2012.08.08 Japan Trip #2 Day7 - Ikebukuro,Tokyo Dome City,Ginza,Marunouchi

วันนี้คณะเรามีโปรแกรมต้องไปอีเว้นท์รีลีสซิงเกิ้ลใหม่ของไอด้อลวง Idoling!! ที่ลานน้ำพุห้าง Sunshine City ย่านอิเคะบุคุโระ จากนั้นก็ไปคาเฟ่ของ Afilia กันต่อ ถ้าเวลาว่างพอก็จะไปเดินเล่นที่ Tokyo Dome City แต่ถ้าเวลาไม่พอก็จะเลยไปนัดเจอกับอาอู๋อีกครั้งหลังจากที่นัดเจอกันเมื่อทริปที่แล้วไปรอบนึงแล้ว

ออกจากที่พักพร้อมกันเวลาประมาณเกือบ 10 โมงเช้า เดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Asakusa

เริ่มต้นวันนี้ด้วยการนั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza Line จากสถานี Asakusa ไปลงที่สถานี Ginza แล้วต่อรถไฟสาย Marunouchi Line จากสถานี Ginza ไปลงที่สถานี Ikebukuro (ค่าโดยสาร 230 เยน)

เดินออกจากสถานี Ikebukuro ข้ามถนนแล้วเดินต่อมุ่งหน้าไปทางถนน Sunshine60

ที่ถนน Sunshine60 นี้ถือเป็นย่านการค้าที่สำคัญของอิเคะบุคุโระเลย มีร้านรวงตลอดทางเยอะแยะมากมาย ร้านเกมเซ็นเตอร์ก็เยอะ หลายคนชอบมากดตู้จับตุ๊กตา UFO Catcher กันที่นี่ด้วย พูดแล้วก็นึกถึงตอนที่พี่บิ๊กพามาเดินเล่นที่นี่ในทริปครั้งที่แล้ว สนุกดี

เดินทะลุถนนเส้นนี้ไปจนสุดทาง จุดหมายที่เราต้องการจะไปคือห้าง Sunshine City ซึ่งอยู่ฝั่งไกลๆนั้น

เดินทะลุถนน Sunshine60 มาแล้วก็ข้ามถนน เราก็เจอตึก animate สาขาอิเคะบุคุโระ

ตึก animate สาขาอิเคะบุคุโระนี้ จะเน้นสินค้าแนว BL ที่บรรดาสาวๆสายวายชื่นชอบ บวกกับสินค้าอนิเมะและเกมจีบหนุ่ม เรียกกันง่ายๆก็คือ animate สำหรับผู้หญิงนั่นล่ะฮะ เราเดินเข้าไปด้านในก็พบข้อเท็จจริงที่ว่า 70% ของลูกค้าด้านในร้านคือ "ผู้หญิง"

ด้านข้างของตึก animate นี่ ฝั่งตรงข้ามก็คือห้าง Sunshine City นั่นเอง

ข้ามถนนแล้วเดินเข้ามาในห้าง ดูแผนผังของห้างก่อนซะหน่อย จะได้ไม่เสียเวลาต้องเดินหาลานน้ำพุกลางห้าง

เดินขึ้นมาชั้น 2 จะถ่ายรูปลานน้ำพุได้มุมที่ดีกว่า จะเห็นว่ามีเครื่องเสียงและลำโพงเซ็ตไว้บ้างแล้ว ก่อนที่จะเริ่มอีเว้นท์ในช่วงบ่าย

ป้ายบอกอีเว้นท์ชัดเจน ว่าเป็นงาน Release Event ของวง Idoling!! เค้า

จุดที่เขาเปิดขายแผ่นซีดีจะอยู่ชั้น 2 ตรงทางออกไปยังลานจอดรถที่อยู่ใกล้กับสวนสนุก Namja Town ในห้าง ถ้าซื้อซีดี 1 แผ่นไทป์ไหนก็ได้ ก็จะได้บัตรจับมือ 1 แผ่น โดยที่ในบัตรก็จะมีหมายเลขบัตรอยู่ ตอนที่สตาฟฟ์เรียกเข้าอีเว้นท์ก็จะเรียงตามลำดับที่ในบัตร

เดินผ่าน Namja Town ที่บอก เหมือนจะได้รับความนิยมจากเด็กๆพอสมควรเลยนะ

มีเวลาก่อนจะถึงช่วงอีเว้นท์ชั่วโมงนิดๆ เลยพากันไปนั่งกินเบอร์เกอร์ที่ร้านแม็คโดนัลด์ในห้างกัน

