้งปอนด์และคุณเอก็ตามมาด้วยเลย เนื่องจากว่าในเวลาไล่ๆกันนั้น Himekyun Fruit Can กับ Afilia Saga East ก็จะมามีอีเว้นท์จับมือที่นี่ด้วย โดยฮิเมะคุนจะมาตอนบ่ายโมงครึ่ง ส่วนอะฟิเลียนี่มาตั้งแต่บ่ายโมงเลย เราไปจับมือน้องๆ Cheeky Parade ก่อนเพราะว่าน้องๆมาแค่ครึ่งชม.เท่านั้น มีรอบเดียวด้วยวันนี้ ก็เลยต้องรีบหน่อย ตอนเรามายืนรอได้ซัก 4-5 นาที น้องๆ Cheeky Parade เพิ่งจะเดินมาถึง ตอนน้องๆเดินผ่านทางมานี่ เราก็เรียกชื่อแล้วโบกมือให้ น้องๆโบกมือกลับด้วยรอยยิ้มทุกคน ยกเว้นท่านมหาเทพโมโมะซังที่คุณน้องแกทำท่าตะเบ๊ะให้ซะงั้น! ฮ่าๆ

พอน้องๆมาเข้าแถวตรงโต๊ะจับมือซึ่งแบ่งกลุ่มน้องๆเป็น 3 แถวๆละ 3 คน เรามีบัตรทั้ง 3 ใบอยู่แล้ว ก็เลยได้จับมือทั้ง 9 คนแน่ๆ เอาล่ะ! ใกล้ถึงเวลาที่จะได้คุยกับน้องๆแล้ว~ และแน่นอน ภารกิจหลักของผมคือมอบเสื้อ hand-made ให้กับเซรันโอชิของเรา รอบนี้เราไม่กลัวที่จะได้คุยกับไอด้อลหรือคนญี่ปุ่นแล้วล่ะ รอบนี้เราเตรียมตัวฝึกภาษาญี่ปุ่นมาค่อนข้างดี คุยกับสตาฟฟ์รู้เรื่อง ฟังพูดถามนู่นนี่รู้เรื่อง ใช้ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ เพราะงั้นไม่ว่ายังไงก็จะไม่เฟลแน่นอน ว่าแล้วก็ต่อแถวแรกที่มี อะสะมิน,มาริยะ,เซรัน ก่อนเลย เพื่อจะได้เอาเสื้อไปมอบให้เซรันก่อนใครเพื่อน ช่วงเวลาสำคัญมาถึงแล้วครับ! การจับมือกับน้องๆ Cheeky Parade ครั้งแรกในชีวิต และกำลังจะเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวที่เคยจับมือกับน้องๆวง Cheeky Parade

เริ่มต้นคนแรกคืออะสะมิน!

พตน - “ฮัลโล่~ อะสะมิน”

อะสะมิน - “ดีค่า ขอบคุณที่มานะค้า”

พตน - “คือพี่เป็นคนไทยล่ะ มาจากไทยนะ ชอบจิกิป้ะมากเลย”

อะสะมิน - “อ๊า! จริงหรอคะ? แล้วชอบเมมเบอร์ของวงคนไหนคะ?”

พตน - “เอ่อ.. ชอบเซรัน”

อะสะมิน - “ไม่ได้ๆ ต้อง.. อะ..สะ..มิน สิ!”

พตน - “เอ่อ.. จริงๆแล้วพี่ก็ชอบทุกคนนะ..”

อะสะมิน - “ไม่ด้ายยยยย!! ต้อง อะ..สะ..มิน!”

พตน - “อ้า ได้ๆ อะสะมิน”

มัวแต่ต่อล้อต่อเถียงกับอะสะมินจนโดนสตาฟฟ์ไล่ให้เดินต่อไป ก็เลยได้แค่โบกมือให้อะสะมินแล้วบอกว่าไว้คุยกันใหม่ เหอๆ

คนต่อมาคือมาริยะ

พตน - “สวัสดีมาริยะ”

มาริยะ - “ดีค่า ขอบคุณที่มานะคะ”

พตน - “คือพี่เป็นคนไทยนะ”

มาริยะ - “ชื่อไทจิหรอ?”

พตน - “อ่า คนไทยน่ะครับ มาจากประเทศไทย”

มาริยะ - “อ๋อ! โอ้! จริงหรอคะ?”

พตน - “ใช่จ้า เป็นแฟนจิกิป้ะนะ”

มาริยะ - “ขอบคุณนะค้า”

ถึงตรงนี้เราเริ่มลุกลี้ลุกลนไม่รู้จะพูดอะไรกับมาริยะ เพราะมัวแต่จะรอให้ถึงคนต่อไปก็คือเซรันขวัญใจเราเอง มาริยะก็จ้องตาแป๋วมาที่ผมในแบบว่ารอฟังที่เราจะพูดต่อ เราก็เลยพูดไปว่า “ต่อไปก็พยายามเข้านะ” ซึ่งมาริยะก็ทำหน้าตามุ่งมั่นเกงกิแล้วตอบด้วยเสียงดังฟังชัดพร้อมกำหมัดแสดงความมุ่งมั่นว่า “ค่ะ! สู้ตายค่ะ!”

แล้วเราก็เดินมายืนอยู่ตรงหน้าของเซรัน โอชิของเรา ยิ้มหวานๆของน้องในระยะใกล้รวมทั้งสายตาที่จ้องมองมายังเรา เราเคยฝันถึงโอกาสแบบนี้มาแล้วเมื่อเดือน 4 แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะหาบัตรจับมือไม่ได้ มาในครั้งนี้ความฝันของเราเป็นความจริงแล้ว! เราเริ่มต้นคุยกับเซรัน

พตน - “ดีจ้า เซรัน”

เซรัน - “ดีค่า~”

พตน - “คือ..พี่เป็นคนไทยนะ มาจากประเทศไทยเลยล่ะ”

เซรัน - “เห! จริงหรอคะ? ขอบคุณที่มานะคะ”

พตน - “เซรันน่ะนะ เป็นโอชิเมนของพี่เลยนะ!”

เซรัน - “โอ้! ขอบคุณค่า ดีใจจัง”

พตน - “เอ่อ.. พี่มีของขวัญจะให้ล่ะ.. เป็นเสื้อ hand-made มีลายรูปเซรันด้วยตรงนี้ๆ” (หยิบเสื้อขึ้นมาให้เซรันดูแล้วก็ชี้ลายเสื้อที่มีตัวการ์ตูนรูปเซรันอยู่)

เซรันรับเสื้อไปดูแล้วก็ตอบว่า “อ๊า~ ขอบคุณมากเลยนะค้า” เซรันยิ้มหวานมาก!!!

บอกได้เลยว่าภารกิจของผมประสบความสำเร็จอย่างงดงามจริงๆ ดีใจมากๆที่ได้จับมือได้พูดคุยกับเซรัน รวมทั้งได้มอบของขวัญให้น้องเค้าด้วย! เป็นอีกหนึ่งโมเม้นท์ที่ประทับใจสำหรับ TIF ครั้งแรกในชีวิตเลยล่ะ จากนั้นเราก็ทิ้งท้ายกับเซรันว่า “เอาไว้เจอกันใหม่น้า” เซรันก็ตอบว่า “ค่า บ๊ายบาย” เป็นอันว่า Mission Complete!

