top of page

2013.05.18 Japan Trip #3 Day8 - Kawaguchiko


เช้าวันแรกที่โตเกียว แค่วันแรกก็มีเรื่องกลุ้มๆให้ต้องสะสางเพียบเลย จะอะไรซะอีก.. ก็เรื่องที่ลืม Galaxy Tablet ทิ้งไว้บนรถไฟชินคังเซ็นเมื่อคืนนี้น่ะสิ! ต้องรีบออกจากโรงแรมที่พักเพื่อไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ Lost & Found ที่สถานี Tokyo ตั้งแต่เช้า เนื่องจากว่าตามแพลนวันนี้เราจะต้องพาคุณแม่,น้องสาวและคุณแฟนไปเที่ยวที่ทะเลสาบคะวะกุจิโกะ กลัวว่าเดี๋ยวจะเสียเวลาเที่ยวไปซะเปล่าๆ ไม่อยากถ่วงเวลาเที่ยวคนอื่น จะได้คืนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ก็ต้องลองไปดูก่อนล่ะนะ

รีบอาบน้ำแต่งตัววิ่งออกจากที่พักไปขึ้นรถไฟที่สถานี Shin-Okubo นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line ไปลงที่สถานี Shinjuku เพื่อต่อรถไฟสาย Chuo Line Rapid สีส้มนี้ไปสถานี Tokyo

รอรถไฟอย่างร้อนรน รถมาแล้วก็ขึ้นไปทันที

พอมาถึงสถานี Tokyo ก็เดินวนหา Lost & Found อยู่นาน ถามเจ้าหน้าที่คนแล้วคนเล่าก็บอกทางไม่เคลียร์ซะที เดินไปข้างนอกก็แล้ว ข้างในก็แล้ว วนอยู่สักพักสุดท้าย เข้าไปถามในเค้าเตอร์ขายตั๋วชินคังเซ็น Tokaido Shinkansen อีที่นั่งมานั่นล่ะ คราวนี้ใกล้ความจริงและ เดินออกไปข้างหน้าเลี้ยวขวาแรก จะเจอ Lost & Found เลย เดินมาตามที่เค้าบอกก็เจอแล้ว

เจอแล้ว! แต่ว่ายังไม่เปิดทำการ.. เขาเปิดเวลา 8.30 น. แต่นี่เพิ่งจะ 8 โมงเอง สงสัยต้องไปหาข้าวกินรอ

เดินลงไปชั้นล่างที่มีพวกอาหารขายบ้างละ เลยหาร้านนั่งรอ กินอาหารเช้าไปพลางๆ เซ็ตนี้ 390 เยน

พอถึง 8.30 น. คุณลุงเจ้าหน้าที่ประจำ Lost & Found ก็มาเปิดประตู เราก็รีบวิ่งพุ่งเข้าไปทันทีชนิดที่ลุงตกใจ ฮ่าๆ

ทำเรื่องให้มันง่ายอย่างที่สุดคือการคุยภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ สื่อได้ดีสุดและ บอกคุณลุงว่าลืม tablet เอาไว้บนรถไฟชินคังเซ็นขบวนนี้ ที่นั่งนี้ ยื่นตั๋วให้เขาดู คุณลุงก็ไปเช็คดู ไอ้เราก็นั่งลุ้น สุดท้ายคุณลุงก็ออกมาพร้อมกับ tablet ของเรา พอเห็นของเท่านั้นล่ะ น้ำตาไหลของจริง ได้คืนแล้ว เย้!

หลังจากได้คืน เราก็โชว์ให้เห็นว่าเป็นของเราโดยการเปิด tablet และ login เข้าให้ดู เสร็จแล้วคุณลุงก็ให้เซ็นเอกสารกับขอ passport ไปทำสำเนาเก็บเป็นหลักฐาน ดีใจมากๆที่ได้คืนมา ประเทศญี่ปุ่นจงเจริญ!!! (แต่แบต tablet เหลือ 19% เอง ฮ่าๆ)

หลังจากได้ tablet คืนแล้ว ยังไม่มีเวลามาลิงโลดดีใจ ต้องรีบกลับไปที่พัก แล้วก็พาคุณแม่กับน้องสาวไปเตรียมซื้อตั๋วขึ้นรถบัสไปเที่ยวคะวะกุจิโกะต่อ รีบวิ่งกลับไปขึ้นรถไฟ JR สาย Chuo Line Rapid ต่อด้วยสาย Yamanote Line กลับไปหาคุณแม่และน้องสาวที่โรงแรม

ถึงที่พัก 9.20 น. กว่าจะเดินไปถึงที่ซื้อตั๋วรถ Keio Bus ก็เกือบๆ 9.40 น. แล้ว คุณแฟนบอกว่าที่นั่งว่างต้องรอรถบัสรอบ 12.10 น. นู่นเลย เครียดละทีนี้ แล้วจะได้เที่ยวครบมั้ยเนี่ย สุดท้ายก็เป็นภาระคนอื่นจนได้..