หลังจากต่อแถวเดินเข้าดูไลฟ์ที่ยาวออกไปจนถึงลานจอดรถของห้าง เวลา 12.30 น. ก็เป็นเวลามินิไลฟ์ เพลง One Up!!! ที่เป็นซิงเกิ้ลใหม่เพราะมากๆ ฟังแล้วชอบตั้งแต่ครั้งแรกเลยล่ะ (สาวๆร้องสองรอบ ตอนอังกอร์อีกรอบนึง) และหลังจบมินิไลฟ์ ก็จะเป็นการจับมือโดยที่ได้จับทั้งวงเลย ดีใจจังที่ได้บอกน้องเดะ(คาเอเดะ)ว่าเราเป็นโอชิน้อง มีความสุข ฮ่าๆ

เสร็จจากชมอีเว้นท์แล้วก็ออกมาเดินเล่นชอปปิ้งในย่านอิเคะบุคุโระกันต่อ ร้านรวงเยอะแยะละลานตามากๆ

เป็นครั้งแรกที่เดินชอปปิ้งแถวนี้ คราวก่อนแค่มาเดินเล่น

ร้าน Book-Off นี่เหมือนเป็นสวรรค์ของคนชอบสินค้ามือสองจริงๆ

อย่างเรานี่ก็ชอบสะสมแผ่นซีดีเพลงอยู่แล้ว โดยเฉพาะซีดีเพลงไอด้อลและซีดีเพลงสากล ที่นี่ราคาถูกมากๆเลยล่ะ!

หลังจากซื้อของกันเรียบร้อยแล้ว ปอนด์ชวนเข้าร้านคาเฟ่ของวง Afilia Saga East คือจะเป็นคาเฟ่แนวโรงเรียนเวทมนตร์ พนักงานแต่งตัวด้วยชุดเครื่องแบบของ Afilia กันหมดเลย สาขาที่อิเคะบุคุโระนี้จะเป็นร้านอาหาร สาขาที่อุเอโนะจะเป็นบาร์นั่งดื่ม

เข้าร้านครั้งแรกจะต้องทำบัตรเมมเบอร์หรือที่นี่เรียกว่า "จ่ายค่าแรกเข้าสมัครเป็นนักเรียน" ค่าทำบัตรตั้ง 1,900 เยนแน่ะ จะแถมเครื่องดื่มให้ 1 แก้ว เข้าไปก็ต้องสั่งอาหารอีก สรุปแล้วก็โดนไป 3,100 เยน แพงจัง..

เสร็จภารกิจที่อิเคะบุคุโระแล้ว เราก็รีบเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Marunouchi Line จากสถานี Ikebukuro ไปลงที่สถานี Korakuen จุดหมายต่อไปของเราคือไปเดินเล่นที่ Tokyo Dome City

เดินออกมาจากสถานี Korakuen ก็จะเห็นโดมใหญ่ๆตระหง่านอยู่ข้างหน้า ซึ่งนั่นก็คือ Tokyo Dome

วันนี้ที่มาคนพลุกพล่านคึกคักมาก เพราะว่ามีแมทช์การแข่งขันเบสบอลของทีม Tigers ที่ใช้ Tokyo Dome เป็นสนามเหย้าแข่งขันอยู่พอดีเลย วันนี้ Tigers แข่งกับ Giants

ได้พบคนดูทุกเพศทุกวัยจริงๆ คนดูมากันเพียบสมกับเป็นกีฬาอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่นจริงๆ

ร้านขายสินค้าของทีมนั้นขายดีมากๆ แทบจะต้องต่อคิวเข้าชอปกันเลยล่ะ

ในบริเวณของ Tokyo Dome City นั้นจะมีสวนสนุกอยู่ด้วย เครื่องเล่นที่เห็นเด่นชัดมากๆก็คือรถไฟเหาะที่รางโค้งสูงๆยาวๆนี้

รางของรถไฟเหาะนั้นจะวนเลาะไปตามตึกห้างๆหนึ่งนั่นก็คือ LaQua

ทางเข้าห้าง LaQua ก็อยู่เยื้องๆกับ Tokyo Dome เลย

นอกจากรถไฟเหาะแล้ว เครื่องเล่นอีกอย่างที่อยู่ตรง LaQua ก็คือ "ชิงช้าสวรรค์"

ข้างบนวิวคงจะดีมากแน่ๆเลย! อยากลองขึ้นไปนั่งเหมือนกันแฮะ

มาถึงเครื่องเล่นอีกชนิดที่ดูน่าสนใจสำหรับเรา นั่นก็คือ "Parachute Land"

