2012.08.05 Japan Trip #2 Day4 - Tokyo Idol Festival
วันที่ 2 ของมหกรรมไอด้อลระดับชาติ Tokyo Idol Festival 2012 หลังจากที่ผ่านพ้นวันแรกไปได้อย่างราบรื่นในแบบที่ Mission Completed กับวง Cheeky Parade ไปแล้ว วันนี้เราก็ไปตะลุยงานไอด้อลนี้ต่อ ด้วยความหวังที่ว่าจะทำภารกิจได้สำเร็จดังที่ตั้งใจไว้ให้ได้

โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ของงาน Tokyo Idol Festival 2012 ในครั้งนี้

และภารกิจที่ว่านั่นคือการเอาเสื้อยืดที่ออกแบบเองไปให้สาวๆวง ぱすぽ☆ กับมือให้ได้ วง ぱすぽ☆ นี้มีเมมเบอร์ทั้งหมด 9 คน เราก็เลยทำเสื้อยืดตามสีของแต่ละคนมา ใจจริงคืออยากมอบให้กับมือทุกคนเลยมากๆ

ลายของเสื้อนั้นเราเป็นคนออกแบบลายเอง โดยอิงมาจากฟ้อนท์ของโลโก้วง เอามาดัดแปลงเป็นแบบภาษาไทย ภารกิจสำคัญของผมในวันนี้ก็คือการมอบเสื้อ ぱすぽ☆ ThaiFan ให้กับสาวๆ ぱすぽ☆ และเน้นการดูสเตจให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเมื่อวานนี้มัวแต่ไปเสียเวลาอยู่กับ Grand Market และ Greeting Square มากไปจนไม่เป็นอันได้ดูไลฟ์ของไอด้อลซะที..

ออกเดินทางจากที่พัก นั่งรถใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line จากสถานี Asakusa มาต่อรถไฟฟ้าสาย Yurikamome Line ที่สถานี Shimbashi เช่นเดิม

เตรียมตัวพร้อมตั้งแต่ตอนอยู่บนรถไฟ Yurikamome แล้วล่ะ!

ในวันที่ 2 นี้ได้มีการเพิ่มจำนวนเวทีจาก 10 เป็น 11 เวทีด้วยกัน ก็คือสเตจ Wonder Future Planet ล่ะ มาถึงก็รีบเดินไปโซนตลาด Grand Market ก่อนเลย เพื่อดูว่าจะมีของอะไรที่อยากซื้ออีกบ้่าง

แค่เริ่มต้นงาน เรากับคุณเอ,ปอนด์และปังก็ต้องแยกกันไปดูไอด้อลที่ตัวเองอยากดูซะแล้ว สำหรับตัวเราแล้ว ที่เวที Smile Garden มี Cheeky Parade กับ ぱすぽ☆ รออยู่ ส่วนปอนด์และคณะที่เหลือนั้นจะไปดู Afilia Saga East ที่เวที Hot Stage ก็เลยต้องนัดเวลาไปเจอกันอีกทีตอน 11.30 น. ตรงบริเวณสวนหย่อมใกล้ๆกับกันดั้ม นัดหมายกันเสร็จแล้วเราก็รีบแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงเวที Smile Garden ทันที เพราะน้องๆ Cheeky Parade กำลังจะขึ้นเวทีแล้ว ผมแอบดูน้องๆอยู่หลังเวทีว่าเค้าทำอะไรกันตอนที่รอขึ้นสเตจ ในตอนแรกเห็นโมโมะซังกับมาริยะกำลังรันท่ากันอยู่ แต่ได้แค่พักเดียวก็วิ่งเล่นกันซะงั้น ฮ่าๆ แล้วน้องๆก็เตรียมทาครีมกันแดดกันยกใหญ่ นี่ขนาดอยู่ใต้เวทีที่มีหลังคานะเนี่ยยังทากันแดดกันขนาดนั้น แล้วพวกโอตาคุอย่างผมนี่ไม่เกรียมเลยหรอ? ราวๆ 10 นาทีก็ถึงคิวของน้องๆจิกิป้าแล้ว! เราก็รีบกลับมาแทรกตัวอยู่หน้าเวที จน intro ดังขึ้น.. ความสนุกได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้ว! มารอบนี้น้องๆจัดเพลงมาให้แฟนๆได้มันส์กัน 4 เพลงคือ Cheeky Dreamer, Houkago Katharsis, Tactics, Cheeky Fighter ดูรอบนี้เราจำสเตปก็เชียร์เพลงใหม่ทั้ง 3 เพลงได้หมดและ แล้วก็เต้นเพลง Cheeky Fighter ได้แล้วด้วย! เพลงมันสนุกดี ท่าเต้นก็น่ารักสดใส ดูแล้วดูอีกก็ไม่เบื่อจริงๆครับ นี่ล่ะ..วงโปรดอันดับที่ 1 ในใจวงปัจจุบัน ไม่เคยตามวงไหนแบบว่าลงทุนบินมาดูไลฟ์เดบิวหรือมาดูอีเว้นท์ต่างๆบ่อยเท่าวงนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย~

จบจากไลฟ์ของ Cheeky Parade ก็มามันส์กันต่อกัน ぱすぽ☆ วงโปรดอันดับที่ 2 ในใจตอนนี้ เจอวงโปรดอันดับ 1 และ 2 ขึ้นเวทีติดกันแบบนี้ ยังไงก็ต้องดูล่ะครับ! แม้แดดจะแผดเผาจนตัวดำปี๋เลยก็ต้องทน ผ่านจิกิป้ามาได้นี่เหงื่อท่วมแล้ว เจอ ぱすぽ☆ ต่อเนื่องอีกวงเข้าไปนี่เหงื่อท่วมยังกะเพิ่งเตะบอลเสร็จเลยทีเดียว ยืนตากแดดอยู่เกือบชั่วโมง ดีนะที่ร่างกายฟิตพร้อม ถ้าป้อแป้มาล่ะก็มีหวังเป็นลมเอาง่ายๆเลยล่ะ มาต่อกันที่เรื่องบนสเตจดีกว่าๆ สาวๆ ぱすぽ☆ ปรากฏตัวในชุดสีชมพูซึ่งเป็นคอสตูมของซิงเกิ้ล Next Flight ซึ่ง Flight นี้ของสาวๆก็ยังคงขึ้นเวทีกันแค่ 8 คนเพราะอันเนี้ยได้รับบาดเจ็บ Mezamashi Live เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาก็ไม่สามารถขึ้นเวทีได้ ผ่านมาเป็นสัปดาห์กว่าๆแล้วก็ยังไม่หาย ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้หายทันขึ้นงานอีเว้นท์ซิงเกิ้ลใหม่ Natsuzora HANABI ในสัปดาห์หน้าก็แล้วกันนะ~(มารู้ทีหลังว่าสเตจสุดท้ายที่ Sky Stage อันเนี้ยมาขึ้นเวทีในเพลง Bathtub กับเพื่อนๆได้ ดีใจจัง) แม้จะเหลือแค่ 8 คนแต่การเต้นก็ยังมันส์สะใจไม่มีเปลี่ยน สาวๆจัดเต็ม 6 เพลงเช่นเคยชนิดที่ว่ากินเวลาวงอื่นไปด้วย เล่นเอางานเลทไปเลยทีเดียว เค้ามีเวลาให้ 20 นาที วงอื่นๆเค้าจัดกัน 3-4 เพลง แต่ ぱすぽ☆ ต้อง 6 เพลงเป็นปกติครับ! จาก 20 นาทีก็เลยกลายเป็น 30 นาทีไป setlist ใน Flight นี้ก็มี Let It Go!, Yume Passport, Hello, Dear My Friend, Go On a Highway, ウハエ! ตอนเพลง Hello นี่โมริชี่แกล้งมิโอะมิโอะด้วยการอุ้มมิโอะมิโอะแล้วหมุนเป็นเครื่องบิน มิโอะน้อยก็กรี๊ดออกไมค์เสียงดังมาก! พอโมริชี่วางมิโอะลง คุณน้องเล็กแกทรุดลงไปนั่งจ๋องกับพื้นเวทีเลย ดูแล้วสงสารนะเนี่ย ฮ่าๆ นี่ล่ะ ぱすぽ☆ ต้องมีอะไรบ้าๆไม่ธรรมดาเกิดขึ้นเสมอ~ หลังจบสเตจของ ぱすぽ☆ แล้ว เราก็รีบวิ่งไปตรงทางเดินด้านหลังเวทีเพื่อรอโบกมือให้ตอนสาวๆเดินกลับห้องพัก ซาโกะตี้เดินนำมาคนแรกเลย เราเลยรีบวิ่งไปหาตรงที่โล่งๆยืนรออยู่คนเดียว เพื่อโบกมือให้ซาโกะตี้ พอซาโกะตี้เดินมา ผมก็เรียกชื่อเธอแล้วก็พูดว่า “โอทสึคาเระซะมะ” ซาโกะตี้ก็ยิ้มแล้วโบกมือให้พร้อมทั้งพูดขอบคุณ โอเคครับ! ด่านแรกผ่านไป นั่นคือไปเสนอหน้าให้ซาโกะตี้รู้ว่าเราเป็นแฟนคลับ เราว่าน้องเค้าต้องจำเราได้เพราะที่คาดหัวที่เราใส่อยู่มันเด่นมาก เป็นการเพิ่มพล๊อพเพื่อทำตัวให้เด่นให้ไอด้อลจำได้นั่นเอง ฮี่ๆ จนเรายืนโบกมือให้สาวๆครบทั้ง 9 คน(อันเนี้ยมาอยู่หลังเวทีและเดินออกมาตอน MC เช่นเคย) มองดูเวลายังเหลืออีกตั้ง 20 นาทีกว่าจะถึงเวลาที่นัดเจอกันพวกปอนด์ เราเลยตัดสินใจเดินไปที่โซน Grand Market อีกครั้งเพื่อสังเกตการณ์ดูว่ามีไอด้อลวงไหนอยู่ที่เต็นท์ขายของบ้าง ไหนๆก็ต้องเดินผ่านอยู่แล้วซิ!

