top of page

2014.03.22 Japan Trip #6 Day2 - Matsuyama


วันที่ 2 ของทริปตะลุยจูโกกุ-ชิโกกุ-คิวชู วันนี้จะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ข้ามฟากไปที่เกาะชิโกกุ ซึ่งเราได้ปักหมุดให้ความสำคัญไว้สำหรับทริปนี้เลยว่าจะต้องมาให้ได้ เราจะไปเที่ยวที่เมืองมัทสึยะมะซึ่งอยู่ในจังหวัดเอฮิเมะ

การเดินทางอาจจะใช้เวลาเยอะหน่อยเพราะมันอยู่ไกลและที่เกาะชิโกกุก็ยังไม่มีรถไฟชินคังเซ็นด้วย เลยต้องใช้วิธีออกเดินทางแต่เช้าแทน

เช้าวันที่ 2 ที่ญี่ปุ่น วันนี้ตื่นเช้าที่สุดในทริปแน่นอน ตั้งตี5ครึ่งแน่ะ! เพราะวันนี้ต้องนั่งรถไฟเดินทางไกลถึงเกือบๆ 3 ชั่วโมงจากโอคะยะมะไปยังมัทสึยะมะ ถ้าไปถึงช้าก็จะมีเวลาเที่ยวน้อย ก็เลยเลือกจองรถไฟรอบเช้าเวลา 7.23 น. เพื่อให้ไปถึงมัทสึยะมะภายในเวลา 10 โมงเช้า

ออกจากที่พักก่อน 7 โมงอีกแน่ะ วันหยุดของคนญี่ปุ่นนี่รถราตอนเช้าแทบจะไม่มีสักคัน

เดินมาเรื่อยๆจากโรงแรมไปยังสถานีโอคะยะมะ วันนี้ก็ยังไม่ได้ใช้บริการรถราง

รถไฟที่เราจะนั่งไปมัทสึยะมะก็คือ Limited Express Shiokaze 1 ที่จะออกจากสถานี Okayama เวลา 7.23 น. จะไปถึงสถานี Matsuyama เวลา 10.05 น.

เมื่อวานนี้จองที่นั่งรถไฟทั้งขาไปและขากลับไว้แล้ว รอบกลับนี่จองเที่ยวสุดท้ายของวันคือ Limited Express Shiokaze 30 คือออกจากสถานี Matsuyama เวลา 18.41 น. เป็นรถไฟตรงสู่สถานี Okayama เที่ยวสุดท้ายของวัน ถ้าจะกลับหลังจากนั้นจะต้องมาต่อรถไฟที่ทะคะมัทสึหรือซะคะอิเดะหรือสักสถานีนึงในเกาะชิโกกุแทนล่ะ ดังนั้น เวลาเที่ยวเลยค่อนข้างจำกัด ต้องทำเวลาสักหน่อย

เดินขึ้นมาถึงชานชาลา ก็เจอร้านข้าวกล่องเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนี้เลยนะ!

ระหว่างรอรถไฟไปมัทสึยะมะ มีรถไฟก่อนหน้านั้นขบวนนึงมาจอดรับผู้โดยสารอยู่ มันคือ Limited Express Nanpu ที่เดินทางจากโอคะยะมะไปสุดสายที่จังหวัดโคจิ ซึ่งอยู่ตรงกลางทางใต้สุดของเกาะชิโกกุ ซึ่งเราหวังว่าทริปต่อๆไปคงจะได้มีโอกาสนั่งไปโคจิ

ต่อไปก็ถึงคิวของรถไฟที่เราจะนั่งไปมัทสึยะมะมาจอดที่ชานชาลาแล้ว มันคือ Limited Express Shiokaze นั่นเอง

ด้านข้างตู้รถไฟนั้นบอกรายละเอียดชัดเจนว่ารถไฟนี้เดินทางไปสุดสายที่ไหน ตู้รถที่เท่าไหร่ เป็นแบบ reserved หรือ non-reserved สำหรับเราที่จองที่นั่งไว้ก็จะต้องขึ้นตู้รถที่เป็นแบบ reserved ที่ถูกระบุไว้ในตั๋วในรูปก่อนหน้านี้ จะบอกว่า CARS No. อะไร และ Seat เป็นที่ตรงไหน เราก็จะไปนั่งตรงนั้นตามที่เจ้าหน้าที่ออกตั๋วให้ แต่ถ้าเราไม่ได้จองที่นั่ง ก็ต้องไปนั่งตู้รถแบบ non-reserved แล้วก็สามารถเลือกที่นั่งในตู้รถนั้นตามใจชอบได้เลย ถ้าที่นั่งเต็มก็ยืนเอา

