top of page

2013.07.29 Japan Trip #4 Day5 - Odaiba,Akihabara,Ikebukuro,Shinjuku


หลังจากการตะลุยงานเทศกาลไอด้อลระดับชาติ 2วันสุดท้ายคือวันเที่ยว ตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปตะลอนๆให้ทั่วทั้งโอไดบะ,อะคิบะ,อิเคะบุคุโระ,ชินจุกุ,อุเอโนะ แบบฉายเดี่ยวมันก็น่าสนุกดีเหมือนกันนะ! แต่ประเด็นคือฝนตกน่ะสิ..

เช้าวันนี้ฝนตกตามพยากรณ์เด๊ะๆ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการไปท่องเที่ยวของเราเป็นอย่างมาก.. ต้องข้ามไปเที่ยวโอไดบะอีกวันด้วยสิ เดินทางเหมือนเดิมเลยก็คือนั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Hibiya Line สายสีเทาจากสถานี Minami-Senju ไปลงที่สถานี Ginza แล้วต่อรถไฟสาย Ginza Line สายสีส้มไปลงที่สถานี Shimbashi เพื่อไปต่อรถไฟสาย Yurikamome Line อีกที คือคิดไว้แล้วว่าคงต้องนั่ง Tokyo Metro บ่อยแน่ๆในวันนี้ ก็เลยซื้อตั๋วแบบ 1-day Pass มา ปรากฏว่าทำตั๋วหายตั้งแต่ตอนนั่งรถไฟเที่ยวแรก.. พาลให้งอนไม่ขึ้น Tokyo Metro อีกเลยวันนี้

ขึ้นรถไฟสาย Yurikamome Line ที่สถานี Shimbashi ข้ามจากแผ่นดินใหญ่ไปยังโอไดบะและลงรถไฟที่สถานี Daiba (ค่าโดยสาร 310 เยน) ท่ามกลางหยาดฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาด

มองไปด้านหลังก็จะเห็นวิวของสะพานสายรุ้งที่เราเพิ่งจะนั่งรถไฟเลาะผ่านมา

วันนี้ก็คงจะต้องเที่ยวกันแบบเปียกๆซะหน่อยนะครับ ฮ่าๆ

เดินไปข้างๆกันก็จะพบกับเทพีเสรีภาพจำลองที่โอไดบะ

เทพีเสรีภาพจำลองนี้เป็นขนาดย่อมๆคือสเกลจะพอๆกับคนปกติเลยล่ะ

เพียงแค่เดินทางมาที่โอไดบะก็รู้สึกราวกับว่าได้ไปเยือนมหานครนิวยอร์คแล้วยังไงยังงั้นเลย ฮ่าๆ

ข้างล่างริมหาดนั้นเป็นสวนริมทะเลคือ Odaiba Kaihin-koen

มองลงไปแล้วก็รู้สึกให้อยากเดินลงไปเล่นๆเหมือนกันนะ งั้นเดี๋ยวจะเดินลงไปก็แล้วกัน

ในวันที่ฝนตกแบบนี้หานักท่องเที่ยวมาเดินเล่นยากมากเลย นอกจากเราก็เห็นอีก 4-5 คนเท่านั้นเอง

เดินลงมาถ่ายรูปเล่นได้แป๊บเดียว ฝนก็เริ่มลงหนาเม็ดมากขึ้น ทำให้เราตัดสินใจว่าเดินเข้าห้างใกล้ๆนี่ดีกว่า..

เดินขึ้นบันไดกลับไปด้านบนอีกครั้ง

เดินเลี้ยวเข้าห้างที่อยู่ใกล้ที่สุดนั่นก็คือ Aqua City Odaiba

ตั้งแต่เช้ามายังไม่ได้กินอะไรเลย เจอร้านนี้ในห้างแลดูน่าสนใจ ชื่อร้าน "GEN-CHAN"

ร้านนี้เห็นวิวสะพานสายรุ้งด้วยนะ กินข้าวท่ามกลางบรรยากาศแบบสบายๆ

เมนูของร้าน มีเดมิไรสึ น่ากิน เลยจัดมาจานนึง 780 เยน

ที่ Aqua City ชั้น 6 เค้าจัดโซนของเล่นเด็กเกี่ยวกับ minions ไว้ด้วยล่ะ

ได้เวลาไปลัลล้ากับ minions เพื่อนรักต่อละ!!