วันนี้แดดยังคงร้อนแรงเช่นเคย และน่าจะร้อนเปรี้ยงกว่าวันแรกด้วยซ้ำ และในวันที่ 2 นี้พวกเราไม่ต้องรีบร้อนไปรอคิวเพื่อรับสายรัดข้อมือเข้างานแล้ว ก็เลยค่อนข้างจะชิวและเดินทางไปถึงงานในเวลา 10 โมงตรงพอดี เสื้อที่ใส่มาในวันนี้คือเสื้อสีเขียวอ่อนของซาโกะตี้ที่เพิ่งซื้อเมื่อวานนี้ แน่นอนว่าวันนี้มาเพื่อ ぱすぽ☆ เป็นเป้าหมายหลักเลยใส่ตัวนี้มา แล้วก็เอาเสื้อ ぱすぽ☆ ThaiFan มาเปลี่ยนด้วยนะ! ยังไงก็ต้องได้ใส่ทั้ง 2 ตัวนี้ผงาดอยู่ในงาน TIF นี่ล่ะ~

เดินมาถึง Grand Market คนก็มีเยอะพอสมควรแต่ยังไม่พีคมาก อาจจะเป็นเพราะเป็นช่วงก่อนเที่ยง ซึ่งเป็นไปได้ว่ายังไม่มีวงดังๆมาก็เลยยังไม่คึกคักเท่าไหร่นัก เดินวนดูครบทุกแถวก็มาสะดุดที่วงเดิมที่แอบสังเกตการณ์อยู่เมื่อวานก็คือน้องๆวงステーション♪ น้องๆทั้ง 5 คนผลัดกันมายืนแจกใบปลิวอยู่ที่หน้าเต็นท์ นำโดยนารุที่เป็นลีดเดอร์ของวง รวมทั้งเนเนะจิด้วยอีกคน ที่เหลืออีก 3 คนยังคงง่วนกับการขายของอยู่ที่เต็นท์ เราเข้าไปด้อมๆมองๆก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปต่อแถวแล้วซื้อของ บอกสตาฟฟ์ว่าภาษาญี่ปุ่นเราไม่ค่อยได้เพราะผมไม่ใช่คนญี่ปุ่นนะ เราเป็นคนไทย สตาฟฟ์เค้าก็รับทราบ แต่เราก็พูดญี่ปุ่นกับเค้านั่นล่ะ บอกว่าอยากได้รูปพร้อมลายเซ็นเค้าก็บอกให้เลือก เป็นจังหวะเดียวกับที่นารุกลับเข้ามาในเต็นท์ก็เลยถามอะไรผมซักอย่างเป็นประโยคที่ค่อนข้างยาว เราไม่ทันได้ฟังประกอบกับยาวๆไปสมองประมวลผลไม่ทัน ก็เลยทำหน้าฉงนแล้วก็ร้องว่า “เห?” สตาฟฟ์เค้าก็เลยบอกว่าลูกค้าคนนี้เป็นคนไทยน่ะ พอจบที่สตาฟฟ์พูด นารุ,นานะ,อิจจี้ น้องๆ 3 คนที่อยู่ในเต็นท์ร้องขึ้นมาเลยว่า “เหหห” นั่นไง ไอด้อลตกใจอีกวงแล้วไง ฮ่าๆ เราก็เลยพูดกับนารุว่าชอบ ステーション♪ นะ แต่สิ่งที่นารุพูดกลับมานี่ทำเอาผมแอบฮา คุณน้องเธอพูดว่า “โอ้! ขอบคุณนะคะ ส่วนชั้นก็ชอบคุณซาโกะเหมือนกันค่ะ” นารุพูดพร้อมกับชี้นิ้วมาที่เสื้อซาโกะตี้ที่เราใส่อยู่ อ้าว.. เป็นโอตาคุเหมือนกันหรอจ๊ะคุณน้อง ฮ่าๆ รูปที่เราซื้อเป็นรูปของเนเนะจิและอิจจี้(คุยกับนารุแต่ไม่ซื้อรูปนารุซะงั้น) ระหว่างรอน้องๆมาเซ็นลายเซ็นบนรูป เราก็ถามสตาฟฟ์ว่าแผ่นซิงเกิ้ล Let’s go, Tetsudo Idol ไม่มีขายหรอ? เห็นมีแต่ซิงเกิ้ลแรกกับซิงเกิ้ลที่ 3 แล้วก็เป็นอัลบั้มเลย สตาฟฟ์เค้าก็บอกว่ามันหมดครับ แต่ถ้าอยากจะฟังจริงๆซื้อเป็นอัลบั้มไปก็ได้นะครับ มีครบทุกเพลงซิงเกิ้ลเลยครับ แต่เราก็ยังไม่ซื้อ รอดูลาดเลาก่อนว่าวันนี้จะเสียเงินให้ไอด้อลอีกมั้ย เพราะยังไงแผ่นอัลบั้มของ ステーション♪ ไปหาซื้อที่ Tower Records ชิบุย่าได้อยู่แล้ว ตอนที่อิจจี้มาเซ็นลายเซ็นแล้วเอารูปยื่นให้ เราก็ชี้ที่น้องแล้วก็เรียกชื่อ “อิจจี้” คุณน้องแกตกใจแบบไม่คิดว่าเราจะรู้จักชื่อเธอมั้ง~ อิจจี้ก็ยิ้มให้แล้วก็พูดว่าขอบคุณนะคะ แล้วคุณน้องก็บอกว่าตอนเที่ยงมีไลฟ์สเตจที่ Green Oasis นะคะ เราก็เลยตอบไปว่าแล้วจะไปดูนะ.. สรุปว่าได้รูปมา 2 เซ็ตๆละ 500 เยน ซิงเกิ้ลเดี๋ยวไปหาซื้อเอาทีหลัง วันนี้บอกแล้วว่าจะชอปปิ้งให้น้อยๆ เน้นดูสเตจ ฮ่าๆ

มองดูนาฬิกา เอ้า! นี่มัน 11.30 น. ถึงเวลาที่นัดกับปอนด์แล้วนี่! ก็เลยรีบวิ่งไปหาซึ่งระยะทางไกลอยู่นะ แต่ก็ต้องวิ่งเพื่อทำเวลา ก็ไปถึงที่นัดเลทไปเกือบ 10 นาทีได้ จากนั้นก็เดินกลับมาพร้อมกัน 4 คน ผ่านตรง Greeting Square พอผ่านตรงโต๊ะจับมือกับไอด้อลนี่หยุดชะงักเลย เพราะแถวแรกสุด Jewel Kiss กำลังจับมือกับแฟนๆอยู่เลย เอาล่ะสิ! ได้เวลาทดสอบแล้วว่าที่ไปตีซี้กับสตาฟฟ์เอาไว้เมื่อวาน ดูซิวันนี้จะจำเราได้มั้ย? เราเลยเดินเข้าไปหาคุณสตาฟฟ์คนที่สนิทด้วยเมื่อวานนี้ แล้วก็ทักเค้าไปว่า “สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้วนะครับ จำคนไทยที่มาเมื่อวานนี้ได้มั้ยครับ?” เราถามเสร็จเค้าก็บอกว่า “โอ้! จำได้ครับๆ” เราเลยบอกเค้าว่า “วันนี้พาเพื่อนมาด้วยครับ” สตาฟฟ์เค้าคงคิดว่าเพื่อนที่ผมบอกว่าชอบ Jewel Kiss ก็คือพวกปอนด์ล่ะมั้ง เค้าเลยพูดว่า “อ่า.. ตอนนี้มีอีเว้นท์จับมืออยู่ครับ ยังไงก็.. เรียนเชิญครับ เชิญเลยๆ” สตาฟฟ์แกออกจากการคุมอยู่ต้นแถวเพื่อมายืนดูแลเทคแคร์เรานี่ล่ะ! พามายืนต่อแถว แล้วก็พูดว่าคอยแป๊บนะครับอะไรแบบนี้ เค้าเทคแคร์ดีมากเลยนะ รู้สึกเหมือนเป็น VIP เลยอ่า ฮ่าๆ แล้วตอนโปรดิวเซอร์ของวง Jewel Kiss เดินผ่านมา สตาฟฟ์คนนี้เค้าก็แนะนำให้รู้จักด้วย บอกว่าคนนี้โปรดิวเซอร์ครับ แล้วก็บอกทางโน้นว่านี่เป็นแฟนคลับน้องๆมาจากไทย เราก็โค้งให้ คุณโปรดิวเซอร์ก็แบบโอ้ว! ยินดีครับยินดี แล้วแกก็เดินจากไป ส่วนเราก็รอจับมือกับน้องๆ เอาล่ะ! มาดูกันว่าโมกะจังจะจำเราได้มั้ยนะ? พอถึงคิวเราปุ๊บ สตาฟฟ์ก็บอกน้องๆว่าแฟนคลับจากไทยเมื่อวานนี้มาล่ะ อะไรๆก็ง่ายขึ้น ได้จับมือน้องๆครบทุกคน หัวแถวนี่เป็นริระ และคนที่จำได้แม่นก็คือโมกะจังที่อยู่คนที่ 5 นั่นเอง เดินผ่านมาตามทาง เราก็บอกน้องๆต่างๆกันไป ส่วนมากจะบอกให้สู้ๆพยายามเข้านะ เดี๋ยวไลฟ์ช่วงบ่ายจะไปดูนะ อะไรแบบนี้ แล้วพอเดินมาถึงโมกะจัง เราก็เรียกชื่อน้องก่อนเลย “โมกะจัง” “ค่า~” “จำคนไทยเมื่อวานนี้ได้มั้ย?” “จำได้อยู่แล้วจ้า พุตโตะซัง” “โอ้ว!!!” “อ่า.. ขอบ คุง ค้าบ(โมกะจังพูดเป็นภาษาไทย)” “โอ้ว! ดีใจจัง ขอบคุณค้าบ(ผมพูดไทยกลับ)” ปลื้มมากครับ! คือน้องจำเราได้น่ะยังไม่เท่าไหร่ แค่จำเราได้จำชื่อเราได้มันก็สุดยอดมากแล้วนะ แต่นี่โมกะจังยังจำคำภาษาไทยที่สตาฟฟ์สอนให้เมื่อวานนี้ได้อีก! ดูน้องๆวงนี้เค้าแคร์แฟนคลับดีจัง อายุยังแค่ 12-13 ขวบเองนะ(เซริกะกับโมกะย่าง 16 ที่เหลือตัวเยาวชนล้วนๆ) ประทับใจมากเลย เจองี้เข้าไป ถึงแม้แต่ก่อนจะไม่ได้ชอบโมกะจังมาก่อน ตอนนี้บอกได้เวลาว่าชอบโมกะจังที่สุดในวงไปแล้ว~ ขอโทษด้วยนะไมจัง.. จับมือน้องๆทั้ง 7 คนเสร็จ สตาฟฟ์ก็เดินมาบอกตารางงานที่เหลือว่ามีอะไรบ้าง เราก็ไม่ได้จำหรอกเพราะว่าตารางดูสเตจของผมมันเต็มเอี้ยดแล้วจริงๆ ก็พยักหน้าดูตามไปงั้น แล้วก็ขอบคุณสตาฟฟ์เค้าก่อนจะเดินจากออกมา(สุดท้าย ผมก็ฟลุ้คได้ดู Jewel Kiss อยู่ดี ไม่รู้ทำไมมันบังเอิญขนาดนี้ วงนี้ที่ผมสนิทได้ก็บังเอิญ ได้มาจับมือก็บังเอิญผ่าน ได้ดูสเตจก็บังเอิญไปดูวงก่อนหน้านั้น มันบังเอิญไปมั้ยเนี่ย? ฮ่าๆ)