จบแถวแรกไปแล้ว เราก็เดินไปต่อแถวที่แถวที่ 3 ก่อน โดยแถวที่ 3 นี้จะมี ริโนโนะ,มาริน,ฮินะจุง ต่อแถวอยู่ไม่นานก็ถึงคิวแล้วล่ะ แต่ 3 คนนี้เราขอไม่ลงรายละเอียดนะ เพราะจำไม่ได้โดยละเอียด มัวแต่จดจ่อกับอีก 2 แถวที่เหลือซะมากกว่า ตอนเดินมาถึงริโนโนะ คุณน้องแก give me five เราทั้งสองมือเลย เสียงของริโนโนะดังแปดหลอดมาก! เสียงเป็ดๆแหลมๆ ฟังแล้วตลกดี คนต่อมาคือมาริน คุณน้องดูหน้าบูดๆยังไงไม่รู้สิ เหมือนไม่ค่อยรับแขกอ่า ไม่ก็ฟังที่ผมพูดไม่เข้าใจมั้ง? แต่แบบดูน้องแกหน้าเฉยมากเลย ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่แฮะ เราพยายามพูดด้วยน้ำเสียงแบบกระชุ่นๆหน่อยแล้วนะเนี่ย.. คนสุดท้ายเป็นคิวของฮินะจุง ซึ่งคุณน้องก็ดูเฮ้วๆหน่อยตามสไตล์ของตัวเองที่ผมได้เคยเห็นมาตลอด 4 เดือนที่รู้จักมา ก่อนจาก..ฮินะจุงแท็กมือเราในแบบที่พวกฮิปฮอปทำกันด้วยล่ะ โคตรคูล! ท่วงท่าของฮินะจุงก็เข้าอยู่นะ ไม่น่าเชื่อว่าจริงๆแล้วข้างในจะแอบเป็นสาวหวาน ฮ่าๆ

หลังจากจบไป 2 แถวแล้ว ก็เหลือแถวสุดท้ายคือแถวที่ 2 ล่ะนะ! แถวนี้ขอเก็บไว้ปิดท้ายเลยเพราะสมาชิกของแถวนี้มี ยูเนี้ยง,โมโมะ,ยุริยะ ซึ่งทั้งหมดนี้คือไลน์อันดับต้นๆของเราทุกคน!! โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุริยะที่เราชื่นชอบในความสดใสกระตือรือร้นตลอดเวลา รวมทั้งท่านมหาเกรียนเทพโมโมะ อยากจะรู้นักว่าตัวจริงจะเกรียนเมพแค่ไหน(เท่าที่เห็นก็เกรียนตัวแม่เลย ตั้งแต่ตะเบ๊ะให้ผมตอนเดินมาถึง Greeting Square รวมทั้งกระดิกนิ้วแบบดาวยั่วให้กับเหล่าแฟนๆตอนที่กำลังต่อแถวจับมืออยู่ด้วย จะเอาฮาไปถึงไหนกัน? ฮ่าๆ) ใช้เวลาต่อแถวอยู่ไม่นานเช่นเดียวกัน ก็ถึงคิวของเราที่จะได้จับมือกับทั้ง 3 คนแล้ว~

คนแรกเลยคือยูเนี้ยง คนนี้เราก็ชอบมากๆ ยูเนี้ยงน่ารักมากจริงๆ

พตน - “ฮาโล่ยูเนี้ยง”

ยูเนี้ยง - “ดีค่า”

พตน - “พี่เป็นคนไทยนะ มาจากประเทศไทย”

ยูเนี้ยง - “โอ้! จริงหรอคะ?”

พตน - “ใช่แล้ว~ เป็นแฟนของ Cheeky Parade นะ”

ยูเนี้ยง - “โอ้ว! อ่า.. ซาหวัดดีค่ะ” (ยูเนี้ยงพูดเป็นภาษาไทยเว่ย!)

พตน - “เอ๊ย! โอ้ว~ สวัสดีครับ” (ตกใจที่ยูเนี้ยงพูดไทยได้เฉยเลย! ก็ดีสิ ยูเนี้ยงจะได้จำได้ว่ามีแฟนคลับจากไทย)

ยูเนี้ยง - “ฉันเคยเรียนรู้คำภาษาไทยมาบ้างน่ะคะ”

พตน - “จริงหรอ? ยอดเลย”

ยูเนี้ยง - “ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่มา”

พตน - “จ้า โอเค แล้วเจอกันใหม่น้า”

ยูเนี้ยง - “ค่า~ แล้วเจอกันค่า”

พตน - “บ๊ายบาย”

ยูเนี้ยง - “บ๊ายบาย”

ประทับใจลีดเดอร์ตรงที่น้องพูดภาษาไทยใส่เราได้นี่ล่ะ ไม่รู้ว่าไปเรียนมาจากไหนกัน

คนต่อไปคือท่านมหาเทพโคดะคะริ คุยกับคุณเธอคงต้องทดสอบกันหน่อยล่ะว่ายัยเด็กเสียงแหบแสบเกรียนเทพคนนี้มันมีดีอย่างไร?

พตน - “สวัสดีโมโมะจัง”

โมโมะ - “ดีจ้า”

พตน - “พี่เป็นคนไทยนะ มาจากไทยเลยนะเนี่ย”

โมโมะ - “เห! จริงหรอๆ?”

พตน - “ใช่ๆ เป็นแฟนพันธุ์แท้ Cheeky Parade ด้วย”

โมโมะ - “โอ้ว! ขอบคุณค่ะ”

พตน - “นี่ๆ ที่เมืองไทยน่ะ มีแฟนๆของโมโมะจังเพียบเลยล่ะขอบอก”

โมโมะ - “จริงหรอ?”

พตน - “ช่าย~”

โมโมะ - “ยอดเลย.. ว่าแต่แล้วพี่ชอบใครอ่ะ?”

พตน - “เอ่อ.. โทษทีนะ ชอบเซรันล่ะ”

โมโมะ - “...”

มาแล้วไง! ท่านเทพออกลายแล้ว พอเราบอกว่าชอบเซรันที่สุดเท่านั้นล่ะ คุณน้องแกแกล้งทำตาขวางสายตาเย็นชาใส่ทันที! โมโมะมองแบบนั้นอยู่ 3 วินาทีก็จะยิ้มแล้วจับมือเราใหม่อีกรอบ เราก็คุยต่อก่อนจะเดินไปว่า “ไลฟ์สนุกมาก เอาล่ะๆ แล้วเจอกันนะ” “ค่า~” จากนั้นคือน้องก็ยื่นมือมา give me five กับเราเป็นการส่งท้ายก่อนเราจะเดินผ่านไป

คนสุดท้ายแล้วที่เราจะได้จับมือก็คือยุริยะ สาวน้อยสดใสน่ารักตลอดเวลาคนนี้

พตน - “ยุริยะ สวัสดีจ้า”

ยุริยะ - “ค่า ยุริยะค่า~”

พตน - “พี่มาจากไทยนะ”

ยุริยะ - “โอ้ว! จริงหรอคะ?”

พตน - “ใช่ๆ ชอบ Cheeky Parade มากเลยล่ะ”

ยุริยะ - “ขอบคุณนะค้า~ จะบอกว่าฉันมีเพื่อนที่เป็นคนไทยเหมือนกันล่ะค่ะ”

พตน - “โอ้ว! จริงหรอ?”