สุดท้ายก็ต้องซื้อตั๋วรถบัสรอบนั้น เลยจำต้องมาเดินเล่นแถวๆย่านชินจุกุไปพลางๆก่อนราวๆ 2 ชั่วโมง ก่อนจะเดินไปขึ้นรถเวลา 12.10 น. ที่ Shinjuku Highway Bus Terminal

ซื้อตั๋วรถบัสไว้ทั้งขาไปและขากลับ ราคาเที่ยวละ 1,700 เยน ไปกลับก็ 3,400 เยน

ถึงเวลา 12.10 น. รถบัสไปคะวะกุจิโกะก็มาจอด ต่อแถวเดินขึ้นรถบัสพร้อมๆกันทั้งสี่คน อิตเตะคิมัส!

ระหว่างทางช่วงใกล้ๆจะถึงทะเลสาบคะวะกุจิโกะนั้นจะต้องผ่านสวนสนุก Fuji-Q Highland ก่อน เป็นสวนสนุกที่น่ามาเล่นมากๆ ได้เห็นวิวภูเขาไฟฟุจิอีกด้วยนะ

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ก็มาถึงสถานี Kawaguchiko ถึงที่หมายก็บ่าย 2 โมงพอดี เวลามีน้อย เลยรีบไปซื้อตั๋ว One Day Bus Pass ใบละ 1000 เยนจากที่ Tourists Information Center ข้างๆสถานีรถไฟเตรียมไว้

ตอนแรกว่าจะรอรถบัส แต่แบบว่าคนรอเยอะมาก รถบัสก็คันเล็กนิดเดียว สุดท้ายตัดสินใจว่าเดินไปดีกว่า ไปขอแผนที่มาแล้วก็เดินไปตามทาง

มาถึงแล้วนะ..คะวะกุจิโกะ

ดูแผนที่แล้วก็ข้ามถนนด้านหน้าสถานีรถไฟ ตรงไปตามถนนเบื้องหน้า

เดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ ประมาณเกือบๆ 2 กิโลเมตรก็จะถึงบริเวณริมทะเลสาบแล้ว

นับว่าตัดสินใจไม่ผิดที่ยอมเดินเท้ามา ถึงทะเลสาบคะวะกุจิโกะโดยใช้เวลาแค่ 20 นาทีเอง

เดินมาอีกนิด ใกล้ๆกันนั้นมีสถานีรถกระเช้า Mt.Fuji Panoramic Ropeway ด้วย สามารถขึ้นไปชมวิวฟุจิซังได้ด้วย

จริงๆทีแรกไม่ได้แพลนไว้ว่าจะขึ้นไป แต่ไหนๆก็มาและ คุณแฟนก็ชวน ตกลงว่าขึ้นก็ขึ้นเนอะ

เดินจากถนนขึ้นไปยังสถานี ropeway กัน

คุณแรคคูนที่น่าจะเป็นมาสคอตของที่นี่

ซื้อตั๋วโดยสาร ropeway แบบ round-trip ราคา 700 เยน

แถวยาวพอสมควร แต่ก็ไปอย่างรวดเร็ว กระเช้าจะมี 2 ฝั่งผลัดๆกันขึ้นลง รอไม่นานเท่าไหร่ก็ได้ขึ้นแล้ว

ยอดเขาดูไม่ได้สูงเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะได้วิวที่สวยงามเลยล่ะ

ใช้เวลาขึ้น ropeway เพียง 2 นาทีเท่านั้นเอง

ขึ้นมาถึงบนยอดเขาของจุดชมวิวที่ชื่อว่า "Kawaguchiko Tenjozan Park" เป็นที่เรียบร้อย