เวลามีไม่มากแล้ว ช่วงอีเว้นท์จับมือของ ぱすぽ☆ ก็มีถึงแค่ 12.30 น. เท่านั้น บีบให้เราต้องทำเวลาสุดๆ เราไม่รอช้าไปต่อแถวจับมือกับสาวๆ ぱすぽ☆ ทันที และมันก็ทำให้เราได้รู้ว่าบัตรจับมือ 1 ใบสามารถจับมือกับสาวๆได้เพียงใบละคนเท่านั้น! แย่แล้วสิ!! แล้วแบบนี้ผมจะเอาเสื้อ ぱすぽ☆ ThaiFan ไปมอบให้สาวๆแต่ละคนกับมือเลยยังไงเนี่ย? ถึงตรงนั้นเราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่อย่างฉับพลันเลย คงเลือกจับมือกับโอชิเท่านั้น แล้วต้องมีบัตรอย่างน้อย 1 ใบที่เข้าไปจับมือกับไอป้งหรือโมริชี่ซึ่งเป็นกัปตันและรองกัปตันของวง คือต้องสองคนนี้ล่ะที่พอจะฝากผีฝากไข้เอาเสื้อไปส่งต่อให้สมาชิกในวงคนอื่นๆได้ เวลาคิดแผนมีเหลือเฟือเพราะต้องต่อแถวยาวมากๆเลย ก็ตระเตรียมเสื้อในกระเป๋าให้พร้อมที่จะดึงออกมาได้โดยง่าย เอาล่ะ! ถึงตรงนี้ผมต่อแถวจับมือซาโกะตี้อยู่ และผมก็พร้อมที่จะได้คุยกับโอชิของผมคนนี้แล้ว~ มายืนรออยู่หน้าสุดของแถว รอสตาฟฟ์บอกให้เดินเข้าไปได้ มีเวลา 30 วินาที เริ่ม! จับมือกับซาโก๊ะตี้ "สวัสดีซาโกะตี้" "สวัสดีค่า เหนื่อยหน่อยนะคะ" "จ้า~ คือ.. พี่มาจากไทยครับ เป็นคนไทยล่ะ" "โอ้ว คนไทยหรอคะ?" "ใช่ครับ เป็นแฟน ぱすぽ☆ โอชิเมนคือซาโกะตี้ครับ” “ขอบคุณนะค้า” “แล้วก็มีของมาให้ด้วย เป็นเสื้อ ぱすぽ☆ เวอร์ชั่นไทย นี่ครับ" "เหหห ยอดเลย!" "ตรงนี้เป็นภาษาไทยอ่านว่า ぱすぽ☆ ครับ ชี้ๆ" "เอ่อ.. คำว่าขอบคุณ ภาษาไทยพูดว่ายังไงคะ?" "อ่า.. ขอบคุณค่ะ!" "ขอบคุงค่า" "ยิ้มแล้วโค้งให้นิดนึง" "แล้วเอาไว้เจอกันใหม่นะค้าบ" "ค่า บ๊ายบาย" ซาโกะตี้พูดขอบคุณเป็นภาษาไทย! ซาโกะตี้ยิ้มหวานมากๆ ถึงจะดูหน้ามึนเป็นปกติชีวิตก็เถอะ ฮ่าๆ เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากครับตอนนั้น ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้พูดคุยกับซาโก๊ะตี้จริงๆ หลังจากจับมือกับซาโกะตี้เสร็จ แน่นอนครับว่ายัยลูกแมวน้อยอย่างมิโอะมิโอะซึ่งเป็นรองโอชิของเราคือเป้าหมายต่อไป แถวยาวหน่อยแต่ก็ทนรอได้ พอถึงคิวเราก็เดินเข้าไปตรงหน้ามิโอะมิโอะ ต้องบอกว่าลูกแมวน้อยมีพลังทำลายล้างสูงมาก! สีหน้าแววตาออดอ้อนตลอดเวลา เสียงแหบๆเล็กๆ ตัวก็กะเปี๊ยกนึง~ คือเป็นลักษณะของคนที่น่าแกล้งเป็นที่สุดจริงๆ อยากอุ้มกลับบ้านด้วย ฮ่าๆ จับมือกับมิโอะมิโอะ "สวัสดีจ้ะมิโอะจัง" "ค่า สวัสดีค่า" "คือพี่มาจากไทยนะครับ เป็นคนไทย ชอบ ぱすぽ☆ มากๆ!" "โอ้ว จริงหรอคะ? ขอบคุณนะคะ" "อ่า พี่มีของจะให้ด้วยล่ะ นี่ๆ เสื้อ ぱすぽ☆ เวอร์ชั่นไทย" "อ๊าา สุดยอดเลย!" "อ่านว่า ぱすぽ☆ นะ" "ยอดเลย อันนี้พี่ทำเองหรอคะ?" "อะไรนะครับ?(ฟังรอบแรกไม่ทันแถมเสียงคุณน้องก็เบ๊าเบา)" "เสื้อนี้พี่ทำเองหรอคะ?" "อ้อ ใช่จ้า~(ต้องก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆมิโอะเพราะเสียงเธอเบาเหลือเกิน)" "ขอบคุณนะค้า" "ยินดีจ้า.. เดี๋ยวต่อไป เจอกันที่ Hot Stage นะ!" "อ๊ะ! ค่า แล้วเจอกันค่า บ๊ายบาย~" “บ๊ายบาย” มิโอะมิโอะเป็นคนเดียวที่จับมือเราตลอดตั้งแต่ต้นจนจบการสนทนา มือเล็กยังกะลูกแมวจริงๆ แววตาที่มองก็โคดอ้อน เริ่มไม่แปลกใจแล้วที่เด็กคนนี้จะถูกพี่ๆในวงคอยแกล้งอยู่ตลอดเวลา ก็มันน่าแกล้งจริงๆอ่า