ยุริยะ - “ค่า~”

พตน - “ดีๆ ก็..ยังไงต่อจากนี้ก็พยายามเข้าน้า”

ยุริยะ - “ค่า สู้ตายค่า”

พตน - “โอเค แล้วเจอกันใหม่น้า บ๊ายบาย”

ยุริยะ - “ค่า~ บ๊ายบายค่า”

มองยุริยะโบกมือบ๊ายบายให้ แล้วเราก็เดินออกมา

เป็นอันว่าเสร็จสิ้นการจับมือกับน้องๆ Cheeky Parade ทั้ง 9 คนเรียบร้อย ดีใจมากๆเลยที่ความฝันเป็นจริงแล้ว~ ได้บอกน้องๆว่ามีคนไทยคนนึงชอบน้องๆมากถึงขั้นบินจากไทยเพื่อมาดูโดยเฉพาะ! ไม่น่าเชื่อนิดๆตรงนี้ยูเนี้ยงพูดสวัสดีค่าเป็นภาษาไทยให้ด้วย รวมทั้ง reaction แกล้งทำสายตาเย็นชาของโมโมะ ได้คุยกับสาวน้อยเกงกิอย่างยุริยะที่ร่าเริงตลอดเวลา เหนือสิ่งอื่นใดคือได้เห็นเซรันทำหน้าดีใจที่ได้ของขวัญ แค่นี้ก็น่าปลื้มพอที่จะทำให้เราพูดได้ว่า..การมาจับมือกับน้องๆครั้งนี้ Mission Complete! จริงๆ

พอเสร็จจากการจับมือน้องๆ Cheeky Parade แล้ว ก็เป็นเวลาที่ต้องไปจับมือกับน้องๆ Himekyun Fruit Can ต่อ ซื้อของแล้วได้บัตรจับมือน้องๆ Himekyun Fruit Can มาเมื่อเช้า เดี๋ยวมาดูกันซิว่าน้องไมไมที่เป็นโอชิของเราจะจำเราได้มั้ยนะ? ตอนต่อแถวอยู่ ปรากฎว่าน้องๆ Cheeky Parade กำลังจะเดินกลับพอดีซึ่งมันต้องเดินผ่าน เราเลยต้องเนียนทำเป็นเดินไปโบกมือให้ โต๊ะจับมือดันอยู่ข้างๆกันซะนี่ เดี๋ยวจะงานเข้าเอา ฮ่าๆ

ก่อนจะได้จับมือกับฮิเมะคุนนั้น จะต้องจับมือกับน้องๆ nanoCUNE ก่อน เพราะว่าอีเว้นท์จับมืออันนี้เป็นแบบรวมของทั้งสองวง การจับมือกับน้องๆ nanoCUNE เป็นอะไรที่กลุ้มมาก! คือน้องๆสามคนที่ดูโตแล้วก็พอจะรู้เรื่องหน่อยกับสิ่งที่ผมจะคุยด้วย แบบว่าพี่มาจากไทยนะ เป็นแฟนคลับนะ แล้วก็บอกให้น้องๆพยายามเข้านะ น้องก็จะค่ะ!สู้ๆค่ะ ยกเว้นน้องเตี้ยคนสุดท้องของวง คุณน้องแกหน้ามึนมากฮะตอนที่บอกว่ามาจากไทย เป็นแฟนคลับวง nanoCUNE นะ ไม่รู้เด็กไปรึเปล่าเลยทำหน้าเหมือนหนูไม่รู้จักประเทศไทยค่ะ มันอยู่ตรงไหนคะ? อะไรแบบนี้ เห็นแล้วกลุ้มใจมาก..

แต่พอผ่าน nanoCUNE มาได้ ก็ถึงคราวของน้องๆ Himekyun Fruit Can ที่เป็นเป้าหมายหลักละ! นอกเหนือจากไมไมแล้วเราจะแนะนำตัวกับสมาชิกคนอื่นว่าเป็นคนไทย มาจากไทยเพื่อมาดูฮิเมะคุนเลยนะ แล้วก็บอกว่าไปดูไลฟ์มาสนุกมาก ไลฟ์ต่อไปก็จะไปดูนะอะไรแบบนี้ 2 คนแรกทั้งยุนจังและโฮโนะตันผ่านไป พอเราเดินมายืนอยู่ตรงหน้าไมไมปุ๊บ เราพูดกับไมไมไปว่า “จำคนไทยเมื่อวานนี้ได้มั้ย?” ไมไมร้องออกมาเลย "อ๊ะ! จำได้ๆ ขอบคุณที่มาดูนะคะ" "โอ้ว! จำได้ด้วยหรอ?" "ได้สิคะ พุตโตะซัง" แค่นี้ก็ประทับใจมากๆแล้วครับ! ไม่คิดว่าไมไมจะจำชื่อเราได้ ลำพังจำหน้าได้ก็เก่งแล้ว ส่วนนึงเราว่าคงเป็นเพราะเราคือคนต่างชาติคนแรกที่ได้มาจับมือกับน้องเค้าด้วยล่ะมั้ง เห็นท่าทางเซอร์ไพรส์ของไมไมเมื่อตอนจับมือในอีเว้นท์ที่ร้าน Tower Records ก็พอจะเดาได้แล้วล่ะ น้องเค้าคงจะดีใจมากๆแน่เลย.. เราคุยกับไมไมต่อไปว่า "ไลฟ์สนุกมาก ต่อไปสเตจที่ Smile Garden จะไปดูนะ" "ค่ะ! ไปดูให้ได้เลยนะคะ" "จ้า! แล้วเจอกันค้าบ" "ค่า! บ๊ายบาย" ถ้ามีไอด้อลจำคุณจนถึงขนาดว่าเรียกชื่อได้ เราว่าตอนนั้นทุกคนจะเข้าใจความรู้สึกของเราในตอนนี้เอง หลังจากเดินผ่านไมไมก็ถึงซากุจังที่เมื่อวานนี้ปอนด์ไปจับมือน้องเค้ามาแถมยังได้ถ่ายรูปคู่ด้วยอีก(อิจฉาจัง) เราซึ่งเดินนำหน้าปอนด์มาก็แนะนำตัวบอกซากุจังว่ามาจากไทยนะ ซากุจังก็เลยนึกขึ้นได้แล้วก็ถามถึงปอนด์ เราก็เลยชี้ว่าอยู่ข้างๆนี่ล่ะ บอกไปว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันมาดูฮิเมะคุนด้วยกันไรงี้ ปิดท้ายด้วยมายุริน หลังจากนั้นการคุยกับฮิเมะคุนก็สนุกสนานไปเลย เพราะน้องๆทั้ง 5 คนรู้แล้วว่าพวกเราคือแฟนคลับจากไทย สงสัยว่าไมไมกับซากุจังจะเล่าให้อีก 3 คนที่เหลือฟังแล้วมั้ง ฮ่าๆ