รถไฟ Limited Express Shiokaze นั้นเป็นรถไฟรุ่น 8000 series ในความดูแลของ JR Shikoku

นั่งรถไฟตั้งหลายชั่วโมงทั้งที ก็ต้องมีการซื้อเสบียงมาเพื่อกินบนรถไฟล่ะนะ ไม่งั้นอาจจะมีหิวตาลายได้ ทั้งยังไม่เสียเวลาไปหาร้านข้าวกินตอนลงรถไฟ เดี๋ยวจะยิ่งเบียดเบียนเวลาเที่ยวเข้าไปอีก

การนั่งรถไฟข้ามไปยังเกาะชิโกกุก็ต้องข้ามทะเลอยู่แล้ว โดยจะมีสะพานยาวๆ 3 เส้นทางที่ใช้ข้ามจากฝั่งเกาะฮอนชูไปเกาะชิโกกุ แต่ละสะพานก็จะมีจำนวนฮอปความใกล้ไกลต่างกันไป ตรงจุดที่รถไฟวิ่งผ่านนี้เป็นสะพานที่สั้นที่สุดแล้ว เชื่อมระหว่างโอคะยะมะกับทะคะมัทสึ

วิวทะเลตอนนั่งรถไฟข้ามเกาะ

เวลา 10.05 น. เราก็มาถึงสถานี Matsuyama เรียบร้อย

เกาะชิโกกุดูจะชูโรงการ์ตูนอันปังแมนนะ มีทั่วทั้งเกาะเลยอ่ะ 555+

ถ่ายรูปกับอันปังแมนสักหน่อย

เดินออกมาหน้าสถานี Matsuyama จะไปขึ้นรถรางเพื่อจะเข้าเมืองไปเที่ยวที่ต่างๆ เราหาข้อมูลมาว่ามันมี one day pass ของรถรางขายในราคาใบละ 400 เยน ที่เหมาะสำหรับคนที่จะต้องไปเที่ยวหลายๆที่ในเมืองเพราะค่าโดยสารต่อเที่ยวก็ 150 เยนแล้ว สำหรับแพลนของเราที่จะต้องขึ้นรถรางมากกว่า 3 ครั้ง ควรซื้อ one day pass รถรางใช้อย่างยิ่ง ว่าแต่มันซื้อที่ไหนล่ะ?

สถานที่ที่จะซื้อ one day pass รถรางได้ คือ Tourists Information Center ประจำสถานี Matsuyama ที่อยู่ตรงประตูทางเข้าข้างๆตู้กดน้ำนั่น เข้าประตูไปจะอยู่ด้านขวามือ บอกเจ้าหน้าที่เค้าว่าจะซื้อ one day pass ของ tram(รถราง) สำหรับกี่คน เดี๋ยวเค้าก็จะจัดให้เราเอง

ได้มาแล้ว บัตร one day pass ของรถรางในเมืองมัทสึยะมะ

พอคลี่ออกดูจะเห็นเป็นระบบขูดล่ะ ดูโบราณดี 555+ ขูดเลขที่วันเดือนปีที่ใช้งานเอา เจ้าหน้าที่เค้าขูดไว้ให้เลย เวลาใช้งานก็แสนง่าย ก่อนลงรถรางก็ยื่นเจ้าบัตรนี้ให้พนักงานขับรถดูเท่านั้นเอง

ที่นี้มาดูกันว่าที่มัทสึยาม่านี้มีสถานที่ไหนที่น่าไปบ้าง และเราจะต้องลงรถรางที่สถานีใด ขึ้นรถรางสายใดได้บ้าง กาง Tourist Map ดูเลยนะ

สำหรับสถานที่ที่เราจะไปในวันนี้ก็ได้แก่ปราสาทมัทสึยะมะ,ย่านชอปปิ้งโอไคโดและสุดท้ายก็คือโดโกอนเซ็น แพลนของเราคือไปปราสาทมัทสึยะมะก่อน แล้วต่อด้วยโดโกอนเซ็น ก่อนที่ขากลับจะแวะที่ย่านการค้าโอไคโดก่อนกลับไปที่สถานี Matsuyama อีกครั้ง

