top of page

2013.11.30 Japan Trip #5 Day5 - Minami-Senju,Akihabara,Tokyo Dome City


วันสุดท้ายของทริปใบไม้แดงและแสงไฟประดับแล้ว แต่วันสุดท้ายก็ยังเที่ยวได้หลายที่อยู่นะ! เพราะว่าไฟลท์บินกลับเป็นช่วงเที่ยงคืน ก็เลยเหมือนมีเวลาเที่ยวเต็มที่อีก 1 วันเต็ม

เดิมทีในตอนแรกจะไปดูมินิไลฟ์ของ Cheeky Parade แต่เราเปลี่ยนแพลนเป็นไปเดินชอปปิ้งที่อะคิบะแทน ก่อนจะไปดู illumination ที่ Tokyo Dome City เป็นการส่งท้ายก่อนจะนั่งรถไฟไปสนามบินฮาเนดะเพื่อเดินทางกลับไทย

เริ่มต้นจากการขึ้นมาชมวิวบนชั้นบนสุดของที่พัก.. เห็นสกายทรีอยู่ไม่ไกลที่พัก

ในวันฟ้าเปิดเช่นวันนี้ก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟุจิได้ด้วยนะ!

อาบน้ำแต่งตัวเก็บข้าวของสัมภาระเตรียมตัวกลับ

เตรียมตัวไปเช็คเอ๊าท์ละ กะว่าจะฝากกระเป๋าสัมภาระเอาไว้ที่ล๊อบบี้โรงแรมเพื่อเดินออกไปหาข้าวกินแถวๆนี้ก่อน

เดินชมวิวในย่านมินะมิเซ็นจูระหว่างหาร้านข้าวซะหน่อย

แวะตุนเสบียงที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆที่พักกันไปพลาง

ปักหมุดร้านเท็นด้งอร่อยเมพแถวนี้ไว้ ร้านเปิด 11 โมงครึ่ง แต่ตอนที่เราไปถึง 11 โมงก็มีคนมาต่อแถวรอกินแล้ว!! แสดงว่าต้องเทพมากแน่ๆ

ที่ร้านมีเมนูภาษาอังกฤษให้ด้วยนะ เราสั่งโจเท็นด้งมากิน ชามนี้ 1,400 เยน อร่อยมากๆ กินหมดชามไม่เลี่ยนสักแอะ

อิ่มมื้อเช้าควบเที่ยงแล้วก็ได้เวลาลากกระเป๋าเดินทางไปขึ้นรถไฟ เพราะมีสัมภาระก็เลยกะจะนั่งรถต่อเดียว แล้วกะจะเอากระเป๋าไปฝากตู้ Coin Locker ที่อะคิบะเพราะว่าเรามีแพลนจะเก็บตกเดินเล่นที่อะคิบะ แต่ปรากฏว่าพอนั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Hibiya Line สายสีเทาไปลงที่สถานี Akihabara ตอนจะฝากกระเป๋าดันไม่มีตู้ Coin Locker ว่างเลย ก็เลยต้องยอมซื้อบัตร JR Tokunai Pass เพื่อนั่งรถไฟไปหา Coin Locker ฝากกระเป๋าที่สถานีอื่น เริ่มจากเลือกไปสถานี Tokyo ก็ยังคงเต็มเอี้ยดหมดทุกจุด เดินๆหาอยู่บังเอิญเจอพี่บิ๊กซะงั้น! พี่บิ๊กแนะนำให้ไปหาสถานีที่คนไม่น่าจะใช้เยอะอย่างที่ฮะมะมัทสึโจหรือคันดะดูเอา ก็เลยตัดสินใจไปสถานี Hamamatsucho ก่อน ซึ่งมันก็เป็นสถานีที่ตอนกลับเราต้องมาต่อรถไฟ Tokyo Monorail ไปสนามบินฮาเนดะอยู่แล้วด้วย

มาถึงสถานี Hamamatsucho ก็พบตู้ว่างตั้ง 3 ตู้แน่ะ! เสียเวลาเที่ยวไปชั่วโมงนึง แต่ฝากกระเป๋าได้แล้วเราก็พร้อมเที่ยวต่อ 555+

แล้วเราก็ขึ้นรถไฟ JR สาย Keihin-Tohoku Line จากสถานี Hamamatsucho กลับมาลงที่สถานี Akihabara อีกที เอาล่ะ..ได้เวลาผลาญเงินวันสุดท้าย!