ถึงเวลานี้เพิ่งจับมือไป 2 คน ยังเหลือบัตรอีก 2 ใบให้จับมือ แต่เวลาเจ้ากรรมดันเหลือแค่ไม่ถึง 10 นาทีแล้ว! คิดๆดูถ้าฝืนไปต่อแถวพวกตัวเทพๆต่อนี่ไม่มีทางจะได้จับครบแน่ๆ พอดีชำเลืองไปมองทางฝั่งซ้ายของโต๊ะจับมือก็เห็นว่านาจู,นาโอมิน,ยุกกี้ ยืนว่างคุยกันอยู่ คือแรกๆก็จะมีแฟนคลับมาจับด้วยนั่นล่ะ แต่ไปเรื่อยๆแล้วมันก็หมด คงเพราะแฟนคลับน้อยกว่าชาวบ้านที่เหลือ อย่างอันเนี้ยที่เจ็บข้อเท้าขวาก็มานั่งให้แฟนๆมาจับมืออยู่นะ ไม่รู้ว่าแฟนเยอะเป็นปกติหรือเพราะว่าขาเจ็บเลยมีแฟนๆมาต่อแถวพูดให้กำลังใจก็ไม่รู้ เอาล่ะ! เห็นดังนั้นผมเลยปรับแผนอีกครั้ง ด้วยการไปยืนรอจะจับมือกับนาจู เพื่อจะได้โอกาสมอบเสื้อให้อีก 3 คนที่เหลือที่อยู่ข้างๆนาจูไปด้วยเลย ไหนๆก็ยืนว่างแล้วหนิ จับมือ 1 คนเสมือนได้จับมือ 3 คน ฮ่าๆ จับมือกับนาจู "สวัสดีนาจู" "หวัดดีค่ะ" "ผมมาจากไทยครับ เป็นคนไทย" "โอ้ว เพิ่งเคยมาดูครั้งแรกป่ะคะ?" "อ่า ใช่ๆ" "อื้ม.. ยินดีที่ได้รู้จักนะ" "ครับๆ เอ่อ.. ผมมีของมาให้ด้วยล่ะ เป็นเสื้อ ぱすぽ☆ เวอร์ชั่นไทย" "โอ้ว ขอบคุณนะคะ" "อ่า.. ทำมาให้คนอื่นด้วยนะ นี่ๆ.." จากนั้นเราก็หันไปทางนาโอมินกับยุกกี้ แล้วก็หยิบเสื้อวางให้บนโต๊ะ สองคนนั้นก็มองตามแล้วก็หยิบเสื้อที่ผมให้ขึ้นมาดู เราเกือบลืมหยิบของอันเนี้ยให้ไปด้วย พอดีกับที่สตาฟฟ์เค้ามาไล่แล้วไง แต่แถวมันว่างก็เลยแบบเนียนๆวางเสื้ออันเนี้ยต่อเนื่องไปเลย แล้วก็เดินออกมา ปรากฏยุกกี้หันมาถามว่านี่คืออะไรหรอ? เราก็หันไปตอบว่า “เสื้อ ぱすぽ☆ ไทยเวอร์ชั่นครับ” ตะโกนอยู่ข้างๆนั่นล่ะ เพราะเดินออกจากแถวมาแล้วไง ยุกกี้ก็ตอบกลับมาว่า “อ้อ! ขอบคุณน้า” เราก็โค้งให้ก่อนเดินออกมา แอบมองคล้อยหลังไปเห็นทั้ง 4 คนยืนถือเสื้อมองๆดู เสร็จแล้วก็คุยๆกันต่อ ฮ่าๆ เหลือด่านสุดท้าย บัตรจับมือ 1 ใบกับเสื้อที่เหลืออีก 3 ตัว เราจึงตัดสินใจไปต่อแถวของไอป้ง จะฝากฝังให้กัปตันช่วยเอาเสื้อไปส่งต่อให้คนที่เหลือซะหน่อย แต่เวลาจะหมดอยู่แล้ว แถวไอป้งก็ยาวมากๆ เลยเปลี่ยนแผนอีกรอบ เปลี่ยนใจไปจับมือกับโมริชี่แทน ยังไงแถวก็เหลืออีกไม่ยาวมาก แถวเมื่อกี้แอบเห็นโมริชี่จับมือกับฝรั่งชาวสก๊อตแลนด์แล้วด้วย ก็เลยแบบเอาวะ.. ไปจับมือกับโมริชี่ก็แล้วกัน แต่ปรากฏว่าตอนจะถึงคิวเราแล้วแท้ๆ(คิวถัดมา) แต่สตาฟฟ์ตะโกนบอกว่า “หมดเวลาแล้วครับ ไว้มาใหม่รอบหน้านะครับ” ไอ้เราก็แบบชิบหายแล้วไง! รอบหน้าคงไม่ได้มาแล้วด้วยดิ ทำไงดีเนี่ย? สุดท้ายก็เลยงัดไม้ตายคนไทยขึ้นมาใช้! เดินเข้าไปอ้อนวอนสตาฟฟ์กันซึ่งๆหน้าเลย “โทษนะครับ ขอผมอีกคนได้มั้ยครับ?” “ไม่ได้แล้วครับ ต้องตามกำหนดเวลาครับ ไว้มารอบหน้านะครับ” “กรุณาด้วยครับ พอดีว่าผมไม่มีเวลาแล้วครับ ผมต้องรีบกลับน่ะครับ.. ยังไงขอความกรุณาด้วยครับ” พูดไปทำสีหน้าแววตาเป็นทุกข์จนแทบน้ำตาไหล พูดเสร็จก็โค้งให้สตาฟฟ์อีกซัก 2-3 ทีด้วยเอ้า! เอาล่ะครับ.. ณ จุดนั้นสตาฟฟ์คนนี้แกก็ลังเล อารมณ์แบบเค้าอุตส่าห์ขอร้องแต่กำหนดการก็ต้องทำตาม.. แต่สตาฟฟ์หันไปทางสาวๆแล้วคงเห็นแบบว่าไหนๆก็ยังมีพวกลูกหลงที่ยังจับมืออยู่บางคน ยังไม่ได้เลิกแบบครบทุกคนอะไรแบบนี้ เค้าก็เลยหันมาบอกเราด้วยสีหน้าจำยอมและเห็นใจ “โอเคครับ แต่ผมให้คุณ 30 วินาทีนะครับ” “ขอบคุณมากครับ” โค้งให้อีก 1 ทีเลยเอ้า! ฮ่าๆ เพิ่งเคยจะบากหน้าตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จก็วันนี้ล่ะวะ!! คุณสตาฟฟ์หันมาถามเรา “โมริชี่ใช่มั้ยครับ?” “ครับ โมริชี่ครับ” สตาฟฟ์ก็เลยเดินไปสะกิดโมริชี่แล้วบอกว่าช่วยต้อนรับแฟนคลับคนนี้อีกคนนะ แล้วสตาฟฟ์ก็หันมากวักมือเรียกเราเชิญครับๆ แบบนี้เรียกว่า “กล้าขอกล้าให้” ครับพี่น้อง ฮ่าๆ จับมือกับโมริชี่ "โมริชี่ สวัสดีค้าบ" "ดีค่า" "คือผมมาจากไทยนะ เป็นคนไทย ชอบ ぱすぽ☆ มากๆ" "โอ้ว คนไทย ขอบคุณนะคะที่มา" "คือ..มีของมาให้ด้วย เป็นเสื้อ ぱすぽ☆ ไทยเวอร์ชั่น" "โอ้ว ทำมาให้ชั้นเหรอคะ? " "ใช่ครับ" "อ๊าา ขอบคุณมากเลยค่ะ" "เอ่อ.. คือเวลาไม่มีแล้ว (หยิบเสื้อมาก๊ตจังกับไอป้งออกมา) ยังไงรบกวนให้มิโอะกับไอป้ง.." "อ๋อ จะฝากให้มาก๊ตจังกับไอป้งใช่มั้ยคะ? ได้เลยๆ เดี๋ยวจัดการให้" “อ้า! ใช่ๆ มาก๊ตจังกับไอป้งครับ” “จัดให้ค่ะ!” "ขอบคุณนะครับ" "ค่า" ว่าแล้วว่าพึ่งพาได้จริงๆ จบปุ๊บชีเดินไปเอาเสื้อยัดใส่มือมาก๊ตจังกับไอป้งทันที เราขอบคุณโมริชี่เสร็จก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณสตาฟฟ์คนคุมเวลาจับมือก่อนที่ผมจะเดินออกมา รวมๆแล้วผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่กับการจับมือกับสาวๆ ぱすぽ☆ เพราะว่าไม่ได้จับมือครบทุกคน แต่ถ้าคิดว่าได้จับมือกับโอชิ 2 คนและได้ให้เสื้อกับมือรวมทั้งได้คุยด้วยมันก็โอเคแล้วล่ะ! ส่วนการมอบเสื้อ ぱすぽ☆ Thaifan ให้นี่ แม้จะต้องเปลี่ยนแผนเพราะไม่สามารถจับมือครบทุกคนได้ ตะกุกตะกักไปบ้าง แต่สุดท้ายก็แจกให้ครบทุกคน เราลองมองเช็คดูอีกทีแล้วว่าทุกคนได้รับเสื้อครบแล้วตามสีของตัวเองจริงๆ แค่นี้ก็เป็นอันคอนเฟิร์มได้แล้วว่า Mission Completed! ภารกิจการมอบเสื้อ ぱすぽ☆ ThaiFan ประสบความสำเร็จ แค่นี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างกับการมางาน TIF 2012 ในครั้งนี้แล้วล่ะ~

จบจากการจับมือกับ Jewel Kiss และ ぱすぽ☆ แล้ว พอดีได้ยินเพลงของวง 9nine ดังมาจากเวที Smile Garden ก็เลยรีบวิ่งไปดู มันคือเพลง Shining Stars ที่เป็นเพลงเอกของวงนี้นั่นเอง ได้ดูเพลงนี้แบบสดๆครั้งแรกในชีวิต ฮิโรโระตัวจริงน่ารักมาก!!! อุมิก้ะก็จะสวยงามสง่าไปไหน เอาจริงๆคือน่ารักมากๆทั้ง 5 คนเลย แม้แต่คันจังที่เคยมองว่าผิวคล้ำกว่าเพื่อน ดูสเตจจริงๆแบบว่าไม่เห็นจะตัวดำเลยซักนิด แถมน่ารักอีกต่างหาก! มาคิดๆดูไอด้อลตัวจริงอาจจะน่ารักทุกคนเลยก็ได้นะ อย่างวง Vanilla Beans ที่รูปถ่ายดูป้าๆ ตัวจริงก็น่ารักมากๆ ดูเด็กๆน่ารักๆไม่เห็นวี่แววของป้าเลยซักนิด.. หรืออย่างวง OS☆U นี่ ความน่ารักต่างจากในรูปแบบหน้ามือกับหลังเท้าเลย!! ตัวจริงน่ารักมากๆ นี่ป่ะที่เค้าเรียกว่าถ่ายรูปไม่ขึ้น?