ออกจาก Aqua City ตอนแรกว่าจะเดินไปห้าง DECKS ต่อเลย แต่ว่าขอไปปฏิบัติภารกิจตามหา minions เพื่อนรักที่ Fuji TV ก่อน

เดินข้ามถนนมายังฝั่งตรงข้ามกับห้าง Aqua City ก็ถึงสถานี Fuji TV แล้วล่ะ ในช่วงหน้าร้อนของทุกๆปีนั้น Fuji TV จะมีจัดกิจกรรมหน้าร้อนให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาร่วมกิจกรรมกันยาวๆตลอดทั้งเดือนเลย

กระทบไหล่คุณลุงทาโมริ พิธีกรชื่อดังซะหน่อย ฮ่าๆ

เดินมาตรงที่เค้าจัดกิจกรรมตรงบันไดทางเดินขึ้นสถานีทีวี เจอ minions ตัวใหญ่ที่เป็นสไลเดอร์ลม

จริงๆเราก็อยากจะเล่นนะ แต่เห็นมีแต่เด็กเล็กเล่นแล้วอาย ไม่กล้าเล่น ฮ่าๆ

เราชอบโครงสร้างของอาคารสำนักงานของ Fuji TV มากๆเลย ดูล้ำๆดีนะ

ถ่ายรูปด้วยซะหน่อย เอาไว้เผื่อมีโอกาสได้มาอีก

ได้ข่าวว่าบนนั้นมีสินค้า minions ขายอยู่ เลยว่าจะซื้อตั๋วขึ้นไปชั้น 25 ของ Fuji TV บนนั้นเป็นจุดชมวิวที่เป็นทรงกลมเหมือนที่เราเห็นจากด้านนอกด้วยล่ะ

ซื้อตั๋วเข้าชมมาเรียบร้อยแล้ว แค่ 500 เยนนะ

ต่อคิวขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นบนสุด เท่าที่เห็นนี้คือคิวไม่ได้เยอะมาก คงเพราะว่าวันนี้ฝนตกล่ะ

ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดแล้ว มีเจ้ามาสคอตตัวนี้ยืนรออยู่หน้าลิฟต์เลย

เดินไปตามทางเพื่อเข้าห้องโถงที่เป็นทรงกลมอย่างที่เห็นจากข้างล่าง ห้องโถงนี้จะเป็นจุดชมวิวได้แบบ 270 องศารอบๆเลย ตรงนี้เรามองลงไปข้างล่างนั่นคือห้าง Aqua City Odaiba ที่เราไปกินข้าวมาเมื่อกี้ แล้วก็เห็นเทพีเสรีภาพอยู่ไกลๆ

ฟากฝั่งนี้เป็นวิวสะพานสายรุ้ง มัวๆหน่อยเพราะทัศนวิสัยไม่ค่อยดีนัก

ได้มาเยือน Fuji TV ซะที จริงๆอยากจะมาตั้งแต่ปีที่แล้วละ

นอกจากจะชมวิวได้โดยรอบแล้ว ในห้องโถงทรงกลมนี้ยังมีการจัดงานนิทรรศการต่างๆด้วยนะ

แล้วก็มีขายสินค้าที่มาจัดนิทรรศการด้วยล่ะ ซึ่งในช่วงนี้ที่เราหาข้อมูลมาก็คือ minions ล่ะ!!

ใช่แล้วจ้า เรามาที่นี่เพื่อตามหาสิ่งนี้! กลับบ้านด้วยกันนะเพื่อนฝูง ฮ่าๆ

อย่างที่เห็นคือมีจัดนิทรรศการเพื่อโปรโมทหนังเรื่อง "Despicable Me" กันสุดๆ

Bello!!

ก่อนกลับก็ขอถ่ายรูปคู่กับเพื่อนรักซะหน่อยละกัน ฮ่าๆ

กลับออกมาจาก Fuji TV แล้ว

ว่าจะเดินไปห้าง DECKS ที่อยู่ข้างๆ Aqua City ซะหน่อย

เดินไปตามทางด้านหน้าของห้าง Aqua City ยาวๆ ห้างอะไรจะยาวได้ขนาดนี้..

ข้ามถนนไปก็ถึงห้าง DECKS แล้ว

ที่ห้างนี้จะมีสองตึกขนานกัน เรียกเป็นตึกฝั่ง Sea Side Mall ที่เรากำลังจะเข้าไปเดินเล่นนี้ กับอีกฝั่งคือตึกฝั่ง Island Mall ล่ะ

เดินเข้ามาก็แลดูจะเป็นโซนแบบย้อนยุคไปสักหน่อย มีร้านขายขนมในแบบสมัย 20-30 ปีก่อนขายอยู่

มีซุ้มเกมแบบในงานวัดให้เล่นด้วยนะ อันนี้คือยิงปืนอัดลม

บ้านผีสิงก็มีล่ะคุณ.. เห็นเขาว่าน่ากลัวด้วยนะ แต่เราไม่ขอลองละกัน ไปลองกันเองเด้อ