ทีนี้ก็มาดูสถานีรถรางกับสายรถที่สามารถขึ้นได้กันต่อ เราจะไปปราสาทมัทสึยะมะ มีวิธีไปถึงได้สองแบบคือ 1.เดินขึ้นไป ใครมีเวลาและอยากถึกก็เดินขึ้นไปได้ไม่มีปัญหา สามารถลงรถรางที่สถานี Kenchomae แล้วเดินขึ้นไปตามลูกศรสีแดงในรูปได้เลย แต่ขอเตือนว่าสูงนะเออ 2.ใช้บริการ ropeway ขึ้นไป แน่นอนว่านั่ง ropeway ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ก็สบายกว่าเดินนะ ถ้าจะนั่ง ropeway ขึ้นไป ต้องนั่งรถรางไปลงที่สถานี Okaido ที่เดียวกับย่านการค้านั่นล่ะ แต่เดินย้อนมาฝั่งตรงข้ามแล้วก็จะเจอสถานี ropeway ตั้งอยู่เอง ส่วนถ้าจะไปโดโกอนเซ็นต่อ ก็สามารถต่อรถรางจากสถานีทั้งสองไปลงสถานี Dogo-onsen แล้วนั่งไปลงสุดสายโลด

รถรางจากสถานี Matsuyama ที่ผ่านสถานี Kenchomae หรือ Okaido มีสายเดียวคือ No.5 ล่ะ ดังนั้นแล้วก็ไปรอรถรางเบอร์5นี้กันเลย สถานีรถรางที่สถานี Matsuyamaekimae นั้นจะต้องเดินลงทางเดินใต้ดินไปโผล่ขึ้นชานชาลากลางถนนล่ะ

ขึ้นรถรางมาแล้วๆ เวลาขึ้นรถต้องขึ้นจากทางประตูด้านหลัง เวลาลงก็ลงประตูด้านหน้า เป็นแบบนี้ทั้งรถบัสและรถรางเลย รวมถึงรถไฟแบบตู้เดียวหรือที่เรียกว่ารถวันแมนด้วยนะ ถ้าเป็นรถที่ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามสถานีต่างๆ เวลาขึ้นรถเราจะต้องหยิบตั๋วจากตรงตู้ข้างๆประตูทางขึ้นด้วย เวลาลงก็จ่ายเงินตามช่องหมายเลขสถานีที่เราขึ้นมา โดยเอาไปหยอดตรงตู้สีฟ้าข้างๆคนขับรถ แต่ถ้ารถคันนั้นเป็นแบบเหมาราคาเดียวตลอดสายก็รอหยอดเงินจ่ายตอนลงอย่างเดียวเลย สำคัญคือต้องหยอดเงินให้พอดีนะ ถ้าเราเตรียมเงินเกิน จะต้องไปแตกเหรียญย่อยก่อน (เอาไว้จะบรรยายให้ฟังวันหลัง พอดีวันนี้ใช้ one day pass ไม่ต้องหยอดเงิน แค่แสดงบัตรก็ผ่านได้เลยไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้)

นั่งมาสักพักประมาณ 10 oาทีได้ เราก็มาถึงสถานี Okaido แล้ว หันไปมองฝั่งนึงจะเป็นทางเข้าย่านการค้าโอไคโด แต่เรายังไม่เดินนะ จะไปปราสาทมัทสึยะมะก่อน เราเดินเข้าซอยไปยังฝั่งตรงข้ามของย่านการค้านี้เพื่อไปสถานี ropeway

เดินมาเรื่อยๆจะเจอสถานี ropeway ขึ้นไปข้างบนบริเวณปราสาท

หยอดตู้ vending machine ซื้อตั๋ว ropeway มา ตอนที่ไปนี้เป็นโปรโมชั่นคือถ้าซื้อตั๋ว round trip จะเป็นแพ๊คเกจรวมกับค่าเข้าชมปราสาทเลย ราคา 1,000 เยน คุ้มมากนะ

หลังจากซื้อตั๋วแล้ว ก็ขึ้นไปที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชานชาลา โดยเราสามารถเลือกขึ้นไปข้างบน(รวมทั้งลงมาข้างล่าง)ได้ 2 แบบคือ นั่งกระเช้า หรือ นั่งเก้าอี้เลื่อน ก็ได้