เดินเข้าห้าง Yodobashi เพื่อไปร้าน Tower Records เจอมินิไลฟ์ของไอด้อลสาวน้อยเหมียวๆ izukoneko พอดี!! ร้องเมี้ยวๆกันมันส์เลย 555+

ผลาญเงินกับค่าแผ่นซีดีเสร็จแล้ว ก็ไปเดินเล่นตามตรอกซอกซอยของอะคิบะต่อ

เดินผ่านมาเจออีเว้นท์ของ iDOLM@STER อยู่พอดี ไปลองเดินโฉบๆดูซะหน่อย

เดินตามเพื่อนๆเข้าร้านหูฟัง มีหูฟังดีๆราคาแรงๆทั้งนั้น

เข้าร้านหูฟังเสร็จก็ต่อด้วยร้านเกม เห็นหน้าจอ Multi-Screen แบบนี้แล้วอยากจัดมาเล่นเองที่บ้านสักชุดจริงๆ

นึกขึ้นได้ว่ามีของที่ต้องซื้อเก็บตกที่อุเอโนะ เล่ยย้อนกลับไปอุเอโนะแป๊บนึงแล้วกลับมาเจอเพื่อนๆที่อะคิบะอีกครั้ง กลับมาถึงอีกทีท้องฟ้าก็มืดลงแล้วสิ

หมดเวลาชอปปิ้งแล้ว เตรียมตัวไปดูไฟประดับยามกลางคืนทิ้งท้ายทริปนี้กันดีกว่า ว่าแล้วก็เดินไปขึ้นรถไฟ JR สาย Chuo/Sobu Line Local จากสถานี Akihabara ไปลงที่สถานี Suidobashi

สถานี Suidobashi อยู่ถัดไปแค่สองสถานีเท่านั้นเอง ก็ถึงไวหน่อยจะได้มีเวลาเดินเล่นเยอะๆ

จะไปเดินเล่นถ่ายไฟประดับ illumination ทั้งที ก็ขอให้เดินได้ตัวปลิวหน่อยเถอะ ก็เลยเอาข้าวของที่ชอปปิ้งมาวันนี้ไปฝากที่ตู้ Coin Locker ที่ในสถานีซะก่อน

เดินจากสถานี Suidobashi มานิดนึงก็มาถึง Tokyo Dome City แล้ว

Tokyo Dome ที่เราเคยมาเดินถ่ายรูปเล่นที่นี่ในตอนกลางวันมารอบนึง คราวนี้ได้มาตอนกลางคืนเพื่อดูไฟประดับ

ไฟประดับ illumination ที่ Tokyo Dome City นี่เป็นอีกสถานที่ยอดนิยมอีกแห่งของโตเกียวเลยนะ!

ไกลๆนั่นเป็นสวนสนุกที่อยู่ในห้าง LaQua

เดินมาถึงหน้าทางเข้าห้าง LaQua แล้ว เข้าไปกันโลด!

ข้างในนี้นอกจากห้างกับสวนสนุกแล้ว ไฟประดับ illumination ก็มีความสวยเป็นจุดเด่นไม่แพ้กันเลยล่ะ

แต่ว่าก่อนจะไปเดินถ่ายรูปเล่น ขอตัวไปกินข้าวเย็นก่อนนะ เล็งร้านนี้เอาไว้ ร้าน "Moomin Bakery & Cafe"

ใช่แล้ว! มันคือคาเฟ่ในธีมของตัวการ์ตูนเรื่องมูมินนั่นเอง

ภายในร้านก็จะตกแต่งประดับด้วยตุ๊กตาและวอลล์เปเปอร์การ์ตูนมูมิน มีเอามาตั้งประดับตามแต่ละโต๊ะกินข้าวด้วยนะ

ส่วนอาหารก็จะทำเป็นรูปลักษณ์ของคาแรกเตอร์ต่างๆในการ์ตูนเรื่องนี้ เราสั่งเซ็ตที่เป็นแกงกะหรี่กับซุปฟักทอง

อิ่มแล้วจ้า บ๊ายบายนะจ๊ะมูมิน.. ไปเดินเล่นต่อละ

แผนผังบอกจุดที่เป็น illumination ใน Tokyo Dome City แค่เฉพาะในโซน LaQua ก็หลายจุดแล้ว