เจอฟุจิซังแล้ว! มีเมฆลอยมาบังหน้าฟุจิซังเล็กน้อยพอดี รออีกสักพักให้เมฆลอยไปน่าจะถ่ายรูปสวยขึ้น แต่ที่เห็นนี่ก็เหมือนฟุจิซังมีออร่า

ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะโชคดีได้เห็นฟุจิซังในทุกครั้งที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นหรอกนะ เพราะงั้นเราถือว่าเราและคุณแม่กับน้องสาวโชคดีมากๆที่ได้เห็นฟุจิซังตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเที่ยวที่นี่เลย

คิดถูกแล้วล่ะที่ขึ้นมาชมวิวข้างบนนี้ ดีต่อใจมากๆ

มีมุมให้ยืนถ่ายรูปเล่นอีกหลายมุมบนจุดชมวิวที่นี่ อากาศเย็นสบาย แดดไม่ร้อน ยืนฟินได้อีกนาน

หิมะตรงแถวๆปล่องภูเขาไฟยังถมอยู่อีกเยอะ น่าจะดูวิวฟุจิซังแบบนี้ได้ตลอดทั้งปีเลย

ถ่ายรูปสักพักก็ได้เวลากลับลงมาข้างล่างและ เดี๋ยวต้องไปชมวิวที่จุดต่อไปต่ออีก รอบรถบัสเหลือน้อยเดี๋ยวจะไม่ทัน

ลงมาถึงข้างล่างเป็นเวลาที่รถบัสรอบทะเลสาบจะต้องมาถึงพอดี ดูน่าจะเลทนิดหน่อยเพราะผู้โดยสารค่อนข้างเยอะ

ตอนที่ขึ้นรถบัสมา คุณลุงคนขับบอกว่า "เลทนิดหน่อยต้องขอโทษด้วยนะครับ" เราอยากบอกว่า เลทน่ะดีแล้ว จะได้ทันขึ้นรถ ฮ่าๆ

และเราก็นั่งรถบัสต่อมาจนถึงป้ายสุดท้ายคือที่ Kawaguchiko Natural Living Center (ป้ายหมายเลข 20)

Kawaguchiko Natural Living Center มีบริเวณสวนดอกไม้เล็กๆอยู่ริมทะเลสาบคะวะกุจิโกะ ข้างในเป็นร้านขายของฝากและของที่ระลึกเพียบ

เดินไปถ่ายรูปเล่นริมทะเลสาบกันก่อนๆ

อนุสาวรีย์หินที่เป็นรูปฟุจิซังอยู่บริเวณสวน Oishi Park ที่อยู่ติดๆกับ Natural Living Center

เจอฟุจิซังตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า บริเวณนี้ก็เป็นหนึ่งในจุดชมวิวภูเขาไฟฟุจิที่สวยที่สุดด้วยล่ะ

ได้เห็นฟุจิซังในหลายๆมุมมองตามเมืองต่างๆโดยรอบ แต่ชอบที่สุดก็คงจะเป็นที่นี่ล่ะ

ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาทักทายฟุจิซังถึงที่

ถ่ายรูปครอบครัวหน่อยซิ เอาไว้วันหลังต้องพาคุณพ่อมาเที่ยวด้วยให้ได้เลย!

รอบๆสวน Oishi Park ถ้าได้มาช่วงที่ลาเวนเดอร์บานคงจะสวยกว่านี้อีกเยอะเลย

เข้าไปซื้อของฝากกันเล็กน้อย จากนั้นก็ออกมายืนรอรถบัสกลับสถานี Kawaguchiko รีบมาด้วยความกลัวตกรถ แต่รถบัสก็มาเลทตามเคย ฮ่าๆ

รถบัสที่คุณลุงคนขับคนเดิมก็มารับเราเวลา 17.20 น. ได้ คุณลุงพูดอังกฤษไม่ได้แต่ทั้งรถมีแต่ไกจิน ลุงแกก็พยายามจะถามว่าทุกคนลงสถานีรถไฟคะวะกุจิโกะหมดใช่มั้ย? ลุงจะไปฟิ้ววววว(ทำท่าประกอบ)ตรงดิ่งไปเลย ลุงแกน่ารักนะ ตอนมาถึงลุงแกบอกว่าถึง 17.34 น. ตามเวลาเป๊ะเลย เราก็เลยพูดลอยๆว่า "เร็วจังน้า" ลุงแกพูดตอบเลยว่า "ไม่เร็วหรอกพ่อหนุ่มเอ๊ย ลุงไปรับเลท ก็เลยต้องรีบบึ่งกลับมาน่ะ ไม่งั้นถ้ามาถึงเลท เดี๋ยวผู้โดยสารบางคนจะขึ้นรถสถานีไม่ทันน่ะ" ลุงพูดภาษาญี่ปุ่นซึ่งเราก็พอฟังออกอยู่ ก็เลยตอบไปว่า "นารุโฮโดะ"

