top of page

2013.11.27 Japan Trip #5 Day2 - Tokyo Skytree,Jiyugaoka,Roppongi


วันที่ 2 ของทริปใบไม้แดง อากาศยังคงเย็นสบาย ในวันนี้มีแพลนว่าจะออกไปชอปปิ้งที่ Tokyo Skytree แล้วก็ไปหาเค้กอร่อยๆกินที่จิยุกะโอกะ แล้วก็กลับมาเดินดูไฟประดับ illumination ที่ Tokyo Midtown ย่านรปปงงิปิดท้าย เป็นแพลนที่ตกลงร่วมกันเพราะว่าไปเดินเล่นกันสี่สหาย แต่ว่าแยกกันพักคนละที่

สถานที่แรกสุดตามแพลนของวันนี้คือ Tokyo Skytree ซึ่งจากจุดเริ่มต้นที่พักที่สถานี Minami-Senju นั้น ถ้าจะนั่งรถไฟ Tokyo Metro ที่เรามีบัตรพาสอยู่นั้นจะต้องอ้อมลงมาไปต่อรถถึง 2 ต่อกว่าจะได้นั่งสาย Hanzomon Line ไปถึงสกายทรี ก็เลยคิดว่ายอมเสียเงินนั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Hibiya Line สายสีเทาไปต่อรถไฟ Tobu สาย Skytree Line ที่สถานี Kita-Senju เอาดีกว่า แต่ปรากฏว่ามันไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอ่ะ! คือสถานีและทางออกของรถไฟ Tobu กับ Tokyo Metro ที่สถานี Oshiage หรือ Skytree นั้นมันเป็นทางออกเดียวกัน ดังนั้น.. เดินออกสะดวกโยธิน ไม่ต้องเสีย 160 เยนเพิ่ม 555+

เดินลงมาจากชานชาลา มุ่งหน้าเข้าสู่สกายทรี

วันนี้นัดกันค่อนข้างเช้า ผู้คนก็เลยยังไม่หนาตามากนัก

ขึ้นมาถึงชั้น 4 ปุ๊บก็ได้เวลากล่าวทักทายสกายทรี เจอกันอีกแล้วนะ

ได้ถ่ายรูปกับสกายทรีอีกครั้งแล้วนะ

เดินผ่านมาถึงหน้าทางเข้าไปซื้อตั๋วขึ้นชมสกายทรี ซึ่งปกติต้องเข้าจากทางชั้น 4 นี่ล่ะ แต่รอบนี้เราไม่ขึ้นนะ

มาสคอตของสกายทรี

ช่วงนี้ตรงลานหน้าทางขึ้นชมจะมีจัดซุ้มต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสกันแล้วด้วย

เงยหน้ามองสกายทรี งวดนี้มีต้นคริสต์มาสติดอยู่ในรูปด้วย

อากาศเย็นๆ ดื่มช๊อกโกแลตนั่งชิวสักนิดคงเวิร์กไม่น้อย ว่าแล้วก็เดินเข้าไปซื้อที่ร้าน 100% Chocolate Cafe.

จะร้อนจะเย็นเลือกได้ตามใจชอบ ช็อกโกแลตที่นำมาทำสำหรับวันนี้เป็นช็อกโกแลตจากตรินิแดดแอนด์โทเบโก

จิบช็อกโกแลตอุ่นๆนี่มันชื่นใจอย่างบอกไม่ถูกเลย

จากนั้นก็ได้เวลาเดินเล่นในห้าง Solamachi เจอร้านริลัคคุมะด้วย

จุดถ่ายรูปตรงหน้าร้านนี่ช่างน่ารักจริงๆ

ร้าน Calbee+ ยังไม่เคยกินเลย ไม่รู้จะมีโอกาสได้กินเมื่อไหร่ ไปสาขาไหร่คนเยอะทุกที

all about strawberry รสสตรอเบอร์รี่ล้วนๆ

มื้อเที่ยงของวันนี้ เท็มปุระโซบะ ชามละ 850 เยนที่ food court ใน Solamachi

ต่อด้วย ซอฟต์ครีมชาเขียว ของร้าน nana's soft cream อร่อยล้ำๆ

จากนั้นก็ลงมาเดินเล่นด้านนอก อากาศเย็นสบายซะจนใส่กางเกงขาสามส่วนได้อ่ะ

บริเวณรอบนอกของ Solamachi สามารถถ่ายรูปสกายทรีได้ทั้งหมดเลย สวยงามมากน้อยต่างๆกันไป

จากนั้นเจ้านัทสึก็ชวนเดินไปตามทางริมแม่น้ำเรื่อยๆคือต้องการจะหามุมที่ถ่ายสกายทรีสวยๆน่ะ มีเพื่อนเป็นตากล้องก็งี้แหล่ะ

มาหยุดอยู่ตรงใต้สกายทรีสักแป๊บนึง มุมเงย 90 องศาตรงนี้สวยดี

เอานิ้วจิ้มสกายทรีซะเลย 555+

เดินไปตามทางเดินริมแม่น้ำเรื่อยๆ เพื่อจะไปให้ถึงตรงสะพานข้างหน้านั่น

สกายทรีมุมมองนี้ก็ดูเก๋ๆดีนะ!