ขึ้นกระเช้าก็เป็นปกติทั่วไปของกระเช้า

ส่วนเก้าอี้เลื่อน อันนี้ก็จะเหมือนที่เราเคยเห็นกันที่ลานสกีนั่นเอง

ใช้เวลา 5 นาทีก็ขึ้นมาถึงสถานี ropeway ด้านบน

เดินตามป้ายบอกทางขึ้นไปยังปราสาท ระหว่างทางเจอดอกบ๊วยบานฉ่ำ

เดินไปตามทางต่อไปเรื่อยๆ

วิวตามทางระหว่างทางเดินขึ้นไปปราสาท สูงจนเห็นวิวเมืองโดยรอบได้ทั้งหมดเลย

ใกล้จะถึงบริเวณหน้าปราสาทแล้ว

นั่นไงๆ เห็นปราสาทอยู่ลิบๆแล้ว!

เดินผ่านลานกว้างๆที่มีผู้คนมาเที่ยวมากมาย ส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นนั่นล่ะ เกาะชิโกกุนี่ยังไม่เป็นที่นิยมสำหรับคนต่างชาติเท่าไหร่ ตอนนี้เรามาอยู่หน้าปราสาทแล้ว ตรงซุ้มข้างล่างนั่นคือจุดขายตั๋วเข้าชมปราสาท แต่เราซื้อเป็น combination ticket มาจากสถานี ropeway แล้ว เลยไม่ต้องไปซื้ออีก

ในที่สุดก็มาถึงปราสาทมัทสึยะมะแล้ว ดีใจ

บนยอดปราสาทนั้นก็จะเป็นจุดชมวิวเหมือนๆกับปราสาทหลังอื่น ปราสาทมัทสึยะมะเป็นปราสาทแบบบนเนินเขาด้วย ยิ่งทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองได้กว้างไกล

ถ่ายรูปกับโยชิอะกิคุง มัสคอตหน้าปราสาท

เดินไปตามทางเพื่อเข้าปราสาท อันนี้ถ่ายหน้าทางเข้า

ตามท่านนายกพุทเตียโน่มาเลยจ้า

เข้ามาอยู่ด้านในโถงกลางปราสาทแล้ว เดี๋ยวจะเข้าเดินไปข้างในปราสาทกันต่อ

ต้องปีนบันไดขึ้นไปล่ะ ชันเหมือนกันนะ กลัวตก..

ภายในก็เหมือนปราสาทอื่นๆ จะมีชั้นบริเวณแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ของปราสาทของเมืองอยู่ และก็เป็นจุดชมวิวชั้นบนสุดเหมือนเคย

วันหยุดทั้งที นักท่องเที่ยวเยอะเหมือนกันแฮะ

เดินออกมาชมวิวหน้าปราสาทซะหน่อย

อีกฝั่งนึงเป็นวิวเมือง มองจากบนยอดปราสาทมัทสึยะมะ

เป็นอีกหนึ่งปราสาทใน shortlist ที่ได้มาเก็บในทริปนี้

หลังจากอิ่มเอมกับปราสาทมัทสึยะมะเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลากลับลงมาและมูฟไปที่อื่นต่อ เดินกลับลงมาตรงสถานี ropeway

ขาลงก็เลือกขึ้นกระเช้าลงไปเหมือนเดิม

ลงจากกระเช้าเดินไปตามทางออก เจอป้ายสองสาว AKB48 ตั้งอยู่ หน้าตาคนซ้ายนี่คุ้นๆเนอะ 555+

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว มาๆ อายะริน ถ่ายคู่กันหน่อยซิ!

ก่อนจะไปสถานีถัดไป ขอเติมพลังด้วยเจเล่ไลท์รสส้มที่เป็นของขึ้นชื่อของเมืองหน่อยซิ ส้มมิคังที่นี่ดังอยู่นะ

เดินกลับมารถรางสถานี Okaido แล้ว เดี๋ยวจะไปโดโกอนเซ็นก่อนแล้วค่อยกลับมาเดินชอปปิ้งที่นี่อีกที จากสถานี Okaido ไปยังสถานี Dogo-onsen มีรถรางสาย No.3, No.5 และ No.6 ผ่าน สายไหนมาก่อนก็ขึ้นได้เลย

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงสถานีสุดสายคือสถานี Dogo-onsen แล้ว