หลังเสร็จการจับมือไปสองวง ต่อไปก็เป็นทีจับมือกับสาวๆ Afilia Saga East บ้าง~ ก่อนหน้านี้หลังจากที่เราจับมือกับน้องๆ Cheeky Parade เสร็จ ปอนด์กำลังรอความช่วยเหลือจากเราอยู่ คือจะให้ผมช่วยถามสตาฟฟ์หรือโอตาคุให้หน่อยว่าจะจับมือกับอฟิเลียต้องทำยังไง เป็นล่ามให้ปอนด์ว่างั้น สุดท้ายก็รู้ว่าต้องซื้อของทุกๆ 1500 เยนจะได้บัตรจับมือ 1 ใบ เท่านั้นล่ะ.. ปอนด์แทบจะวิ่งไปยังเต๊นท์ขายของที่ Grand Market พุ่งกระโจนเข้าไปในเต๊นท์ขายของอฟิเลียทันทีเลย! สุดท้ายจัดเต็มซะได้บัตรจับมือมา 5 ใบ เราก็ร่วมซื้อรูปเซ็ตของ Afilia Saga East สมทบทุนให้ปอนด์ ซึ่งสุดท้ายตอนนั้นปอนด์ใจดีแจกเรากับคุณเอเข้าไปจับมือคนละใบด้วย! แถวจับมือของอฟิเลียจะแบ่งเป็น 2 แถวคือ A กับ B ซึ่งแถว A จะมี เมรี่,มิคุ,อายามิ,หลุยส์,อาเรีย แถว B จะมี คุรุมิ,มาโฮะ,ยูกะฟิน,โคฮิเมะ,ลอร่า,เอมิว ไม่คิดอะไรมากเลย ยัยเตี้ยโคฮิเมะอยู่แถวไหนก็ไปแถวนั้นนะล่ะ ฮ่า~ ตอนแรกส่งปอนด์ไปจับมือกับแถว A ก่อนแล้วพวกเราค่อยไปจับมือกับแถว B พร้อมกัน ให้ปอนด์เดินนำไปก่อน คงแนะนำแทนไปแล้วล่ะว่าพวกเรามาจากไทย

โมเม้นท์ตอนที่เราจับมือกับยัยเตี้ยโคฮิเมะนี่สนุกมาก เดินมาหยุดที่ตรงหน้ายัยเตี้ยแล้วก็ตะโกนว่า “โคฮิเมะ!” ยัยแพนด้ายักษ์ก็ร้องตอบ “ไฮ่!” แบบหน้าตาตื่นๆ ฮามาก! แล้วเราก็คุณกับคุณเธอต่อ “เรามาจากไทยนะ ชอบอฟิเลียมาก” “โอ้ว! คนไทยหรอคะ? I’m Japanese. อะ โฮะ โฮะ โฮะ” “ไลฟ์ที่ Smile Garden สนุกมากเลยล่ะ” “ขอบคุณที่มาดูนะค้า” “ไลฟ์ต่อไป..” “บน Sky Stage ค่ะ” “อื้อๆ จะไปดูนะ” “ค่า แล้วเจอกันน้า” “โอเค บ๊ายบาย” “บ๊ายบาย” ยัยเตี้ยเธอเป็นธรรมชาติมากๆ พยายามจะคุยให้เข้าถึงแฟนๆให้ได้ เท่าที่สังเกตนะ อฟิเลียจะเป็นวงที่เทคแคร์แฟนคลับดีมากๆ มีเอาผ้ามาซับเหงื่อให้ ถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้าง อะไรแบบนี้ เป็นวงที่สร้างเสน่ห์เรียกแฟนคลับได้จากตรงนี้ล่ะครับ แต่อาจเพราะสาวๆเป็นเมดกันมาก่อนด้วยล่ะ ก็เลยมีสกิลในการเทคแคร์และเซอร์วิสแฟนๆแบบน่ารักๆสูงที่สุดในบรรดาไอด้อลทั้งมวลที่มาร่วมงาน TIF นี้ เราประทับใจอฟิเลียตรงจุดนี้มากๆ ยิ่งยัยโคฮิเมะนี่ พยายามจะพูดภาษาอังกฤษด้วยนะ แต่เป็นแบบง่ายๆ ไม่เหมือนหลุยส์ที่เป็นลีดเดอร์ของวงที่ปอนด์ไปคุยด้วยมา 2 รอบ(หลุยส์เป็นโอชิเมนของปอนด์) หลุยส์พูดภาษาอังกฤษกับปอนด์ด้วยเพราะว่าปอนด์ยังพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยได้ ฟังที่ปอนด์เล่าแล้วก็ยิ่งประทับใจ พยายามจะเข้าถึงให้ได้แม้เราจะไม่ใช่คนญี่ปุ่นก็ตาม อีกคนที่เราประทับใจก็คือเอมิว ยัยตัวเล็กแต่เสียงดัง ดูๆไปก็น่ารักดี ชอบคุณเธอตอนที่คุยกับแฟนๆมาก เสียงดังได้ยินไปไกลเป็นสิบๆเมตร ถ้าตกใจก็ตะโกนออกมาทันที อย่างตอนเห็นหน้าปอนด์คุณเธอตะโกนเลย “อ๊า! คิต้าาาาาาาาา!!!!!!” ดูเป็นคนตรงๆและจริงใจดีนะ เจอแบบนี้สงสัยจะได้เปลี่ยนไลน์จากอาเรียมาเป็นเอมิวแทน..(เพราะอาเรียตัวจริงดูป้ามาก ฮ่าๆ)

พอจับมือจนบัตรหมดเรียบร้อยแล้ว ปอนด์ก็ชี้ให้ดูแล้วถามเราว่าทำไมมีโอตาคุได้ถ่ายรูปคู่ด้วยล่ะนั่น? ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะเดินเข้าไปถามสตาฟฟ์ล่ะนะ จากที่สังเกตดูก่อนก็เห็นโอตาคุเอาบัตรจับมือหลายๆใบไปแลกเพื่อขอถ่ายรูปคู่ เราเลยเดินไปถามสตาฟฟ์ว่า “นะมะชะชิน” หรือถ่ายรูปแบบสดๆ จะต้องใช้บัตรจับมือกี่ใบ สตาฟฟ์ก็บอกมาว่า 4 ใบจะได้ถ่ายรูปคู่กับสมาชิกอฟิเลีย 1 คนด้วยกล้องมือถือของตัวเอง แต่ถ้า 5 ใบจะได้ถ่ายโพลารอยด์กับสมาชิกอฟิเลีย 1 คนด้วย เท่านั้นล่ะครับ!(อีกรอบ) ปอนด์รีบเดินไปจัดหนักเพื่อให้ได้บัตรจับมือ 4 ใบมาทันทีเลย!! โหดมาก แล้วปอนด์ก็ได้ถ่ายรูปคู่กับหลุยส์ ซึ่งหลุยส์เซอร์วิสมากๆ โอบปอนด์มาแนบชิดสุดๆ นี่ล่ะนะแฟนเซอร์วิส.. เราเพิ่งรู้ซึ้งของคำๆนี้จากสาวๆอฟิเลียนี่ล่ะ!

หลังจากฟินกับการไปจับมือกับไอด้อลที่ชอบไป 3 วงรวดในแบบที่เรียกว่า Mission Complete! สำหรับวันแรกแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะไปดูไลฟ์สเตจบ้างละ เสียเวลาไป 2 ชม.ที่ Greeting Square ยังไงก็ต้องดูเสตจบ้างเนอะ.. จุดหมายคือที่เวที Smile Garden ซึงจะมีน้องๆ nanoCUNE กับ Himekyun Fruit Can มีคิวขึ้นแสดงตอนบ่ายสามโมง ยังไงด็ต้องดูครับ!