และแล้วก็ได้รูปของสกายทรีที่สวยงามสมบูรณ์แบบ ขอบคุณนัทสึมา ณ ที่นี้

ต่อไปก็ได้เวลาเดินทางไปจิยุกะโอกะต่อละ เดินกลับลงไปที่สถานี Oshiage ขึ้นรถไฟ Tokyo Metro สาย Hanzomon Line สายสีม่วงสุดสายไปลงสถานี Shibuya

จากสถานี Shibuya มันไม่ต้องแตะบัตรออกแฮะ มันเข้าไปต่อรถไฟ Tokyu สาย Toyoko Line เพื่อไปจิยุกะโอกะได้เลย คือจริงๆมันต้องเสียเงินไงแต่ดันไม่ต้องออกไปซื้อตั๋ว ก็เลยต้องไปจ่ายปลายทางเอาเองที่สถานี จากสถานี Shibuya ไปสถานี Jiyugaoka ค่าโดยสาร 150 เยนนะ

และเราพร้อมด้วยชาวคณะก็มาถึงย่านจิยุกะโอกะ อีกหนึ่งย่านสุดชิคในโตเกียว

เดินออกมาจากสถานี ไปหาร้านเค้กร้านขนมอร่อยๆกินกัน

เดินมาถึง La Vita Jiyugaoka แล้ว

ที่นี่มีทั้งคาเฟ่และร้านค้า แต่เสียดายที่มาตอนที่มันใกล้จะปิดแล้ว..

ได้มาเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศแบบยุโรปทำให้รู้สึกเสมือนว่าอยู่ในอิตาลีจริงๆ

แต่ดูๆไปก็นึกถึงปาลีโอ้ที่เข้าใหญ่เหมือนกันนะ 555+

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงจิยุกะโอกะ

เดินย้อนกลับไปบริเวณถนนชอปปิ้งใกล้ๆกับสถานีรถไฟ

นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องร้านขนมและเบเกอรี่แล้ว ย่านนี้มีร้านค้าทั้งเสื้อผ้าเครื่องประดับเยอะแยะเลย

มีผู้คนมาเดินเล่นกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ถึงกับหนาตาแต่ก็ดูไม่น้อยเลยล่ะ

เจอร้านเค้กแล้วจ้า ร้านนี้มี recommend ในเว็บด้วยนะ ชื่อร้าน patisserie m.koide

มาถึงตอนร้านใกล้จะปิดและ เลยเหลือให้เลือกลิ้มรสแค่นี้ แต่ที่เหลือนี่ก็สุดพลังมากละ

จบจากการชอปปิ้งขนมเค้กแล้ว ต่อไปพวกเราก็จะไป Sweets Forest กันละ

เดินย้อนกลับมาตามทางถนนเดิมแล้วทะลุไปนิดนึง ก็จะถึง Sweets Forest

ช่วงนี้ร้านหลายๆร้านก็เริ่มที่จะทำขนมเค้กในธีมคริสต์มาสกันแล้วนะ ก็ปลายเดือนพ.ย.แล้วนี่

มองเห็นป้ายร้านค้าขนาดใหญ่ละ คือ La COUR J. นี้เหมือนเป็นเวนิวขนาดย่อมๆที่มีร้านรวงมากมาย

และที่นี่ก็เป็นที่ตั้งของ Sweets Forest แหล่งรวมร้านขนมที่มากมายหลายร้าน ร้านสุดฮิตในย่านจิยุกะโอกะนี้

ทางเข้าร้านนี่ให้อารมณ์แบบการ์ตูนบ้านขนมปังดีจัง

ในที่สุดก็ได้มาเยือนที่นี่แล้ว มันต้องมีครั้งที่สองสิน่า!

ช่วงนี้ฉลองครบรอบ 10 ปีพอดีเลยด้วยนะ!

เข้ามาข้างในแล้ว มาดูกันซิว่าเราจะได้เค้กจากร้านไหนมากิน

ร้านนี้มีทั้งเค้กแล้วก็ไอศกรีมเลย หน้าตาก็ดูดีมากๆ

ร้านเค้กตรงนั้นก็ดูดี หน้าตาน่ากินแถมราคาไม่แพงเท่าไหร่เลย

ร้านนี้เค้กโรลเยอะมากๆ มีหลายรสให้เลือก ซื้อเป็นเซ็ตใส่กล่องก็ยังได้

และเราก็ได้เค้กมากินหนึ่งชิ้น พร้อมกับพุดดิ้งชาเขียวอีกหนึ่งถ้วย

กินเค้กเสร็จ พวกเราก็พากันเดินกลับไปขึ้นรถไฟ Tokyu สาย Toyoko Line จากสถานี Jiyugaoka เพื่อไปต่อรถไฟ Tokyo Metro สาย Hibiya Line ที่สถานี Naka-Meguro ไปลงที่สถานี Roppongi

เนื่องจากเรากลับมาใช้บัตร 1-day pass ของ Tokyo Metro ต่อ ก็เลยซื้อตั๋วราคาถูกสุดคือ 120 เยน แทนที่จะเป็น 150 เยนตามราคาระยะทางสถานีที่จะลง คือซื้อเพื่อเสียบบัตรเข้าแล้วไปใช้ 1-day pass เสียบออกน่ะ หัวหมอจนประหยัดได้หน่อยนึง 555+

มาถึงสถานี Roppongi เดินออกทางออก 1C ขึ้นมาถึง Roppongi Hills ไม่ได้มาตั้งนาน คิดถึงจัง

สวัสดีอีกครั้งนะเจ้าแมงมุมยักษ์ ว่าแต่ทำไมบนนี้มันหนาวจัดขนาดนี้ ตัวสั่นเลย..