ร้านนี้ขาย Lucky Box ล่ะ

ไหนๆก็มาแล้ว ลองซื้อมาเสี่ยงดวงสักกล่องก็แล้วกัน กล่องละ 300 เยน (สรุปคือได้กาชาปองกากๆมาอันนึง ฮ่าๆ)

ร้านขายของฝากและของที่ระลึกเก๋ๆ

Game Center ในแบบโบราณๆหน่อยก็มี ถ้ามีคนมาด้วยคงท้าดวลกันเพลินแหงๆ

ส่วนนี่คืออีกตึกนึง ตึกฝั่ง Island Mall ที่เราเข้าไปเดินดูแล้วไม่ค่อยว้าว ดูเป็นห้างดาดๆธรรมดา ก็เลยกลับดีกว่า เดี๋ยวว่าจะไปเดินเล่นที่อะคิบะต่อเพราะว่านัดเพื่อนร่วมทริปคือท่านเชนไว้ที่นั่น

เรานั่งรถไฟสาย Yurikamome Line กลับจากสถานี Odaiba Kaihin-koen กลับมาลงที่สถานี Shimbashi แล้วก็ต่อรถไฟ JR สาย Yamanote Line ไปลงที่สถานี Akihabara เปลี่ยนมาใช้รถไฟ JR เพราะบัตร 1-Day Pass ของรถไฟ Tokyo Metro หายนั่นล่ะ..

มาถึงอะคิบะแล้ว เดินออกมาทางหน้า AKB48 Cafe & Shop แค่เดินผ่านนะ

เดินเลี้ยวซ้ายออกมาจะเจอถนนจูโอโดริที่ผ่านกลางย่านอะคิบะ

และเราก็มานั่งรอท่านเชนเดินทางมาที่อะคิบะ เห็นบอกว่ากำลังมา

หลังจากพบกับท่านเชนแล้วก็ไปเดินเล่นกันที่ตึก Akiba Cultures Zone สถานที่ชอปปิ้งประจำของเราเอง

และก็เป็นอีกครั้งที่ได้มาละลายทรัพย์กับร้านฟิกเกอร์การ์ตูน ซื้อน้องโคบาโตะกลับบ้านหนึ่งกล่อง..

จากนั้นก็ไปละลายทรัพย์กับสินค้าไอด้อลมือสองที่ร้าน TRIO เช่นเคย

เสร็จธุระกับอะคิบะแล้ว เรามีภารกิจอีกอย่างคือไปซื้อเสื้อเชียร์ทีมเบสบอล Seibu Lions ให้พี่ที่รู้จักเค้าฝากมา ชอปอยู่ที่ห้าง Seibu ที่อิเคะบุคุโระ เราก็เลยนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line จากสถานี Akihabara ไปลงที่สถานี Ikebukuro ต่อ

เดินเข้าห้างที่อยู่ตึกสถานีรถไฟได้เลย ขึ้นลิฟต์มาแป๊บเดียวก็ถึงชอปแล้ว หาไม่ยากๆ

จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่ Loft ในห้าง Seibu นี้ต่อ ได้ของฝากคุณแฟนกลับมาชิ้นนึงด้วย

ซื้อของเสร็จเราก็วาร์ปต่อมาที่ชินจุกุ พอดีว่ามีนัดกินข้าวเย็นร่วมกันของเหล่าชาวคณะที่มาแสวงบุญไอด้อลญี่ปุ่นในทริปนี้

และร้านที่นัดหมายมากินด้วยกันก็คือ Momo Paradise สาขาคะบุกิโจ มากินโมโม่ซะไกลเลย ที่ไทยก็มี ฮ่าๆ

หลังจากกินอิ่มกันแล้วก็เดินเล่นย่อยพุงกันอีกพักใหญ่ๆ ค่ำคืนนี้ราตรียังอีกยาวไกล ก่อนที่จะกลับที่พักที่มินะมิเซ็นจูกันตอนเกือบๆ 5 ทุ่ม

ทิ้งท้ายกันด้วยสินค้าที่ซื้อมาในคืนสุดท้ายของทริปนี้ ได้ DVD น้องมะกิฮะระ อายุ U-15 ที่ตามมานานกลับไทยด้วย แหะๆ

พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับไทยแล้ว มีเวลาครึ่งวันเช้าเพื่อเก็บตกนิดหน่อย แล้วก็ไปสนามบินบ่ายๆ เก็บข้าวของซะดึกดื่นก่อนบินกลับอีกครา ฮ่าๆ

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page