จากที่ได้ดูการแสดงสดมาเมื่อวาน น้องๆเต้นเทพขนาดนี้ เพลงมันส์ขนาดนี้ แถวน้องไมไมยังจำเราได้ด้วย ทั้งยังเป็นการมาดูสเตจตามที่ให้คำมั่นสัญญากับไมไมเอาไว้ด้วย ดูกี่ทีๆน้องๆทั้งสองวงนี้ก็เต้นแรงไม่มีตกเลย มันส์มากกก~ โดยเฉพาะเพลงเปิดสเตจทุกครั้งของฮิเมะคุนคือเพลง Watashi Daiichi Kibou นี่เราชอบมากจริงๆ เรียกว่าได้ดูได้ฟังจนติดหูเลย สูสีกับเพลง Cheeky Fighter และ Cheeky Dreamer ของ Cheeky Parade เลย ถ้าวัดที่ความชอบในปัจจุบัน~

หลังจบสเตจนี้ ปอนด์ต้องไปดู the Gazette ที่งาน a-nation 2012 ต่อ คือนัดกับน้องปังไว้ไปเจอกันที่งานนู้นตอนสี่โมง ปอนด์ก็เลยขอแยกตัวกลับไป เหลือเรากับคุณเอเกรียงไกรที่จะอยู่ผจญภัยกับไอด้อลต่อสองคน~ สองคนก็มันส์ได้น่า!

เวลาสามโมงครึ่ง ถึงเวลาต้องเดินไป standby รอดู SKE48 ที่ Hot Stage แล้วครับ (เวที Hot Stage จะอยู่ใน Zepp DiverCity นี้) ไม่ว่ายังไงเราก็จะต้องดู SKE48 ให้ได้ทั้ง 2 สเตจที่น้องๆจะขึ้นแสดงที่งาน TIF วันนี้เลย ไม่รู้สิ มันเป็นความชอบส่วนตัว ไม่ว่าไอด้อลสาย48จะเพิ่มขึ้นหรือเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมาชิกไปแค่ไหน หรือจะชอบไอด้อลระดับรองระดับภูธรมากมายแค่ไหน แต่ SKE48 ก็ยังเป็นวงที่ติดอันดับ top3 ของเรา(ในตอนนั้น) ไม่ดูไม่ได้จริงๆ ก็เลยต้องดั้นด้นเดินไป Hot Stage ระหว่างนั้นก็เดินสวนไอด้อลเป็นสิบๆวง เรียกว่าตลอดทั้งวันแทบจะเดินชนกับไอด้อล ไอด้อลเค้าก็วิ่งไปวิ่งมา รอขึ้นสเตจมั่ง โปรโมตวงตัวเองด้วยการแจกใบปลิวมั่ง วิ่งมาพักเหนื่อยมั่ง ขายของมั่ง ก็ได้โบกมือทักทายบ้างถ้ารู้จักหรือเคยเห็นผลงาน มีช่วงนึงที่เราเดินข้ามถนนสวนทางกันกับอะสะมินแห่ง Cheeky Parade ด้วย เราเลยเรียกชื่ออะสะมินแล้วโบกมือให้ น้องก็ยิ้มให้แล้วโบกมือกลับให้ด้วยนะ ฮ่าๆ สังเกตดูไม่มีคนทักอะสะมินเลยนะเนี่ย เราอาจจะเป็นคนแรกที่ทักทายน้องเค้า(มารู้ทีหลังว่าน้องเค้าไปดู layout ของสเตจ Green Oasis ที่ Cheeky Parade ต้องมาแสดงตอน 6 โมงเย็น ในฐานะลีดเดอร์ทีมเต้นของวง)

เดินเอ้อระเหยไปหน่อย สเตจของ SKE48 ที่ Hot Stage จะเริ่มในอีกไม่กี่นาทีแล้ว ก็เลยต้องรีบวิ่งไป สุดท้ายก็ถึงทันก่อนสเตจจะเริ่ม 5 นาที คนในฮอลล์นี่มหาศาลมาก! ชนิดที่ว่าแทบไม่มีที่ยืน ได้ซาบซึ้งทันทีว่าไอด้อลสาย48นี่ล่ะที่ยังคงเป็นเต้ยในปฐพีญี่ปุ่น สาวๆซะคะเอะเปิดตัวด้วยธีมปกติของ SKE48 เวลาครึ่งชม.ของสาวๆซะคะเอะเต้นไป 7 เพลงคือ Oki-Doki, pareo wa emerald, Omoide Ijou, Wimbledon e Tsureteitte, Gomenne Summer, Kataomoi Finally, Aishiteraburu! เว้นช่วง MC แต่ละครั้งก็ยาวเป็นปกติของวงลูกอีช่างเม้าท์ ซึ่งเป็นช่วงเผาเพื่อนร่วมวงตามปกติสุขของซะคะเอะ ประทับใจมิกิที่มาเล่นทำเสียงเป็นคนสองคนอีกแล้ว และก็ยัยน้องส้มหนูหิ่นที่ให้ไอรินตบหลังดังพลั่ก! งวดนี้ผมได้เจอจูรินะกับอะคะรินเป็นครั้งแรกด้วย น่ารักทั้งคู่เลย~ ยัยอะคะรินก็เมายามาขึ้นเวทีตามฟอร์ม ฮ่าๆ

จบสเตจของ SKE48 เดินออกมาก็เจอ アリス十番 ขึ้นเวที Green Oasis ที่อยู่ตรงใกล้ๆกันดั้มพอดี ก็เลยยืนดูจนจบเป้นการพักเหนื่อยซักเล็กน้อย แล้วจากนั้นก็เดินกลับมาที่เวที Smile Garden อีกครั้ง เพื่อรอดู SKE48 รอบสอง ถึงขนาดว่าเรายอมทิ้งการดูวง 9nine ที่ Hot Stage ไปเลยนะ(ไว้ไปดู 9nine เอาพรุ่งนี้แทน) ด้วยความอยากดู SKE48 แบบดูแล้วดูอีกเพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆเลยนะ! เนื่องจากเวลาเลทไปหน่อย น้องๆเลยแสดงได้แค่ 5 เพลง ตัด Omoide Ijou กับ Wimbledon e Tsureteitte ออกก็เหลือ 5 เพลงเซ็ตเดิม(สงสัยตารางเวลาของวงฟิกไว้แล้วว่าต้องเดินทางกลับตามเวลา) ก็โอเคล่ะ ได้ดูได้เต้นตามได้ยิงมิกซ์ แค่นี้ผมก็สุขใจแล้ว

จบสเตจของ SKE48 รอบสอง ด้วยความที่ขี้เกียจเดินย้อนกลับไปดู Cheeky Parade ที่สเตจ Green Oasis แล้ว เนื่องจากเดินไปเดินมาจนเมื่อย ผมเลยชวนคุณเอไปเดินเล่นที่ Grand Market แทน(จริงๆก็ต้องเดินอยู่ดี..) และการเข้ามาชอปปิ้งรอบนี้ เราก็ได้เจอน้องๆวง pramo ไอด้อลภูธรจากเมืองอะคิตะมาขายของพอดี ซึ่งเห็นแล้วมันก็อดที่จะสนับสนุนไม่ได้จริงๆ คือ pramo เป็นไอด้อลที่เป็นตัวแทนในการออกงานของเมืองอะคิตะ ทั้งในด้านการโปรโมตเมืองหรือสินค้า อย่างในงาน TIF นี้ น้องๆก็มาช่วยขายของเพื่อนำเงินเข้าเมืองอะคิตะด้วย น่าอุดหนุนจริงๆนะ

น้องๆที่ทำเพื่อบ้านเกิดของตัวเองขนาดนี้ โปรโมทอะคิตะทุกคำพูดบนเวทีและที่ซุ้มขายของที่ระลึก น่านับถือใจจริงๆ ประทับใจตั้งแต่ได้รู้จักก่อนจะมาญี่ปุ่น จนได้มาเจอตัวจริงในงาน TIF ก็ยิ่งประทับใจเข้าไปใหญ่ ตั้งใจทำงานขายของทุกคน