ยืนดู 9nine จนจบแล้วก็ต่อด้วยวง Tokyo Girls’ Style เมื่อวานนี้ได้ยินแต่เพลงไม่ได้ดูสเตจ วันนี้ได้เห็นน้องๆทั้ง 5 คนแบบเต็มตาแล้ว~ เคยดูในคลิปเป็นยังไง ตัวจริงก็น่ารักน่ากอดอย่างงั้นเลยครับ! ทั้งฮิจัง,เมจัง,อ๊าจัง,ยุริจัง,มิยุจัง เราบอกไม่ได้เลยว่าใครน่ารักที่สุด เพราะน้องๆทั้ง 5 คนตัวจริงนี่น่ารักสดใสเป็นที่สุดทุกคน! สเตจนี้เราได้ดูเพลง Himawari to Hoshikuzu กับ Onaji Kimochi ที่เป็นเพลงที่ชอบด้วย~ ได้เห็นว่าแฟนคลับของน้องๆก็เยอะไม่แพ้ใคร ศิลปินระดับคุณภาพเช่นนี้ ไม่แปลกหรอกที่จะมีแฟนๆคอยตามให้กำลังใจกันล้นหลามขนาดนี้

จบสเตจของ Tokyo Girls’ Style ที่เวที Smile Garden แล้ว ก็ได้เวลาไปหาข้าวเที่ยงกิน ช่วงบ่ายคงมีอะไรดีๆน่าดูที่สเตจอีกเยอะ เดี๋ยวจะไม่มีเวลากิน เรากับเพื่อนๆเดินย้อนไปหาข้าวกินแถวๆเทศกาลอาหารนานาชาติที่มาจัดงานอยู่ใกล้ๆ Zepp Tokyo Diversity พอดี ซัดข้าวสตูว์เนื้อไปชามนึง ไม่อิ่มนะ แค่พอบรรเทาให้หายหิว กินเสร็จก็ขอนั่งพักเหนื่อยซะหน่อย ก่อนที่จะเดินกลับมาตรง Greeting Square และ Grand Market อีกครั้ง เพื่อสำรวจว่ามีไอด้อลวงไหนที่มาประจำอยู่ที่เต๊นท์ขายของกันบ้าง.. ปรากฏว่าแจ๊กพ๊อตครับพี่น้อง! สาวๆ Afilia Saga East หลายคนเลยมาประจำอยู่ที่เต๊นท์มั่ง,หน้าเต๊นท์มั่ง,รวมทั้งบริเวณใกล้ๆเพื่อแจกใบปลิว แน่นอนว่าแค่นี้ก็ทำให้ปอนด์กับเราตาลุกวาวด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขแล้วล่ะ! หนึ่งในนั้นก็คือยัยเตี้ยโคฮิเมะ target อยู่ข้างหน้า เดินเข้าไปหาเล้ย!! เรากับปอนด์เดินเข้าไปเสนอหน้าทักทายโคฮิเมะครับ โคฮิเมะจำปอนด์ได้ ก็เลยจำได้ว่าเราสองคนเป็นคนไทย คุณเธอพยายามพูดภาษาอังกฤษ ส่วนพวกเราก็พูดญี่ปุ่นกลับไป ใครเห็นคงฮาดีพิลึก ชอบอยู่ประโยคที่โคฮิเมะพูด “I’m happy~” หมายถึงที่พวกเราบอกว่าชอบ Afilia อะไรงี้ เราก็ตอบกลับว่า “Bokutachi mo Ureshiidesu!” โคฮิเมะก็ยิ้มหวานแล้วก็หัวเราะโฮะๆอันเป็นน้ำเสียงโมเอ้พิฆาตของเธอ ฮ่าๆ แล้วซักพักสตาฟฟ์ที่ยืนถ่ายคลิปวีดีโออยู่ก็ขยับเข้ามาถ่ายโคฮิเมะข้างหน้า เห็นเค้าถ่ายตอนที่โคฮิเมะคุยกับพวกเราและล่ะ พอกล้องมาป๊ะหน้า โคฮิเมะก็พูดว่า “มีแฟนๆชาวไทยมาดูด้วยล่ะค่ะ ดีใจจัง” พูดแบบนี้ใส่กล้องด้วยอ่ะ!!! อยากรู้ชะมัดว่าเป็นรายการอะไรหรือทำไว้เผื่อเป็น Making อะไรรึเปล่า? จะได้ไปตามหามาดู~ อีกคนที่อยู่ในสายตาคือยัยตัวเล็กเสียงดังอย่างเอมิว ขนาดเรานั่งอยู่ไกลจากคุณเธอตั้งเป็น 10 เมตร แต่เอมิวก็ตะโกนให้ทั้งตลาดได้ยินได้! น้ำเสียงพูดปกติยังกะเสียงตะโกนเลยแม่จ้าว! ชอบในความเป็นคนตรงๆก๋ากั่นของเอมิวจริงๆแฮะ ส่วนอีกคนที่มีโอกาสได้เดินเข้าไปทักทายคืออาเรีย ไม่น่าเชื่อว่าอาเรียในระยะใกล้ๆเช่นนี้จะดูป้ามาก!! จนแอบคิดเลยว่าอาเรียอายุถึง 30 แล้วรึเปล่า? แล้วซักพักสาวๆ Afilia ก็ถูกเรียกรวมพลเพื่อเตรียมตัวมาลงอีเว้นท์จับมือที่ Greeting Square ตอนบ่าย 3 โมง พวกเราก็เลยแอบเดินตามไปด้วย คอยทักทายโคฮิเมะไปเรื่อยตามทาง รู้สึกเหมือนเป็น stalker ยังไงยังงั้นเลย ฮ่าๆ

หลังจากไปเฮฮาอยู่กับสาวๆ Afilia Saga East อยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาที่จะไปดูสเตจต่อแล้วล่ะ เห็นยังมีเวลาว่างก่อนที่ปอนด์จะต้องมาจับมือกับ Afilia เราเลยชวนทุกคนขึ้นไปดูสเตจที่ Sky Stage กันดู แบบว่ายังไม่เคยขึ้นไปบนนั้นมาก่อน แล้ววงที่ผมอยากดูก็มีสเตจข้างบนทั้ง Sky Stage และ Secret Court หลายวงเลยด้วย การจะขึ้นไปชั้นบนนั้น มีทางเดียวก็คือต้องขึ้นลิฟท์เท่านั้นครับ! แล้วลิฟท์ก็มีแค่ 2 ตัวขึ้นๆลงๆสลับกันไปมา คิดดูนะว่าถ้าช่วงที่มีวงดังๆมาเล่นสเตจนี่ จะต้องต่อแถวยาวแค่ไหนกัน? อันนี้ไม่อยากคิด แต่เคยเดินผ่านแล้วมองเห็น แถวยาวมาก! โชคดีหน่อยตรงที่ช่วงที่เราจะขึ้นไปดูนี่เป็นวงรองๆจนถึงวงเล็กๆ ก็เลยได้ขึ้นแบบสบายๆ

พอขึ้นมาถึงข้างบนแล้ว ก็รีบวิ่งไปที่เวที Secret Court ก่อนเลย โดย Secret Court นั้นจะเดินถึงก่อนเวที Sky Stage คือ Sky Stage นี่จะอยู่บนดาดฟ้า ส่วน Secret Court จะอยู่ตรงชั้นลอยซึ่งเป็นทางผ่านขึ้นไปดาดฟ้า ดังนั้นใครที่จะขึ้นไปบนดาดฟ้า ก็จะต้องเดินผ่าน Secret Court อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และพอมาถึง Secret Court เราก็เห็นว่าวง choice? วงที่เมื่อวานเราไปถ่ายรูปมานั้นกำลังขึ้นสเตจพอดีเลย!! สาวๆทั้ง 5 คนในชุดเมด ซึ่งเป็นคอสตูมของซิงเกิ้ลที่ 14 (求愛型無敵宣言 ~choice?がメイドだったら~) ที่เห็นในคลิปหรือในรูปนี่มันช่างน่ารักมาก แต่พอได้เห็นในไลฟ์สเตจจริงๆนี่ยิ่งกว่าประทับใจอีก! ได้ดูซิงเกิ้ลล่าสุดคือซิงเกิ้ลที่ 15 เพลง 夏色プリズム ด้วย!

ประทับใจมากๆเลยโดยเฉพาะคุรุมินและมิซึแฮม 2 โอชิของเรา แต่โดยรวมแล้ววงนี้เราชอบทุกคนเลยนะ! ตอนอยู่บนเวทีแอบฮามาโอะ คือคุณน้องเต้นๆอยู่แล้วผ้าคาดหัวของเมดมันจะหลุดตลอด สุดท้ายคุณน้องเลยถอดออกซะเลย ก่อนที่ตอน MC จะเอามาผูกใหม่โดยให้คุรุมินผูกให้ ฮ่าๆ
ได้ดูไลฟ์ของวง choice? ตามที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว ก็เหลือแค่ pramo วงต่อไปนี่ล่ะที่อยากดูเช่นกัน แต่ว่าเดี๋ยวจะมีวงคั่นก่อน 2 วง แล้วช่วงคั่นนี้ ที่เวที Sky Stage มีวง Himekyun Fruit Can และ Sakura Gakuin ขึ้นเวทีล่ะ! พวกเราทั้ง 4 คนก็เลยขึ้นไปบนดาดฟ้ากัน..

พอเดินขึ้นมาถึงดาดฟ้า ขอบอกว่าร้อนมาก!! แดดเปรี้ยงๆเวลาบ่าย 3 โมงตกใส่หัว ถ้าตัวไม่ดำหรือหน้าไม่มืดก็แปลกแล้วล่ะ! ขึ้นมาเวลาก็บ่าย 3 โมงแล้ว ความจริงมันต้องเป็นเวลาแสดงของวง พอเดินขึ้นมาถึงดาดฟ้า ขอบอกว่าร้อนมาก!! แดดเปรี้ยงๆเวลาบ่าย 3 โมงตกใส่หัว ถ้าตัวไม่ดำหรือหน้าไม่มืดก็แปลกแล้วล่ะครับ!