ก่อนจะลงก็ยิ้มให้คุณลุงแล้วพูดว่า "โอะทสึคะเระซะมะเดชิตะ" แล้วก็โค้งให้คุณลุงทีนึง ชอบจังแฮะ ประทับใจคุณลุง

มีเวลาก่อนจะขึ้นรถบัสกลับโตเกียวตอน 19.10 น. บานเลย ตั้งใจว่าจะไปหาซื้อของฝากอีก แล้วก็กินข้าวเย็นที่นี่เลย ไหนๆก็มาและ

ฝั่งตรงข้ามสถานีมีร้านของฝาก+ร้านอาหารอยู่ร้านนึง น่าสนใจ

จากหน้าต่างที่ร้านนี้สามารถมองเห็นฟุจิซังด้วย! ราวกับได้ทานมื้อค่ำกับฟุจิซัง

มื้อเย็นวันนี้เราสั่ง เรียกว่า "Houto" หรือที่เราเรียกเอาเองว่า "อุด้งป่า" เพราะว่ามันมีเส้นอุด้งทำเอง ซุปรสชาติไม่เหมือนใครที่ไหน และผัก ผัก ผัก แล้วก็ผักล้วนๆอยู่ในชาม!

สรุปว่ามื้อนี้เรากินมังสวิรัติ อิ่มมาก! ชามเบ้อเริ่มเลย

กินข้าวเย็นเสร็จก็ยังเหลือเวลาอีกกว่า 20 นาที รถบัสกลับโตเกียวถึงจะมา

หลังจากอิ่มหนำสำราญ ก็ลงมาถ่ายรูปเล่นหน้าสถานีรถไฟไปเรื่อยเปื่อย

จากตรงนี้ก็ยังอุตส่าห์มองเห็นฟุจิซังอยู่อีก! ขนาดใกล้จะทุ่มนึงแล้วนะ รู้สึกเหมือนฟุจิซังยืนรอส่งเรากลับบ้านด้วย

อากาศเริ่มที่จะเย็นลงเรื่อยๆ เดินไปหาที่นั่งรออุ่นๆด้านในสถานีกันดีกว่า

เตรียมหยิบตั๋วรถบัสขากลับโตเกียว ขอเก็บวันนี้เป็นความทรงจำที่ดีอีกวันนะ

ขึ้นมาบนรถบัสค่ำๆแบบนี้ เหนื่อยๆแบบนี้ หลับแน่นอนฮะ

รถบัสออกจากคะวะกุจิโกะเวลา 19.10 น. มาถึงชินจุกุเวลา 20.55 น. คือกลับมาถึงทันเวลาก่อนร้านขนมข้างๆจุดที่ขึ้นลงรถบัสจะปิดซะอีก เลยได้ซื้อขนมของฝากซะอย่างงั้น ฮ่าๆ

จากนั้นคุณแฟนก็แยกตัวกลับที่พักไป ส่วนเรากับคุณแม่และน้องสาวก็ไปเดินเล่นต่อที่ร้านดองกี้สาขาชินโอคุโบะใกล้ๆโรงแรมที่พักส่งท้ายวันนี้

หลังจากชอปปิ้งเสร็จก็เดินกลับที่พักกัน ส่วนใหญ่ซื้อพวกของกินไว้เป็นเสบียงซะมากกว่า

วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่เราจะไปเที่ยวนอกโตเกียว หลังจากนี้ไปก็จะเที่ยวอยู่แต่ในโตเกียวแล้วนะ

8 วันที่ผจญภัยมานี่เหนื่อยมากแต่ก็สนุกมากเช่นกัน พรุ่งนี้จะไปเดินเล่นหลายๆที่ในโตเกียวต่อ ส่วนวันนี้ไม่ไหวแล้ว บ๊ายบายทุกคน ฝันดีครับ!

ทิ้งท้ายวันนี้ด้วยขนมที่เจอในร้านที่ชินจุกุ KitKat รสเสาวรส ไม่กล้ากิน ฮ่าๆ

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page