ตอนที่เราไปของคือซื้อเข็มกลัด(เสียดายที่ซิงเกิ้ลแผ่นหมด!)ของวง pramo น้องๆก็ต้อนรับอย่างดี นำโดยอาโออิจังที่ยืนรอต้อนรับคนแรก เราก็บอกว่าอยากได้เข็มกลัด แล้วก็บอกว่าเราเป็นคนไทยนะ มาจากประเทศไทย อยากให้รู้ว่า pramo มีแฟนคลับในประเทศไทยด้วย อย่างน้อยก็เราล่ะคนนึง น้องๆเค้าก็ทำหน้าเซอร์ไพรส์กันใหญ่ แล้วก็ได้จับมือกันน้องๆทั้ง 5 คนจนครบ ได้บอกมายุว่าเป็นโอชิด้วย เจ้าของฉายา Skytree แห่งอะคิตะ เพราะมายุตัวสูงยาวเข่าดีนั่นเอง ฮ่าๆ

ระหว่างที่รอน้องๆคนที่เหลือเซ็นลายเซ็นลงบนเข็มกลัดให้นั้น อาโออิจังก็ยังมายืนคุยอยู่กับผมตั้ง 4-5 นาทีแน่ะ~ น้องเค้าถามเราว่าพูดญี่ปุ่นได้นี่เคยเรียนมาเหรอคะ? เราก็บอกว่าเคยเรียนมาบ้างนิดหน่อย อาโออิจังก็บอกว่าได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้วล่ะค่ะ ภาษาญี่ปุ่นยากจะตาย ฮ่าๆ แล้วอาโออิจังก็ให้เราสอนภาษาไทยให้บ้าง เลยสอนให้พูดคำว่า “สวัสดีค่า” นิฮงโกะเด้ะ.. คนนิจิว้า~ น้องเค้าก็พูดตาม สนุกดีนะ! ปลีกตัวไปยืนคุยกับไอด้อลท้องถิ่นกันอยู่สองคนข้างๆเต๊นท์ขายของ จนเซ็นลายเซ็นกันครบ อาโออิจังก็ยื่นเข็มกลัดนั้นให้แล้วก็พูดว่าขอบคุณที่อุดหนุนนะคะ ก่อนที่เราจะบ๊ายบายให้แล้วก็บอกไปว่าแล้วพบกันใหม่นะ~ เลยได้รู้ว่าวงนี้ติดดินจริงๆ เป็นกันเอง นิสัยดีด้วย~ ดีล่ะ! พรุ่งนี้จะต้องไปดูไลฟ์สดของน้องๆ pramo ให้ได้ ดูจากตารางแล้ว จะต้องทิ้งวงอื่นที่ขึ้นเวทีชนกันก็เอา!

ออกจากเต๊นท์ของ pramo เดินย้อนมาด้านหน้าทางเข้าของ Grand Market อีกครั้ง และเราก็ได้พบกับไอด้อลอีกวงนึงคือวง Jewel Kiss ซึ่งได้เห็นตัวเป็นๆตั้งแต่ตอนซื้อของ Cheeky Parade ช่วงสายๆไปแล้ว Jewel Kiss เป็นอีกวงที่เราประทับใจในความน่ารักสดใส น้องๆมีพวกโอตาคุระดับตัวพ่อตามมาจากฮอกไกโดเพื่อมาเชียร์น้องๆเพียบเลย พวกโอตาคุนี่ก็ยืนป้อน้องๆอยู่หน้าเต๊นท์ตลอดเวลาที่น้องๆอยู่ที่เต๊นท์ น้องๆก็ไปคุยเล่นด้วยอย่างสนิทสนม กระนั้นผมเลยลองไปทักทายสตาฟฟ์ดู ผมบอกว่าสตาฟฟ์คนนึงไปว่าเป็นคนต่างชาติมาจากไทย พูดญี่ปุ่นได้นิดหน่อย ชอบ Jewel Kiss มากเลย พอได้ยินดังนั้นปุ๊บ! คุณสตาฟฟ์คนนั้นดูแลอย่างดีเลย คือแบบเค้ายินดีมากๆที่น้องๆมีแฟนคลับจากต่างชาติ ซึ่งเราเชื่ออีกเช่นกันว่าเราคือคนแรกที่เข้ามาหาและบอกว่าชอบน้องๆวงนี้(คุณสตาฟฟ์ก็บอกว่าเป็นชาวต่างชาติคนแรกจริงๆที่เจอในอีเว้นท์ของน้องๆ) เราบอกไปว่าชอบโมกะจังเป็นโอชิ สตาฟฟ์เค้าก็ยิ้มๆ แล้วเค้าก็พยายามพูดญี่ปุ่นผสมอังกฤษเพื่อคุยกับเรา ทำให้เรายิ่งเข้าใจมากขึ้นในเรื่องของน้องๆ สตาฟฟ์เค้าก็แจ้งตารางการขึ้นเวทีและจับมือของน้องๆให้ เค้าหยิบมือถือมากดเลขให้ดู จริงๆแล้วเรื่องบอกเวลาเราฟังรู้เรื่องนะ.. ถามตารางเวลาของวงอื่นๆมาหลายวงแล้วด้วย พอเค้ากดมาเราก็เลยอ่านเป็นภาษาญี่ปุ่นทวนเพื่อคอนเฟิร์มอีกที เผื่อคุณสตาฟฟ์คนนี้แกจะกดผิดเอง ฮ่าๆ เราบอกสตาฟฟ์เค้าว่าที่ชอบน้องๆก็เพราะเคยได้ดูคลิปน้องๆจาก youtube เค้าก็บอกว่ายอดไปเลย ดีจังๆ แล้วสตาฟฟ์คนนี้ก็หันไปบอกสตาฟฟ์ผู้หญิงอีกคนซึ่งจากสำนวนการพูดน่าจะมีตำแหน่งใหญ่กว่าคุณสตาฟฟ์ที่ผมคุยด้วยคนนี้(หรือบางทีอาจจะเป็นผู้ปกครองของน้องๆ) เค้าบอกด้วยน้ำเสียงแบบตื่นเต้นยินดีมากๆว่า คุณลูกค้าคนนี้(ชี้มาทางเรา)เป็นแฟนคลับจากประเทศไทย คุณป้าสตาฟฟ์คนนั้นก็พูดขอบคุณมากค่ะ

วันนี้น้องๆ Jewel Kiss มาในคอสตูมชมพูดำ เคยเห็นชุดนี้ใน youtube แล้ว น่ารักมากๆ

จากนั้นเราลองถามเค้าว่าไม่มีเสื้อขายหรอ? สตาฟฟ์เค้าบอกว่าช่วงนี้หยุดผลิตไป น่าเสียดาย อดได้เลย.. ยืนคุยไปมองน้องๆกับพวกโอตาคุตัวพ่อไป ก็เห็นพวกแฟนคลับเหล่านี้ได้ถ่ายโพลารอยด์กับน้องๆ ผมเลยถามสตาฟฟ์ว่าถ้าอยากถ่ายรูปกับน้องๆบ้างต้องทำยังไง? เค้าก็บอกว่าเชกกิครั้งละ 500 เยน เราก็จัดเลย! แถมยังอุดหนุนซื้อซิงเกิ้ลอีกแผ่นด้วยนะ สตาฟฟ์เค้าก็ขอบคุณ แล้วก็ถามว่าจะถ่ายกับโมกะจังคนเดียวหรือเมมเบอร์ทุกคน เราก็บอกว่าทุกคนและกัน