ขึ้นมาเวลาก็บ่าย 3 โมงแล้ว ความจริงมันต้องเป็นเวลาของ Himekyun Fruit Can แล้วนะ.. แต่กลับกลายเป็นวง RYUTist ที่ขึ้นเวทีแทนก่อน ไอ้เราก็สงสัยว่าทำไม? มารู้เอาทีหลังว่าในเว็บไซต์ของงาน Tokyo Idol Festival 2012 มีการแจ้งอัพเดตตารางเวลาสเตจใหม่ด้วย คือมีวง RYUTist เข้ามาแทรกก่อนจะถึง Himekyun Fruit Can ไม่รู้ล่ะ เราเลยเดินไปหลบแดดตรงลิฟท์ก่อน พอดีมีโอตาคุกลุ่มนึงลุกออกไปก็เลยเดินเข้าไปนั่งหลบแดดกันตรงนั้น พอเวลามันเลื่อนไปกระทันหันแบบนั้น ปอนด์กับปังก็เลยขอตัวลงไปจับมือกับ Afilia Saga East ที่ Greeting Square ก่อน แล้วนัดเจอกันอีกทีตอน 16.45 น. ตรงใกล้ๆกับ Grand Market ส่วนเราก็อยู่กับคุณเอเกรียงไกรบนนี้ต่อ

จนแล้วจนรอดก็ได้เวลาของ Himekyun Fruit Can แล้ว! เปิดสเตจด้วยเพลงโปรด Watashi Daiichi Kibou เช่นเคย ท่ามกลางแดดร้อนจัดแต่น้องๆก็ยังเต้นกันเต็มที่เหมือนที่เคยดูมากก่อนหน้านี้ ยิ่งดูยิ่งประทับใจจริงๆ นี่เป็นสเตจที่ 3 แล้วที่เราได้ดูวงนี้แบบสดๆ แต่ดูยังไงก็ไม่เบื่อนะ อารมณ์เดียวกับที่ดูวง Cheeky Parade นั่นล่ะ~
แต่ว่าดูได้ไม่เต็ม 3 เพลงดี ผมก็ต้องรีบวิ่งกลับลงไปที่ Secret Court แล้ว(วิ่งลงมาช่วงเพลงที่ 3 กำลังแสดงอยู่) เพราะได้ยินเสียงเปิดสเตจของเวทีดังขึ้นมาถึงข้างบน พอชะเง้อลงไปดูก็เห้นว่าน้องๆวง pramo ขึ้นเวทีแล้ว!! เลยหันไปบอกคุณเอซึ่งรอดูวง Sakura Gakuin วงโปรดของเขาที่จะขึ้นเวทีต่อจาก Himekyun Fruit Can ว่าเดี๋ยวขอลงไปดู pramo ก่อน เสร็จแล้วจะกลับขึ้นมา เอ้า! วิ่งเข้าๆ

สเตจของน้องๆวง pramo มีคนดูไม่เยอะเท่าไหร่นัก แต่อย่างที่บอกว่ามันเป็นทางผ่านเดินขึ้นไปเวที Sky Stage ดังนั้นก็เลยเหมือนมีคนที่เดินผ่านหยุดยืนดู รวมทั้งคนที่นั่งพักเหนื่อยอยู่รอบๆก็ได้ดูไปด้วย แต่ที่อยู่หน้าเวทีน่ะมีไม่เยอะหรอก เราเป็นคนนึงที่ไปยืนอยู่ติดเวทีเลย! ย้ำครับว่าติดเวทีจริงๆ เรายืนอยู่ฝั่งซ้ายของเวที ซึ่งเป็นพื้นที่สัมปทานการยืน formation ของอาโออิจังที่อยู่ขวามือสุดของวง และโคมุกิที่ยืนอยู่ถัดจากอาโออิจังเข้าไป(formation ของวง pramo เรียงจากขวามือของวงไปซ้ายมือจะเป็น อาโออิ,โคมุกิ,ม่าจัง,มี่จัง,เซเร็น) ยืนเชียร์น้องๆด้วยความประทับใจในความพยายาม ถึงแม้จะเต้นไม่ได้เก่งมาก แบบว่ายังต้องฝึกการเต้นการร้องกันอีกเยอะ แต่มันก็ประทับใจที่น้องๆได้พยายามแล้วก็ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา แถมเพลงก็สนุกอีกต่างหาก สนุกสนานในสไตล์เด็กสาวจากอะคิตะ เห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้! คอสตูมในสเตจนี้น้องๆใส่เสื้อโปรโมตเมืองอะคิตะที่ขายที่เต๊นท์ขายของด้วย รวมทั้งติดเข็มกลัดที่วางขายนั่นล่ะ! ดูเค้ารักอะคิตะจริงๆนะ เล่นเอาเราอยากจะไปเที่ยวอะคิตะซักครั้งจัง.. แม้จะเต้นแค่ 3 เพลงและไม่มีเพลงโปรดของผมอย่างเพลง ツボミ~一期一会~ แต่โดยรวมแล้ว ยิ่งชอบวงนี้ขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลยล่ะ!

จบจากสเตจของ pramo ตามตารางแล้วมันไม่มีสเตจอื่นต่อไง เราก็เลยกลับขึ้นไปตรงเวที Sky Stage ก็เห็นวง Sakura Gakuin บนเวที เลยมองๆหาคุณเอ แต่พอเจอคุณเอปุ๊บยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย ได้ยินเสียงเพลงที่คุ้นเคยดังมาจากเวที Secret Court พอดี! เลยวิ่งไปชะเง้อมองดู เฮ้ย! Jewel Kiss ขึ้นสเตจ Secret Court เฉยเลย! อย่างที่บอกว่ามันมีการประกาศเปลี่ยนแปลงตารางเวลาในเว็บไซต์ของงาน ซึ่งไปเช็คดูทีหลังจะเห็นว่าในตารางงานมี Jewel Kiss ขึ้นเวที Secret Court ตอน 4 โมงเย็นเพิ่มขึ้นมาเฉยเลย! อะไรจะฟลุ้คขนาดนั้น~ มางานนี้ไม่ได้อะไรกับ Jewel Kiss มากเลยนะ แบบว่าถ้าได้ดูก็ดี ถ้าอดก็ไม่เป็นไร แต่พอได้จับมือได้ถ่ายรูปด้วย ที่สำคัญคือได้สนิทกับสตาฟฟ์ ในตอนนี้เราชอบ Jewel Kiss เป็นวงอันดับต้นๆแล้วล่ะ! เราจึงรีบวิ่งกลับไปบอกคุณเอว่าขอตัวกลับลงไปดู Jewel Kiss ก่อน ซึ่งเราคิดว่ามันคงจบทีหลังวง Sakura Gakuin แน่นอนเพราะขึ้นเวทีทีหลัง ก็เลยบอกคุณเอว่าให้ตามลงไปเจอกันข้างล่างที่เวที Secret Court โดยเราจะยืนอยู่ตรงลำโพงทางซ้ายมือ ซึ่งเมื่อกี้ที่มองลงไปเห็นมันมีที่ว่างพอดี ก็นัดเจอกันตรงนั้น แล้วผมก็รีบวิ่งลงไปดู Jewel Kiss แสดง

ตอนที่มาถึง เราก็ไปยืนตรงลำโพงทางซ้ายอย่างที่บอก เชื่อมั้ยว่าคุณสตาฟฟ์ที่เราตีสนิทด้วยนั่น เค้ายืนคุมอยู่ข้างๆลำโพงนั้นพอดีเลย! แม่จ้าว~ อะไรมันจะแจ๊กพ็อตขนาดนั้น! คือกะให้จบงานนี้ เรากลายเป็น VIP ของวง Jewel Kiss เลยป่ะ? ฮ่าๆ ยังไม่ทันจะวางกระเป๋าเลย สตาฟฟ์ก็หันมามองเราแล้วก็ทักทายทันที หน้าตาเค้ายิ้มอย่างมีความสุขมากเลย แล้วก็พูดกับเราว่า “ขอบคุณที่มาดูนะครับ” เราก็บอกเค้าไปว่า “ครับ ผมก็อยากดูครับ” นี่บังเอิญชัดๆ.. แต่ ณ เวลานั้นพอเห็นว่ามีสเตจการแสดง เรานั้นอยากจะดู Jewel Kiss จริงๆนะ อยากดูมากๆ ดูวงนี้แล้วมันสนุกตรงโอตาคุที่มาเชียร์น้องๆนี่ล่ะ! จัดเต็มมากๆเลย มีการเชียร์ที่บ้าคลั่งอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอตาคุน้องๆวงนี้ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันดีมาก เห็นได้จากตอนที่น้องๆ MC แนะนำตัวนั้น สมมติว่าพอริระกำลังแนะนำตัว จะมีโอตาคุสีอื่นๆมาอุ้มโอตาคุเสื้อสีส้ม(สีประจำตัวของริระ)ขึ้นจนแทบจะก้าวพ้นเวที พอน้องพูดจบโอตาคุของน้องเค้าก็จะมีประโยคที่ต้องพูดเชียร์น้องๆต่อ แล้วตอนที่โมกะจัง MC นี่ คุณสตาฟฟ์หันมายิ้มให้เราแล้วชูนิ้วโป้งให้ด้วยแน่ะ! งี้เราต้องจัดครับ! รู้มาว่าหลัง MC โอตาคุของโมกะจังจะตะโกนว่า “โมกะจังได๊สึกิ!!” เราก็เอาด้วยเลย ตะโกนไปพร้อมๆกันนั่นล่ะ เพียงแต่โมกะจังจะยืนอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของวง และโอตาคุก็ไปออกันอยู่ตรงนั้น แต่เรายืนอยู่ลำโพงด้านซ้ายก็คือฝั่งขวาของเวที ก็เลยกลายเป็นตะโกนคนเดียวโดดเดี่ยวเลย ส่วนไลฟ์สเตจของน้องๆสนุกมากครับ เพลงมันส์อยู่แล้ว โดยเฉพาะเพลง 恋華 -Lovers Flower- นี่เชียร์มันส์มากๆ มีโอตาคุตัวพ่อของน้องๆมาสร้างสีสันให้ความมันส์เปลี่ยนเป็นโคตรมันส์~ เกินบรรยายจริงๆวงนี้ พอดูแล้วมันส์ขนาดนี้ ทำให้ผมกลับมาคิดเลยว่านี่ถ้าผมไม่ได้ดูนี่คงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ!