เครื่องเล่นนี้มันจะเป็นแบบ..ให้เราขึ้นไปยืนแล้วดึงขึ้นไปจนถึงด้านบนสุด จากนั้นก็ปล่อยทิ้งดิ่งลงมา

ไม่รู้ว่ามันจะเสียวมากแค่ไหน แต่เราคิดว่าการชมวิวข้างบนนั้นมันน่าจะโอเคอยู่นะ ฮ่าๆ

ใกล้ๆกับทางเข้าเครื่องเล่น Parachute Land จะมีลานสำหรับเด็กวิ่งเล่นอยู่ด้วย

ตรงลานนี้จะปล่อยไอน้ำและน้ำพุเป็นพักๆ เด็กๆที่มาวิ่งเล่นเกือบทุกคนก็ตัวเปียกแฉะกันไป

ตรงนี้ก็ยังมีเครื่องเล่นที่เหมือนม้าหมุนแต่ทรงเป็นถ้วย ไม่ค่อยมีคนเล่นเท่าไหร่

เครื่องเล่นแต่ละชนิดนั้น เราจะต้องกดซื้อตั๋วเครื่องเล่นที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติเอาเองก่อนที่จะเดินไปต่อแถว ซึ่งตู้ขายตั๋วก็จะตั้งอยู่ใกล้ๆกับทางเข้าเครื่องเล่นนั้นๆ

ภาพอีกมุมหนึ่งของ Tokyo Dome

ถ่ายรูปกับ Tokyo Dome ทิ้งท้าย ก่อนที่จะไปเดินเล่นที่อื่นต่อ มีนัดกับอาอู๋ไว้ที่แถวๆย่านกินซ่าซิ

จาก Tokyo Dome City เราก็นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Marunouchi Line สายเดิมที่นั่งมา จากสถานี Korakuen ไปลงที่สถานี Tokyo แล้วต่อรถไฟ JR สาย Yamanote Line จากสถานี Tokyo ไปลงที่สถานี Yurakucho อีกที เรานัดกับอาอู๋ไว้ที่ด้านหน้าสถานีนี้ แล้วเดี๋ยวจะเดินไปกินซ่าพร้อมๆกัน

สวัสดีกินซ่า! ได้มาเยือนย่านนี้อีกครั้ง ครั้งนี้มาตอนกลางคืนครั้งแรก ไฟสวยดีนะ

ตึก SEIKO ด้านในมีนาฬิกาข้อมือขายเยอะแยะเลย

ก่อนจะไปหาข้าวเย็นกิน อาอู๋พามากินวาฟเฟิ่ลอร่อยๆที่ร้าน "Manneken" คราวก่อนที่มากับคุณแฟนไม่ได้กิน รอบนี้ได้กินแล้ว

อิตะดะกิมาสสสสสส~

มื้อเย็นวันนี้ อยากพาชาวคณะมากินมิโสะคัตสึอร่อยๆของร้าน "Yabaton" ที่เมื่อทริปครั้งก่อนพี่บิ๊กพามากินไปหนนึงแล้ว ดีใจที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย แหะๆ

หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็ไปเดินเล่นรอบๆ Imperial Palace กัน

ยามค่ำคืนแถวๆนี้เงียบสงบมากๆ มีคนวิ่งออกกำลังกายผ่านแถวนี้อยู่บ้างประปราย

เดินวนรอบสั้นๆซักรอบ เม้ามอยกันไปเพลินๆ จริงๆซื้อไดฟุคุสตรอเบอร์รี่มากินกันด้วยนะ ไม่ได้เดินอย่างเดียว ฮ่าๆ

ย่านโอเตะมะจินี้ ตึกสำนักงานเยอะมากจริงๆ

เริ่มจะดึกละ กลับกันดีกว่า เดินทะลุย่านโอเตะมะจิ กลับสถานีโตเกียวกัน

เส้นทางเดินสู่สถานีโตเกียว ช่วงเวลาเกือบๆ 4 ทุ่มนี่เงียบสงัดมาก

เดินตรงไปเรื่อยๆเริ่มเห็นสถานีโตเกียว ซึ่งก็ดูไม่ได้เปิดไฟสว่างไสวอะไร คงเพราะกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงสถานที่อยู่ล่ะมั้ง..

และพวกเราก็เดินเข้าสถานีโตเกียว ขึ้นรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Marunouchi Line จากสถานี Tokyo ไปต่อสาย Ginza Line ที่สถานี Ginza และก็นั่งยาวๆไปสุดสายสถานี Asakusa ตามปกติ (ค่าโดยสาร 230 เยน) ตอนแรกก็ว่าจะกลับไม่ดึกนะ แต่สุดท้ายก็ดึกจนได้ ฮ่าๆ