ยืนรอคิวอยู่ซักพัก พอถึงคิวเราสตาฟฟ์เค้าก็เรียกน้องๆมาแล้วบอกว่ามีแฟนคลับจากไทยมาจะถ่ายรูปด้วย สตาฟฟ์คนนึงที่รับหน้าที่ถ่ายรูปให้เค้ารู้จักคำไทยเลยสอนน้องๆพูดว่า "ขอบคุงค้าบ" ด้วย จากนั้นน้องๆทั้ง 7 คนก็พูด “ขอบคุงค้าบ” ตามกันใหญ่~ สตาฟฟ์คนเดิมบอกให้โมกะจังมานั่งข้างหน้าคู่กับเราด้วย(เพราะเราบอกเค้าไปว่าชอบโมกะจัง) ได้ถ่ายรูปโพลารอยด์กับทั้งวงแบบนี้มันเยี่ยมจริงๆ แล้วสตาฟฟ์ก็ให้เราเขียนชื่อของเราลงในกระดาษเพื่อจะเอาชื่อไปให้โมกะจังเขียนบนรูปโพลารอยด์ ระหว่างรอโมกะจังเขียน เราก็บอกสตาฟฟ์ว่าผมดีใจมากๆเลย เค้าก็ยิ้มแล้วก็ขอบคุณที่เราช่วยสนับสนุนน้องๆ ซักพักโมกะจังก็เดินเอารูปโพลารอยด์มาให้ พร้อมทั้งพูดว่า "พุตโตะซัง ขอบคุงค่า" อีกทีด้วย! ประทับใจมากครับ เราเลยบอกสตาฟฟ์ไปว่าพรุ่งนี้จะมาใหม่ด้วย เค้าก็พูดขอบคุณ แล้วก็บอกว่าพรุ่งนี้เรียนเชิญนะครับ~ เอาล่ะสิ.. ตีสนิทกับสตาฟฟ์ได้เรียบร้อยแล้วด้วย ต่อไปพี่ๆน้องๆคนไหนจะไปตามงานอีเว้นท์น้องๆที่ญี่ปุ่น มองหาสตาฟฟ์ผู้ชายคนที่ตัวท้วมๆหน่อย ดูยิ้มแย้มแจ่มใส ไว้หนวดแถมย้อนหนวดสีเดียวกับเส้นผมด้วย คนนั้นล่ะครับที่คุณจะสามารถบอกเค้าไปว่ามาจากไทย เค้าจะดูแลคุณอย่างดีเลยล่ะ! หรือว่าจะบอกโมกะจังก็ได้ว่ามาจากไทย เพราะโมกะจังก็คุยกับเราบ่อยๆในทวิตเตอร์ เค้ารับรู้และจำได้แม่นมามีแฟนๆจากไทยด้วยแล้วล่ะ

จากนั้นเราก็เดินผ่านไปตรงเต๊นท์ของวง predia, palet และ ぱすぽ☆ ก็เห็นว่ามีการนำสินค้าของวง ぱすぽ☆ มาวางขายอยู่! ตอนแรกที่เดินมายังไม่เห็นมี มีแต่ของ predia กับ palet เดิมทีสินค้าของ ぱすぽ☆ นั้นทีเราไม่คิดว่าจะขายวันนี้เพราะตามตารางตอนแรกจะไม่มี ぱすぽ☆ ขึ้นแสดง จนตารางงานมาเปลี่ยนรอบสุดท้ายที่ปรากฏว่ามีไลฟ์ของ ぱすぽ☆ ในวันนี้ด้วย 1 สเตจตอน 2 ทุ่มที่ Smile Garden ซะงั้น.. เราก็ยังคิดว่าไม่เปิดขายวันนี้แน่ๆ สุดท้ายพอมีของมาขาย ก็เลยเดินเข้าไปต่อแถวเพื่อซื้อของ ぱすぽ☆ เลยละกัน ซึ่งก็มีแฟนคลับมาต่อแถวซื้อของกันเพียบ! เพราะว่าซื้อของแล้วจะได้บัตรจับมือด้วย และอีเว้นท์จับมือของ ぱすぽ☆ นั้นก็มีตอน 18.30 – 19.30 น. ร่วมกับน้องๆวง palet

เพื่อให้ไปทันอีเว้นท์จับมือตอน 6 โมงครึ่ง จึงมีคนมารอต่อแถวซื้อของกันมากมาย เราก็ไปต่อแถวรอซื้อเสื้อ t-shirt ของซาโกะตี้ แล้วก็ซื้อเซ็ตรูปซาโกะตี้กับแท่งไฟสีเขียว เหมาครบเซ็ตซาโกะตี้เลย! สุดท้ายก็ได้บัตรจับมือมา 4 ใบ แต่ว่าเรายังไม่อยากจะจับมือในวันนี้เพราะว่าไม่ได้เตรียมเสื้อมามอบให้กับสาวๆทั้ง 9 คน ก็เลยถามสตาฟฟ์ที่ขายของว่าอีเว้นท์จับมือนี่มีพรุ่งนี้ด้วยมั้ย? แล้วถ้าเอาบัตรมาจับมือสาวๆพรุ่งนี้จะได้มั้ย? เค้าก็บอกว่ามาพรุ่งนี้ก็ได้ไม่มีปัญหา โอเค..บัตรจับมือไว้ใช้พรุ่งนี้ดีกว่า จะได้เอาเสื้อ ぱすぽ☆ ThaiFan มาให้สาวๆทั้ง 9 คน ภารกิจในการมาญี่ปุ่นเพื่อดูงาน TIF หนนี้จะได้สมบูรณ์ วันนี้ขอไปดูไลฟ์ต่อละกัน ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่ได้ดูอะไรกันเลย..

ไหนๆก็เดินเข้ามาในบริเวณ Grand Market แล้ว ก็ซื้อของที่ระลึกของงาน Tokyo Idol Festival 2012 นี้ไปหน่อยละกัน ผ้า Towel เอากลับไปเป็นที่ระลึกว่าครั้งนึงเราเคยมางานนี้แล้วนะ

จบการสำรวจตลาดในวันแรกเท่านี้ เสียเวลากับการเดิน Grand Market ตั้งแต่ 17.45 – 18.30 น. ระหว่างที่จะเดินกลับไปยังเวที Smile Garden ก็ได้ยินเสียงเพลงของน้องๆวง 私立恵比寿中学 หรือ Ebichu! ดังมาจาก Smile Garden พอดี ก็เลยชวนคุณเอรีบวิ่งไปดูกัน เนื่องจากน้องๆ Ebichu! มีสเตจแค่วันนี้วันเดียว พรุ่งนี้ไม่ว่างมาเพราะมีอีเว้นท์ของตัวเองตามตารางงานของวงอยู่ก่อนแล้ว เพลงของ Ebichu! มันส์มาก!! ใส่เต็มที่ทุกเพลง เกรียนแบบฮาๆตลอดเพลงเลย ประทับใจไลฟ์ของวงนี้จริงๆ ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ตั้งตารอดู คือก่อนจะมางาน TIF หมายมั่นปั้นมือเอาไว้แล้วว่าผมต้องดูไลฟ์ของวงนี้ให้ได้ และก็ไม่มีผิดหวัง เสียงของไอกะมันกังวานในหู เสียงโมเอ้เกินไป ฮ่าๆ