จบสเตจของน้องๆแล้ว คุณสตาฟฟ์ก็เดินมาถามความรู้สึกของเรา เราก็บอกเค้าไปว่า “สนุกมากครับ! นี่เป็นไลฟ์ครั้งแรกที่ผมได้ดูเลยล่ะ” สตาฟฟ์เค้าก็ยิ้มให้แบบปลื้มๆ แล้วก็พูดกลับมาว่า “โยกัตตะเนะ” เราก็ตอบว่า “ไฮ่ โยกัตตะเดส~” จบจาก Jewel Kiss ก็จะมีอีกวงนึงที่มาจากฮอกไกโดเหมือนกัน คุณสตาฟฟ์คนนี้เค้าแนะนำมา เค้าบอกว่าวงจากฮอกไกโดก็เป็นเพื่อนๆกันหมดเลย แล้วก็เห็นสตาฟฟ์คนนี้ตะโกนเชียร์.. อ้าว.. เป็นโอตาคุก็ไม่บอก..

ระหว่างยืนรอดูวงต่อไป ซักพักคุณเอก็เดินลงมา พวกเราก็เลยจะไปสมทบกับปอนด์ที่จุดนัดพบ แต่ปรากฏว่าแถวรอลงลิฟท์ยาวมาก! ยาวขึ้นมาถึงเวที Secret Court เลยวุ้ย! แบบนี้ไปถึงที่นัดไม่ทันแน่ๆเลย แต่ทำไงได้ก็ต้องรอคิวครับ ไปเรื่อยๆๆ สุดท้ายกว่าจะได้ลงลิฟท์แล้วกว่าจะวิ่งไปที่จุดนัดก็ปาเข้าไป 17.10 น. ซึ่งปอนด์กับน้องก็ไม่อยู่แล้ว เพราะว่าน้องของปอนด์อยากจะดูวง E-Girls ซึ่งตามตารางงานจะมีสเตจตอน 17.00 น. ที่เวที Smile Garden ผมกับคุณเอก็เลยลองเดินไปที่ Smile Garden ดูก็เจอปอนด์อยู่จริงๆ ซึ่งปอนด์บอกว่า E-Girls เลื่อนเวลาไปเป็น 18.20 น. แทน ผมก็เลยชวนไปดูวง bump.y ด้วยกันที่เวที Hot Stage เลย เพราะ bump.y เป็นอีกวงนึงที่ให้ตายก็ต้องดูให้ได้! ไม่ใช่อะไรหรอก วงนี้มีไลฟ์ให้ดูน้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คนที่มีโอกาสได้ดูนี่ถือว่าเป็นบุญตามากนะ~ ก็โอเค ตกลงเดินไปกัน ปรากฏว่าเจอวง Himekyun Fruit Can ดักฆาตกรรมอีกแล้วครับ! น้องๆมีอีเว้นท์จับมือที่ Greeting Square พอดีเลย~ ปอนด์บอกว่าแค่ซื้อผ้า towel ก็จะได้บัตร Sign & Shake หรือก็คือได้จับมือและน้องๆเซ็นลายเซ็นให้ด้วย! ยังไงก็ต้องจัดละครับ.. ถือเป็นการเข้าไปร่ำลาน้องๆก่อนจากด้วยไปในตัว

ก่อนอื่นเลยก็ต้องเดินไปซื้อผ้า towel ที่เต๊นท์ขายของก่อน ผ้า towel ผืนละ 1500 เยน จัดไปฮะ! พอได้บัตรก็รีบวิ่งกลับมาที่ Greeting Square แล้วก็ไปต่อแถวจับมือ อีเว้นท์จับมือนี้ใช้เวลาไม่จำกัดครับ เพราะยังไงก็ต้องรอน้องๆเซ็นชื่อให้ ระหว่างรอก็คุยกับน้องๆคนถัดๆไปได้สบายบรื๋อ~

รอบนี้เราให้ปอนด์เดินนำหน้าบ้าง เพราะจะได้ไปถึงซาคุจังก่อน ฮ่าๆ รอบนี้ไมไมจะยืนอยู่ก่อนซาคุจัง แต่ขนาดไมไมยังจำปอนด์ได้เลยนะเออ คือตอนที่ยุนจะเขียนชื่อปอนด์แต่เขียนไม่ถูก ไมไมจะไปดึงซาคุจังมาช่วยบอกให้ด้วย แต่ซาคุจังเห็นกระจกไม่ได้จะซ้อมเต้นท่าโซโล่ทุกที ฮ่าๆ มัวแต่เต้นระหว่างรอแฟนคลับ.. สุดท้ายยุนก็เขียนได้ไม่มีปัญหาอะไร พอถึงคิวเราเดินเข้าไปยื่นผ้า towel ให้ยุนเซ็นเท่านั้นล่ะ ไมไมทักเรานำมาก่อนแต่ไกลเลย “อ๊า พุตโตะซัง” เราก็ยิ้มแล้วก็ทักทายกลับไป “เจอกันอีกแล้วเนอะ ไลฟ์บน Sky Stage สนุกมากเลยล่ะ” “ไปดูมาด้วยหรอคะ? ขอบคุณค่า” “จ้า”

และเราก็ขอถ่ายรูปไมไมตามระเบียบที่ทางสตาฟฟ์อนุญาตไว้ว่าสามารถถ่ายรูปได้ “อะโน่.. ชะชินโอ้ะต๊ตเต้ะอี้เดสก๊ะ?” “ไฮ่~ อี้เดส!” น้ำเสียงอ่อนโยนรอยยิ้มอันสดใส เจองี้เข้าไปความกดดันตกมาอยู่ที่เราแล้วล่ะครับ คือต้องมีสมาธิในการถ่ายรูปมากๆ ไม่ใช่อะไรหรอก โอกาสครั้งเดียวกลัวถ่ายเบลอแล้วจะเฟล เอาไปอวดใครต่อใครเค้าไม่ได้ ฮ่าๆ เราก็ตั้งสมาธิถ่ายเต็มที่ ไมไมก็ยิ้มหวานให้ พอถ่ายเสร็จเช็ครูปแล้วว่าไม่เบลอก็โล่งอก ก็พูดขอบคุณไมไมไป เวลาว่างเหลือเฟือก็เลยคุยกับไมไมต่อ แบบว่าจะบอกว่าเดี๋ยวต้องกลับไทยแล้วน่ะ “นี่ๆ สัปดาห์หน้าจะกลับไทยแล้วล่ะ” “โอ้! หรอคะ เดินทางปลอดภัยนะคะ” “อื้ม! เอาไว้มาเจอกันใหม่นะ” “ค่า~ ไว้เจอกันใหม่ค่า” ระหว่างรอไมไมเซ็นผ้า เราก็เดินไปที่ซาคุจัง การคุยกับซาคุจังเป็นอะไรที่ฮามาก ก็คุณเธอเพิ่งจะหันกลับมาจากการซ้อมเต้น.. “ซาคุจัง” “ค่า~” “ไลฟ์สนุกมากเลย” “ขอบคุณนะคะ อ๊ะ! เสื้อนั่น..” ซาคุจังชี้มาที่เสื้อซาโกะตี้ที่ผมใส่อยู่ แล้วก็พูดว่า “ชั้นก็ชอบนะ วงพาส.. พาส.. อะไรหว่า?” แน่ะ! แล้วซาคุจังก็หันไปถามโฮโนะตันซะงั้น เฮ้ย! ชอบจริงป่าวเนี่ยถามจริ๊ง! แล้วโฮโนะตันก็บอกว่า ぱすぽ☆ ไง ซาคุจังเลยหัวเราะกลบเกลื่อน เอาล่ะ แบบนี้ต้องตอแหลสร้างชาติซะหน่อยแล้ว เราเลยบอกซาคุจังไปว่าเมื่อวานนี้เราซื้อเสื้อของ Himekyun Fruit Can ไปแล้วนะ ซาคุจังก็ขอบคุณด้วยน้ำเสียงดีใจ หึหึ ขอแค่ไอด้อลสบายใจ ถึงโกหกก็ต้องทำล่ะนะ.. หลังจากนั้นก็คุยกับโฮโนะตัน(น่าเสียดายที่มาปลื้มเอาหลังจากที่จบอีเว้นท์ไปแล้ว เลยไม่ได้ตามเป็นพิเศษ) และสุดท้ายคือมายุริน(นี่ก็น่ารักมาก) ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นการจับมือกับ Himekyun Fruit Can โดยสมบูรณ์ แหม.. ได้เจอกันตั้ง 3 วัน เยอะกว่าวงอื่นๆอีกขอบอก ไม่แปลกที่เราและปอนด์จะปลื้มวงนี้มากขึ้น สำหรับปอนด์นี่ไม่เคยดูไม่เคยตามมาก่อน ส่วนเราตามตั้งแต่มาญี่ปุ่นรอบก่อนแล้วล่ะ

เดินออกมาจากอีเว้นท์จับมือกับ Himekyun Fruit Can ก็ต้องรีบวิ่งไปดูสเตจของวง bump.y ต่ออย่างไว ซึ่งปอนด์ขอตัวไม่ไป เห็นบอกว่าจะไปเดินชอปปิ้งที่ Grand Market ต่อ เราเลยไปดู bump.y กับคุณเอที่เวที Hot Stage ไปถึงก็ราวๆ 17.45 น. แล้ว ก็เลยได้ดูแค่ 3 เพลงเอง(ไม่ทัน 2 เพลงแรก) ก็มี 2人の星〜離れていても, Wonderland, ガラゲッチャ〜GOTTA GETCHA〜 ช่วง MC นี่ก็พูดกันถึงสิ่งที่อยากทำในช่วงหน้าร้อน แล้วก็โปรโมตละครของแต่ละคนที่กำลังจะ on air ไปตามประสาดารา ได้เจอตัวจริงแล้ว! เห็นๆเลยว่าน้องๆทั้ง 5 คนน่ารักมาก โอชิของเราคือมิโอะจังก็น่ารักจริงจัง นานามิก็จะสวยไปไหน ซาระกับเมรี่ก็สวยมากๆเลย ส่วนมัตสึริจังกลายเป็นเด็กผู้ชายไปแล้ว~ ได้ดู bump.y แล้ว! ดีใจจริงๆ เหมือนปลดล๊อค achievement ยังไงยังงั้น