เอาแค่ไฟสวยๆจากเครื่องเล่นของสวนสนุกใน LaQua ก็เพลินตาแล้ว

ม้าหมุนที่ใกล้ๆกันนั้นมีบ่อน้ำที่มีลูกบอลไฟสีสวยๆลอยประดับความงามอยู่

เห็นคนนั่งล่องแก่งลงมาพอดี บ่อน้ำตรงนั้นคือที่ล่องแก่งนี่เอง

ไปต่อกันที่อุโมงค์ไฟใน LaQua

ไฟจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ดูมีมิติ

ซุ้มไฟประดับที่อยู่ใกล้กับม้าหมุน

จุดเด่นคือหลังคาไฟที่สวยงามระยิบระยับมากๆ

มันเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆด้วยนะ! นี่สีแดง

แล้วมันก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต

และสุดท้ายก็สีฟ้าอ่อนสวยๆ

ใกล้ๆกันมีน้ำพุที่จัดแสดงแบบรีวิวประกอบเพลงด้วย

ถ่ายไฟที่ใน LaQua เสร็จ คราวนี้ก็ออกมาตรงบริเวณรอบๆ Tokyo Dome กันบ้าง

มีใบไม้สีเหลืองอร่ามให้ดูด้วยแฮะ รู้งี้น่าจะมาตั้งแต่กลางวันก็ดีหรอก 555+

บริเวณสนามเด็กเล่นตรงนี้ มีลานน้ำพุซึ่งค่ำๆจะฟุ้งเป็นไอน้ำหมอกๆให้คนมาถ่ายรูปเล่น

มีอุโมงค์ไฟใกล้ๆ Tokyo Dome เปลี่ยนสีไฟไปเรื่อยๆ

เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปเล่นกันเยอะแยะเลย กว่าจะว่างโล่งให้ถ่ายได้ เลยใช้เวลาถ่ายรูปค่อนข้างนาน

และเราก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเซลฟี่เล่น 555+

ใกล้เวลาสามทุ่มแล้ว ได้เวลาร่ำลา Tokyo Dome กันละ

บ๊ายบาย.. เตรียมเดินทางไปสนามบินฮาเนดะ

จาก Tokyo Dome City เดินกลับไปขึ้นรถไฟ JR สาย Chuo/Sobu Line Local กลับมาลงที่สถานี Akihabara แล้วต่อรถไฟสาย Yamanote Line ไปลงที่สถานี Hamamatsucho เดินไปเอากระเป๋าที่ Coin Locker ก่อน

จากนั้นก็เดินไปต่อรถไฟ Tokyo Monorail เพื่อไปลงสนามบินฮาเนดะ ค่าโดยสาร 470 เยน

ได้นั่งรถไฟ Tokyo Monorail เป็นครั้งแรกเลยล่ะ ก็เพิ่งเคยจะไปขึ้นเครื่องที่สนามบินฮาเนดะครั้งแรกเหมือนกันนี่

ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เรามาถึงสนามบินฮาเนดะแล้ว ชานชาลาของรถไฟ Tokyo Monorail เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารเลย

เดินหาเค้าน์เตอร์ของการบินไทย ซึ่งคนมายังไม่เยอะเท่าไหร่ ต่อแถวไม่นาน

เช็คอินรับบอร์ดดิ้งพาสราบรื่น เสร็จแล้วก็ผ่านตม.เข้าไปซื้อของฝากกลับไทยอีกเล็กน้อยก่อนจะไปรอขึ้นเครื่อง

เรียกขึ้นเครื่องตรงเวลาเสมอเลยนะการบินไทย ได้เวลานอนบนเครื่องและทีนี้ ยาวๆไปถึงเช้า แล้วเจอกันใหม่นะญี่ปุ่น!

กลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณเกือบๆตี3 นั่งแท็กซี่กลับบ้านและถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

กักตุนเสบียงกลับมากินที่ไทยเพียบเลย โดยเฉพาะแกงกะหรี่ซองของโปรดและน้ำออเรนจิน่า

สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณ wifi router เครื่องนี้ ที่ทำให้เราสามารถอัพเดตการท่องเที่ยวญี่ปุ่นลงโซเชี่ยลได้อย่างไม่ติดขัด สัญญาณชัดเป๊ะ! ไร้ปัญหาใดๆ

จบทริปแล้ว ทริปหน้าจะมาเมื่อไหร่กันนะ! อยากกลับไปญ๊่ปุ่นเร็วๆแล้วสิ

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page