ออกจากสถานีมาก็เจอทางเข้าย่านการค้าระหว่างทางเดินเข้าไปยังบริเวณของโดโกอนเซ็นก่อนเลย

เดินทะลุผ่านไปเรื่อยๆก็มาถึงหน้าโดโกะอนเซ็นแล้วจ้า

ถ้าจะเข้าไปข้างในก็ต้องจ่ายค่าบริการแช่ต่างๆก่อนนะ ตอนเราไปนี่มันมีงานรื่นเริงอะไรสักอย่าง คนมหาศาลมากจนไม่อยากจะรอต่อคิวเข้าไปใช้บริการ เสียดายเหมือนกัน

ความเก่าแก่ในระดับหลักพันปีของอนเซ็นแห่งนี้ดึงดูดให้เราต้องมาเยือน

นี่ไงๆ งานรื่นเริงที่เราเล่าไป มีการร้องรำทำเพลงร่วมกับผู้ชมกันครื้นเครง

ใกล้ๆโดโกอนเซ็นนั้นมีเนินเขาอยู่ใกล้ๆ เดินขึ้นเนินเขาไปถ่ายรูปจากมุมบนซะหน่อย

บ่ายกว่าๆแล้ว ได้เวลาหาที่กินมื้อเที่ยงล่ะนะ ข้างๆโดโกอนเซ็นมีร้าน Sushimaru ที่เคยมีเพื่อนเรามากินแล้วรีวิวไว้ น่าสนใจดีเลยเข้าไปลองซะหน่อย

สั่งชุดนี้มากิน แต่เห็นรูปแล้วน่าสนใจดี มีข้าวกับโซเม็ง อร่อยดีนะ เซ็ตนี้ 1,400 เยน

หลังจากอิ่มแล้วก็เดินกลับมาที่หน้าสถานีอีกครั้ง

หอนาฬิกาที่อยู่หน้าถนนชอปปิ้ง

มีน้ำพุร้อนให้แช่เท้าด้วยนะ คนนั่งแช่กันเพียบเลย

ฝาท่อในเมืองมัทสึยะมะ

เดินดูของฝากเสร็จแล้ว ก็ได้เวลามูฟไปย่านการค้าโอไคโด กลับไปนั่งรถรางกลับไปลงที่สถานี Okaido อีกครั้ง

ลงรถรางสถานี Okaido แล้ว เดินข้ามถนนเข้าสู่ถนนชอปปิ้งกัน

เห็นป้ายโฆษณาบอกว่าในช่วง 3 วันนี้มีจัดกิจกรรมสำหรับเด็กๆคือหาอาร์ซีตัวคาแรคเตอร์ "นาเมะโกะ"

เจ้านาเมะโกะคือตัวการ์ตูนเห็ดนาเมะโกะหน้าตาแบบนี้

เราเลยจะได้เห็นสินค้าเกี่ยวกับเจ้าเห็ดนาเมะโกะนี้อยู่ทั่วๆไปในย่านการค้านี้

การมาเดินย่านการค้านี้ เรามีมิชชั่นที่ตั้งใจมาทำนั่นคือการมาเยือน Himekyun Shop ที่เป็น Official Shop ขายสินค้าของวงไอด้อล Himekyun Fruit Can ที่มัทสึยะมะ เดินๆอยู่ก็ได้เจอป้ายที่เป็นรูปเมมเบอร์ของวงที่ชื่อไมไมบอกห้ามขี่จักรยานในถนนการค้านี้ เดินไปอีกนิดก็น่าจะเจอชอปละ

ในที่สุดก็มาถึง Himekyun Shop จนได้ วง Himekyun Fruit Can เป็นไอด้อลท้องถิ่นของเอฮิเมะล่ะ นี่เป็นความฝันตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนที่จะมาเหยียบบ้านเกิดของไอด้อลที่เรารัก มิชชั่นสำเร็จแล้ว!