สเตจของ bump.y จบตอน 6 โมงเย็นพอดี เรากับคุณเอก็เดินกลับไปหาปอนด์ที่เดิมก็เจอปอนด์ยืนรออยู่ เราเลยขอเดินไปซื้อของไอด้อลทิ้งทวนแป๊บนึง เพราะยังไงซะเดี๋ยวพอไปดูวง E-Girls แล้ว Grand Market ก็คงจะทยอยกันเก็บเต๊นท์เก็บข้าวของกันหมดแล้วแน่ๆ ขนาดเดินเข้ามาตอน 6 โมงกว่าบางเต๊นท์ก็เก็บของแล้วด้วย เราเดินวนไปมา สุดท้ายก็ซื้อผ้า towel ของวง bump.y มาจนได้ แล้วก็ไปซื้อของที่เต๊นท์ของค่าย iDOL Street ต่อ คือกะซื้อมาฝากพี่ๆน้องๆที่เมืองไทยล่ะ เพราะถึงเวลานั้นซื้อแล้วไม่มีได้บัตรอะไรแล้ว (จะว่าไป วันนี้ไม่ได้ไปอีเว้นท์จับมือของน้องๆ Cheeky Parade เลย เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปดูสเตจให้เยอะๆ) ซื้อเสร็จก็พากันเดินกลับไปที่เวที Smile Garden ที่ปังไปรอดูวง E-Girls ล่วงหน้าแล้ว พออยู่ตรงนี้ก็ไม่ไปไหนแล้วครับ จริงๆแล้วน้องๆ Cheeky Parade มีสเตจตอน 18.40 น. ที่ Doll Factory ด้วยนะ (สุดท้ายเลยไม่ได้ดูสเตจที่ Doll Factory เลยซักวง) แต่ขี้เกียจไปแล้ว ถึงจะอยากไปดูมากก็เถอะ.. แต่ว่าอยู่ตรงนี้ก็ได้ดูวง Tokyo Girls’ Style อีกสเตจนึงแทนด้วยนะ! เกือบจะได้เห็นฮิจังกับเมจังมาวิ่งเล่นถ่าย Ustream ด้วยซ้ำ~

แล้วก็ได้เวลาปิดงานวันนี้ของพวกเรากันด้วย Afilia Saga East สเตจรอบนี้ฟินมาก! เพราะว่าได้ร่วมยิงมิกซ์กับโอตาคุญี่ปุ่นอีก 2 คนอย่างถึงพริกถึงขิง~ มันส์ระดับเทพเลย! ลิสต์เพลงในสเตจนี้ก็มี 倍速恋愛時計, La*La*Laラボリューション, 飛行実習 -Learn to Fly-,ワタシ☆LOVEな☆オトメ!, 放課後_ロマンス โดยในเพลงสุดท้ายนี่ เห็นปอนด์บอกว่าไม่ว่าจะร้องที่ไหน หลุยส์ก็จะร้องไห้ทุกครั้งจนอะยะมิต้องเข้ามาปลอบเสมอๆ และสเตจนี้ก็เช่นกัน หลุยส์ร้องฟูมฟายด้วยความปลาบปลื้ม จนอะยะมิต้องโอ๋แล้วพูดว่า “ร้องไห้เยอะ เดี๋ยวน้ำตาจะบดบังภาพแห่งความทรงจำนี้นะ!” ฟังแล้วปลื้มแทนยังไงก็ไม่รู้เนอะ
สนุกจริงๆที่ได้ดู Afilia Saga East เราได้รู้คำตอบแล้วล่ะว่าทำไมปอนด์ถึงชอบวงนี้มากขนาดนั้น หลังจบสเตจที่ Smile Garden เราก็บอกปอนด์ว่าถ้าอยากจะไปยืนส่งสาวๆให้ไปยืนตรงทางเดินด้านหลัง แล้วเราก็เดินพาทุกคนไปรอสาวๆเดินกลับห้องพัก สุดท้าย..ก็ได้ยืนโบกมือให้สาวๆพร้อมกับพูดว่า “โอทสึคะเระซะมะ” สาวๆก็ยิ้มให้แล้วก็โบกมือบ๊ายบายให้พวกเราด้วย~ มองจนสาวๆเดินกลับเข้าห้องพักไป ถึงตรงนี้ปอนด์ก็หลั่งน้ำตาแห่งความฟินออกมาก ปอนด์ฟินถึงขนาดที่ว่า One Man Live ครั้งต่อไปที่สาวๆประกาศบนเวทีว่าจะมีขึ้นในช่วงเดือน 12 และเปิดขายบัตรพรุ่งนี้ ปอนด์ถึงกับจะไปซื้อพรุ่งนี้ทันทีแล้วบินมาดูตอนเดือน 12 เลย! นี่ล่ะครับ! แฟนคลับตัวจริงเสียงจริง ทุ่มเทมากปอนด์ ปรบมือ!!

เวลา 19.30 น. โดยประมาณ สเตจส่วนใหญ่ก็จบหมดแล้วครับ ก็เหลือแค่ที่ Hot Stage ตอน 19.30 น. ซึ่งไกลซะจนขี้เกียจเดินฝ่าความมืด และก็มีสเตจ encore ที่ Smile Garden ตอนเกือบๆ 3 ทุ่ม แน่นอนว่าพวกเราคงไม่นั่งรอแน่นอน ดังนั้นก็เลยตัดสินใจเดินทางกลับกัน อีกอย่างคือกลัวกลับในช่วงที่เหล่าโอตาคุแห่กันกลับแล้วจะไม่มีที่นั่งเอา เหนื่อยๆขนาดนี้ไม่นั่งนี่มีตายนะ! ว่าแล้วก็เดินกลับออกไปขึ้นรถไฟฟ้า ระหว่างเดินผ่านเวที Welcome Marqee ก็เห็นคนงานกำลังรื้อถอนเวทีอยู่พอดี.. อา.. นี่งาน TIF 2012 สำหรับเรามันคงจบแล้วจริงๆสินะ? สุดสัปดาห์แห่งความสนุกความบันเทิง กับไอด้อล 700 กว่าคนที่โอไดบะ ได้พูดคุยได้จับมือได้ถ่ายรูปได้ดูไลฟ์ แต่การที่ไอด้อลบางคนจำหน้าเราได้จำชื่อเราได้นี่ เราเรียกมันว่านั่นคือมุมมองสำหรับไอด้อลที่มีต่อเราล่ะ ก่อนจะมาญี่ปุ่นหนนี้ เราได้พบกับไอด้อลคนนึงก่อนวันที่จะบินมาญี่ปุ่น 4 วัน(นั่นก็คือมิยาซาว่า ซาเอะ แห่งวง AKB48 นั่นเอง) นั่นทำให้ความคิดของเราเปลี่ยนไป.. จากการที่จะแค่มาแสวงหาความบันเทิงเพียงเพื่อได้ดูไอด้อลอย่างเดียว มันไม่ใช่! เราเปลี่ยนความคิดไปเป็นว่าการแค่เราจะเข้าหาไอด้อลเพียงอย่างเดียวมันไม่ถูก เราต้องทำให้ไอด้อลมาเข้าหาเราเองบ้าง! การเป็นคนต่างชาติมันก็มีข้อที่ได้เปรียบโอตาคุญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน แม้เราจะไม่ได้ดูได้เจอไอด้อลบ่อยครั้งหรืออยากดูเมื่อไหร่ก็ได้แบบโอตาคุญี่ปุ่น แต่การที่เราได้บอกน้องๆว่าเป็นคนไทย เดินทางมาจากไทยเพื่อมาดู มันทำให้น้องๆรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าเพิ่มมากขึ้นทันทีเลย และน้องๆก็จะรู้สึกปลาบปลื้มจนสุดท้ายก็จะเก็บเราเอาไว้ในความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยมีคนต่างชาติ(ที่เป็นคนไทย)คนนี้มาดู มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ไอด้อลหลายคนจะจำเราได้ ทั้งไมไม,โมกะจังหรือแม้กระทั่งยูเนี้ยง กลับไปคราวหน้าถึงจำหน้าไม่ได้ แต่ถ้ารื้อฟื้นความทรงจำกันซะหน่อย เราเชื่อว่าน้องๆต้องนึกออกและจำเราได้แน่นอน~ ไม่แน่นะ น้องๆอาจจะบินมาเปิดแสดงไลฟ์ที่เมืองไทยเพราะการนี้ก็เป็นได้! ใครจะไปรู้..

หลังจบสิ้นการตะลุยงาน Tokyo Idol Festival 2012 ในวันที่ 2 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย พวกเราทั้ง 4 คนก็มุ่งตรงไปขึ้นรถไฟ Yurikamome Line กลับจากสถานี Telecom Center ไปลงที่สถานี Shimbashi แล้วก็เดินไปต่อรถไฟ Tokyo Metro สาย Ginza Line กลับไปลงที่สถานี Asakusa แล้วก็หาข้าวเย็นกินแถวๆอะสะคุสะ ก่อนจะเดินกลับที่พักด้วยความเหน็ดเหนื่อยแต่อิ่มเอมใจ..

"แล้วปีหน้า พวกเราต้องมาด้วยกันอีกนะ!"