จบไลฟ์ของ Ebichu! ผมก็ยืนรอดู ぱすぽ☆ ต่อ ก่อนหน้านั้นจะมีไอด้อลขึ้นแสดงคั่นก่อน 1 วง พอถึงช่วงของ ぱすぽ☆ นี่ ผมมองไปรอบๆจะมีแฟนคลับที่เป็นฝรั่งมาดูเพียบเลยนะ! ぱすぽ☆ นี่ดังระดับนานาชาติจริงๆแฮะ ระหว่างผลัดเปลี่ยนแฟนคลับวงก่อนเดินออกวงต่อไปเดินเข้า ผมก็ไหลตามน้ำเข้าไปอยู่ข้างหน้าให้ลึกที่สุดและสุดท้ายก็ได้เข้าไปอยู่ในระยะ 5-6 เมตรจากเวทีเลย

อินโทร Boarding ดังขึ้น ก่อนที่จะเริ่มต้นเพลงแรกด้วย Shoujo Hikou พอสาวๆออกมาบนเวทีเท่านั้นล่ะ เสียงโอตาคุเชียร์กระหึ่ม! ยิงมิกซ์กันแต่เนิ่นๆเลย แต่ flight ในวันนี้ของ ぱすぽ☆ สาวๆขึ้นเวทีแค่ 8 คนเพราะว่าอันเนี้ยได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าเลยขึ้นแสดงไม่ได้ คาดว่าพรุ่งนี้ก็คงหายไม่ทันด้วยเหมือนกัน วันนี้เลยต้องดูสเตจที่มีแค่ 8 คนไป แต่อันเนี้ยจะเดินออกมาบนเวทีในช่วง MC อยู่นะ เป็นสปิริตที่ยอดเยี่ยมมาก เห็นแล้วก็ประทับใจ ขอให้หายเร็วๆนะอันเนี้ย~

สำหรับไลฟ์ของสาวๆ ぱすぽ☆ ที่เคยดูใน youtube มันส์ขนาดไหน ไลฟ์สเตจสดๆมันส์กว่าสิบเท่า! ตลอด 30 นาที สาวๆจัดหนัก 6 เพลงเน้นๆ เพลงที่สาวๆจัดเต็มให้แฟนๆใน flight นี้ก็มี Shoujo Hikou, ViVi Natsu, Next Flight, Dear My Friend, Natsuzora HANABI, Material Girl เรียกว่ามีแต่เพลงเทพๆที่ใช้ขึ้นแสดงประจำทั้งนั้น บวกกับซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดอย่าง Natsuzora HANABI ซึ่งจะวางแผงกันในสัปดาห์หน้าด้วย! พอเพลงนี้ดังขึ้นนี่แทบกรี๊ดเลย ได้ดูไลฟ์ซิงเกิ้ลใหม่แบบสดๆ แจ่มมาก!ได้ร่วมเชียร์ร่วมยิงมิกซ์ไปพร้อมๆกับโอตาคุแท้ๆที่ญี่ปุ่น สนุกมาก! สาวๆ ぱすぽ☆ ไม่เคยเลยซักครั้งที่จะไม่จัดเต็มด้วยเพลงที่มันส์สะใจเช่นนี้ สาวๆตัวจริงน่ารักทุกคน ดีใจมากๆที่ในที่สุดก็ได้เจอหน้าซาโกะตี้แล้ว ลูกแมวน้อยมิโอะมิโอะก็ด้วย ก็เหลือแค่อีเว้นท์จับมือแล้วมอบเสื้อให้ในวันพรุ่งนี้ล่ะนะ Mission ของผมเกี่ยวกับสาวๆ ぱすぽ☆ ในการมาญี่ปุ่นครั้งนี้ก็จะ Complete! ก่อนที่เราจะมาดูสาวๆ ぱすぽ☆ สดๆแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าเคยมีคนไทยมาดูไลฟ์และรวมถึงมาอีเว้นท์จับมือด้วยรึเปล่า? แต่บอกได้คำเดียวครับว่า ぱすぽ☆ สุดยอดมากจริงๆ! มันส์จนไม่อยากให้จบเลยอ่ะ

จบสเตจของ ぱすぽ☆ แล้วก็ไม่มีอะไรติดค้างในใจสำหรับวันแรกอีกแล้ว ถึงจะมีสเตจของวง でんぱ組.inc ต่อที่ Hot Stage ก็จริง แต่มันก็ไกลจาก Smile Garden ที่เพิ่งดู ぱすぽ☆ จบไปเมื่อซักครู่นี้มาก ขี้เกียจเดินย้อนกลับไปแล้วล่ะ แม้ว่า でんぱ組.inc จะเป็นหนึ่งในวงที่ผมอยากจะมาดูที่งาน TIF รอบนี้ก็เถอะ ส่วนของวงอื่นๆที่เหลือในช่วงเวลาตั้งแต่ 3 ทุ่มเป็นต้นไปก็ไปอยู่ในเวทีในตึกหมดเลย ทั้งเวที Doll Factory และ Fantastic Theater ขี้เกียจรอดูแล้ว ไม่ว่าจะ Dream เอย BiS เอย ขอผ่านก็แล้วกัน ดังนั้นผมเลยตัดสินใจชวนคุณเอกลับที่พักดีกว่า พักผ่อนแล้วเตรียมมาจัดหนักพรุ่งนี้กันต่อ วันนี้ซื้อของเยอะมากๆเพราะมัวแต่อยู่ Grand Market และ Greeting Square ตลอดจนได้ดูสเตจน้อยครั้งไปหน่อย ดังนั้นพรุ่งนี้ผมจึงตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะเน้นดูสเตจให้เยอะที่สุด เรื่องซื้อของคงเพลาๆลงไป(ยกเว้นจะมีจับมือ ฮ่าๆ)

ตอนที่เดินออกมาก็จะผ่าน Welcome Marqee ที่เป็นสเตจในลักษณะของ Talk Show ตั้งอยู่ที่ทางเข้าของงาน ระหว่างที่ผมเดินผ่านตอน 3 ทุ่มนิดๆนั้น มีโรบินจังแห่งวง The Possible กับไอด้อลอีก 2 คนจำชื่อวงไม่ได้และ นั่งคุยกับพิธีกรอยู่ มีถ่ายทอดทาง Ustream ด้วยนะ! ยืนดูอยู่แป๊บนึงก็รีบกลับดีกว่า นั่งรถไฟฟ้าสาย Yurikamome Line กลับด้วยความเหนื่อยล้าพอสมควร งาน TIF นี่มันเหมือนกับกีฬาโอลิมปิคของเหล่าโอตาคุชัดๆ!!

จากสถานี Telecom Center กลับไปลงรถไฟสุดสายที่สถานี Shimbashi แล้วก็นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Ginza Line ต่อไปลงสถานี Asakusa ไปเดินหาข้าวกินพร้อมกับคุณเอเกรียงไกร ก่อนจะนัดเจอกับปังและปอนด์ที่กลับจากงาน a-nation มาทีหลัง แล้วเดินกลับที่พักพร้อมๆกัน

เป็นอันจบการลุยงาน Tokyo Idol Festival 2012 วันแรกไปอย่างเหน็ดเหนือย หมดพลังกับการวิ่งควายมากๆครับจุดนี้.. พรุ่งนี้อีกวัน สู้โว้ยยย!!

 
About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!

ชีวิตการท่องเที่ยวญี่ปุ่นและการเป็นติ่งรถไฟญี่ปุ่นของ Puttiano Rossi

  • Grey Facebook Icon
  • Grey Instagram Icon
  • Grey Twitter Icon

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

© 2023 by Extreme Blog. Proudly created with Wix.com

bottom of page