ช่วงใกล้จะถึงเทศกาลคริสต์มาสก็ต้องมีการประดับต้นคริสต์มาสตามสถานที่ต่างๆเช่นนี้

ดอกไม้หน้าหนาวบน Roppongi Hills

จากตรงนี้ก็มองเห็น Tokyo Tower เช่นเคย เคยมาถ่ายแต่ตอนกลางวัน ตอนกลางคืนเป็นงี้นี่เอง

อย่างที่เราบอกไปเมื่อเอนทรี่ก่อนหน้านี้ที่ไป Tokyo Tower มา เค้ามีปิดซ่อมแซมบางส่วนก็เลยทำให้ไฟตรงกลางๆของหอคอยมันหายไปชั่วคราว

มุมนี้มาพร้อมกับแสงไฟประดับประดาตามต้นไม้ริมถนนย่านรปปงงิ

ทีนี้ก็ลองลงไปเดินเล่นที่ถนนเคยะกิซะกะด้านล่างดูบ้าง

ตามถนนเคยะกิซะกะนี่มีประดับไฟตามต้นไม้ข้างทางสวยมากๆ เป็นอีกหนึ่งจุด illumination ในโตเกียวที่เราชอบมากเลยด้วย

ถึงกับหยุดยืนถ่ายจากกลางถนนตรงทางม้าลายเพื่อรูปนี้โดยเฉพาะเลยนะ!

มาถึงตรงสวนหย่อมใกล้ๆกับ TV Asahi ที่เราเคยมาเยือนเมื่อตอนซากุระบานในปีก่อน วันนี้มีไฟประดับและใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม

ไฟประดับบนผืนน้ำดูสวย

อยู่รปปงงิทั้งที ได้เวลาหาข้าวเย็นกินและ แต่ว่าแถวรปปงงิมีแต่ร้านแพงๆแฮะ คงต้องให้เจ้าถิ่นอย่างกรคุงแนะนำ ฮ่าๆ

ร้าน Nobu ที่รปปงงิ มีนาเบะหม้อไฟร้อนๆแบบนี้ให้กินร่วมสาบานกัน อร่อยดีแต่แพงจริง 555+

อิ่มท้องแล้วก็มุ่งหน้าไปที่ Tokyo Midtown กันต่อ

สวนใกล้ๆกับ Tokyo Midtown เค้ามีจัด illumination อยู่ทุกๆปีเลยด้วยนะ แสงไฟที่นี่จะเปลี่ยนไปตามจังหวะดนตรี เหมือนเป็นเทคโนกราฟฟิคที่สุดยอดมากๆ

พอไฟหรี่ลงถึงได้เห็นว่ามีโครงโค้งๆตรงกลางสนามด้วย

ชุดการแสดงไฟรอบนึงยาวประมาณ 10 นาทีได้

เดินลงมาดูที่ติดสนามกันบ้าง นี่คือหรี่ไฟลงเพื่อกำลังเริ่มรอบใหม่

ยืนดูชุดการแสดงไฟประดับอย่างเพลิดเพลิน

ชอบความไฟวิ่งไปตามต้นไม้เบื้องหลัง แล้วก็มีไฟกระพริบๆมืดสว่างไปตามแต่ละต้น

มันคุ้มค่าที่จะมาดูมาถ่ายรูปเล่นมากๆนะ ในทุกปีช่วงใบไม้เปลี่ยนสีลากยาวไปจนถึงหลังปีใหม่ ที่ Tokyo Midtown นี้จะมีจัดไฟประดับ Illumination แบบนี้ อยากให้ลองมากันดูนะ รอบๆมีร้านนั่งชิวด้วยล่ะ เผื่อใครสนใจเรียนเชิญ!

ทิ้งท้ายวันนี้กันด้วยรูปท่านพุทเตียโน่มาเยือน! อยู่ดื่มด่ำกับบรรยากาศได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดีเพราะว่ามันเริ่มหนาวจนเกินจะทน เวลา 4 ทุ่มกว่าแล้วด้วย ก็เลยพากันเดินกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานี Roppongi แล้วแยกย้ายกันกลับที่พัก

พรุ่งนี้ก็จะไปดู illumination เหมือนกันล่ะ เดี๋ยวมาดูกันว่าจะสวยเท่าของวันนี้มั้ย!? แล้วเจอกันพรุ่งนี้จ้า

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page