มีกะชะปองให้บิดด้วยนะ มันเป็นพวงกุญแจรูปเมมเบอร์ แน่นอนว่าบิดสิครับ! มิชชั่นของเราสำเร็จไปได้ด้วยดี ความใฝ่ฝัน 2 ปีไม่สูญเปล่าแล้ว

เวลาเริ่มจะคล้อยเย็นลงละ ยังมีอีกสถานที่ที่ยังไม่ได้ไปคือจุดชมวิวจากสวนมัทสึยะมะบนเขาที่อยู่ไปทางด้านหลังของสถานี Matsuyama เลยรีบเดินกลับไปขึ้นรถราง จากย่านการค้าโอไคโด เราขึ้นรถรางที่สถานี Okaido กลับไปลงที่ป้ายสถานี Matsuyamaekimae กลับมาถึงหน้าสถานี Matsuyama

จากนั้นเราก็เปิด google map เดินข้ามทางรถไฟแล้วตรงไปตามทางมุ่งหน้าสู่เนินเขาที่อยู่ไกลๆนั่น

เห็นคนขี่จักรยานรอทางรถไฟเปิดอยู่ข้างหน้า เค้าห้อยพวงกุญแจฟุนัชชี่ที่กระเป๋าด้วยอ่ะ 555+

เดินตรงมาเรื่อยแล้วเริ่มจะรู้สึกว่ามันคงจะอีกไกลและน่าจะใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมงแน่ๆ ซึ่งดูนาฬิกาแล้ว เรามีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นเอง ก็เลยว่าจะถ่ายรูปจากตรงนี้แล้วเดินกลับสถานีรถไฟละกัน

เสียดายนะที่เวลาไม่พอ บริหารเวลาไม่ดีเอง ทำให้อดขึ้นไปชมวิวจากบนสวนมัทสึยะมะเลย

ดูเป็นสถาปัตยกรรมที่ดี น่าจะถ่ายรูปสวยนะเนี่ย ดวงอาทิตย์กำลังจะตกแล้วด้วยสิ..

หลังจากนั้นก็กลับมาที่สถานี Matsuyama อีกครั้ง แวะหาซื้อเสบียงจากร้านค้าหน้าสถานีเอาไปกินบนรถไฟขากลับ แล้วก็เดินเล่นที่ร้านไดโซที่สถานีอีกซะหน่อย ระหว่างรอเวลาขึ้นรถไฟ

ตรงจุดรอรถไฟมีกระจกที่ทำเป็นรูปเกาะชิโกกุด้วยล่ะ

ประมาณก่อนเวลารถไฟออก 10 นาที รถไฟที่เราจะนั่งกลับก็มาจอดที่ชานชาลา เราจองที่นั่งไว้แล้วด้วย รถไฟ Limited Express Shiokaze 30 นี้ จะออกจากสถานี Matsuyama เวลา 18.41 น. ไปถึงสถานี Okayama เวลา 21.28 น.

เตรียมตัวขึ้นรถไฟกลับโอคะยะมะแล้วจ้า ลาก่อนมัทสึยะมะ ถ้ามีโอกาสจะแวะมาเที่ยวใหม่นะ!

รถไฟออกจากสถานีแล้ว ก็ได้เวลากินมื้อเย็น เราซื้อคัทสึด้งมากิน

พร้อมเครื่องดื่มโปรดของเรา "เมล่อนโซดา"

สามชั่วโมงผ่านไป กลับมาถึงสถานี Okayama แล้วจ้า กลับมาถึงห้างร้านต่างๆก็ปิดกันเกือบหมดและ งั้นก็เดินกลับที่พักไปเลยละกัน จะได้พักผ่อนได้นอนเยอะๆหน่อย หลังจากที่แทบจะไม่ได้นอนพักเลยในช่วง 2 วันแรกทั้งบนเครื่องบินรวมถึงเมื่อเช้าก็ต้องตื่นแต่เช้ามืดอีก

อากาศวันนี้ถือว่าโอเคเลย 16-18 °C แดดจัดหน่อยแต่มีลมเย็นฉ่ำ ชอบมากเลยแบบนี้ เดินสบายๆจนกลับถึงโรงแรม

สรุปวันนี้ก็ได้ไปหลายๆที่อยู่นะ ใช้เวลาท่องเที่ยวที่นี่ได้คุ้มค่าดี ได้ขึ้น ropeway ไปปราสาทมัทสึยะมะ ได้ชมวิวจากบนนั้น แล้วก็ไปเดินเล่นแถวโดโกอนเซ็นและย่านการค้าโอไคโดกลางเมืองมัทสึยะมะ สนุกดีวันนี้ คืนนี้ได้พักเยอะหน่อย พรุ่งนี้ไปทะคะมัทสึที่อยู่ไม่ไกลจากโอคะยะมะเท่าไหร่ ออกจากโรงแรมสายได้ เจอกันพรุ่งนี้ครับทุกคน

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page