top of page

2014.03.24 Japan Trip #6 Day4 Part1 - Hiroshima


วันที่ 4 ของทริปจูโกกุ-ชิโกกุ-คิวชู วันนี้ต้องย้ายตัวเองจากโอคะยะมะไปพักที่ฮิโรชิม่า เมื่อคืนนี้มีคิดแก้แพลนกันเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับพยากรณ์อากาศที่ว่าฝนจะตกในวันพรุ่งนี้ เลยย้ายแพลนเที่ยวเกาะมิยะจิมะมาเป็นช่วงบ่ายของวันนี้แทนที่จะเป็นพรุ่งนี้บ่ายตามแพลนเดิม จากที่จะเที่ยวฮิโรชิม่าทั้งวันก็เป็นเที่ยวแค่ครึ่งนึง แล้วอีกครึ่งยกไปไว้พรุ่งนี้บ่ายในช่วงที่ว่ากันว่าฝนจะตกแทน เพราะว่าสมมติฝนเกิดตกขึ้นมามันจะทำให้การไปเที่ยวเกาะมิยะจิมะน่าจะลำบากมากกว่าเที่ยวในเมืองน่ะ

เช้าวันนี้ต้องบอกลาโอคะยะมะเมืองอันแสนสงบแต่ครบเครื่องแล้วสิ อุณหภูมิวันนี้ 17-18 องศา จัดว่า "ร้อน" แฮะ

เก็บข้าวของบอกลาโรงแรม Hotel Excel Okayama และเมืองโอคะยะมะ ได้ใช้บริการรถรางของเมืองเป็นการทิ้งทวนจากหน้าโรงแรมไปลงที่หน้าสถานี Okayama

มีเวลาแวะเดินดูของฝากของเมืองโอคะยะมะสักหน่อย ที่นี่เค้าใช้โมโมทาโร่เป็นตัวชูโรงจริงๆ

หลังจากโชว์ JR Pass ให้เจ้าหน้าที่ดูก็ผ่านเข้ามาที่ชานชาลาของรถไฟชินคังเซ็นแล้ว รถไฟที่เราจองไว้เพื่อนั่งไปฮิโรชิม่าก็คือ Shinkansen Hikari 491 ที่จะออกจากสถานี Okayama เวลา 8.25 น. โดยจะไปถึงสถานี Hiroshima เวลา 9.05 น.

ขึ้นมารอรถไฟบนชั้นชานชาลา เจ้า Hikari ที่เราจะนั่งนั้นยังไม่มา แต่ตอนนี้มีเจ้า Hikari Rail Star จอดอยู่ก่อน

และนี่คือรถไฟชินคังเซ็นรุ่น 700 series ที่เราจะได้นั่งไปฮิโรชิม่า

พอถึงรอบรถไฟของเรามาแล้วก็ขึ้นไปนั่งตามตู้รถและที่นั่งที่ได้จองเอาไว้ และก็เช่นเคย.. ใช้เวลากินมื้อเช้าบนรถไฟอีก 1 วัน กินข้าวเช้าบนรถไฟทุกวันเป็นการประหยัดเวลา 555+

ใช้เวลา 40 นาทีก็มาถึงสถานี Hiroshima เรียบร้อย

มาถึงแล้วก็ต้องไปเช็คอินที่โรงแรมเพื่อฝากกระเป๋าเดินทางซะก่อน แล้วค่อยเดินตัวปลิวไปเที่ยวต่อ โรงแรมก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไหร่ เดินออกทางฝั่ง North Exit แล้วเลี้ยวขวาไป ใช้เวลาเดินราวๆ 5-6 นาทีก็ถึงที่พักที่เราจองไว้ก็คือโรงแรม Urbain Hiroshima Executive

มาถึงหน้าโรงแรม Urbain Hiroshima Executive แล้ว

เช็คอินกับที่ล็อบบี้แต่ห้องยังไม่เรียบร้อย เลยขอแอบมาส่องห้องสักหน่อย เวลาขึ้นลิฟท์ต้องใช้คีย์การ์ดด้วยล่ะ ก็เป็น security อีกระดับนึง แล้วที่สำคัญเลยคือโรงแรมนี้มีชาวต่างชาติมาพักเยอะมาก ไม่ใช่แค่โรงแรมหรอกนะ นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวที่ฮิโรชิม่าเยอะมากๆ ตั้งแต่ไปเมืองอื่นๆที่ไม่ใช่โตเกียวมา ฮิโรชิม่าคือเมืองที่เจอชาวต่างชาติเยอะที่สุดเลย

โรงแรมเป็นลักษณะโอเพ่นแอร์คล้ายๆรีสอร์ทเลยแฮะ ไม่ใช่อาคารแบบปิดโดยรอบแบบโรงแรมอื่นๆที่เคยพักมา

ประตูห้องพักดูแข็งแรง คล้ายๆพวกอพาร์ทเม้นท์เหมือนกัน

หลังจากฝากกระเป๋าที่โรงแรมแล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวต่อ เดินกลับไปที่สถานี Hiroshima แล้วเดินทะลุไปออกอีกฝั่งคือฝั่ง South Exit เพื่อจะไปขึ้นรถรางเที่ยวกลางเมือง แพลนวันนี้เปลี่ยนแปลงจากที่วางไว้ตั้งแต่ก่อนมาถึงญี่ปุ่นเพราะสภาพอากาศที่แปรปรวน คือตอนดูพยากรณ์อากาศในทีวีเค้าบอกว่าวันพรุ่งนี้ฝนจะตกในช่วงบ่าย ซึ่งเวลานั้นเราจะไปเที่ยวที่เกาะมิยะจิมะ ถ้าฝนตกคงจะเที่ยวที่เกาะนั้นลำบาก ก็เลยย้ายกำหนดการไปเกาะมิยะจิมะมาเป็นวันนี้แทน แล้วย้ายแพลนเที่ยวสถานที่ที่จะเที่ยวช่วงบ่ายวันนี้คือ Peace Park ที่ฮิโรชิม่าไปเสี่ยงฝนเอาในวันพรุ่งนี้

สถานีรถรางอยู่ติดด้านหน้าสถานีรถไฟ JR มีป้ายบอกชัดเจนว่ารถสายไหนจอดเทียบชานชาลาไหน

แพลนเช้าวันนี้คือจะไปปราสาทฮิโรชิม่า ซึ่งต้องลงรถรางที่สถานี Kamiyacho-higashi หรือ Kamiyacho-nishi ก็ได้ สายรถรางที่ผ่านก็ตามรูปเลยคือสาย 2 หรือสาย 6 ก็ได้ รถรางสายไหนมาจอดเทียบท่าก่อนก็ขึ้นขบวนนั้นล่ะนะ ซึ่งก็เป็นสาย 6 ที่จอดรออยู่แล้ว

นั่งรถรางใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็มาถึงสถานี Kamiyacho-higashi เสียค่าโดยสาร 150 เยน(เรทค่าโดยสารในเมือง) ตามแพลนที่วางไว้เราคงนั่งแค่ไป-กลับตรงนี้ ก็เลยไม่ได้ซื้อตั๋ว one day pass ของรถราง

มาถึงสถานี Kamiyacho-higashi แล้ว

พอลงรถรางแล้วก็ข้ามถนน จากนั้นเดินตรงไปตามทางที่หาข้อมูลไว้(มี GPS ยังไงก็ไม่หลงแน่นอน) ถ้าไม่รู้ทิศรู้ทางก็มองป้ายบอกทางบริเวณรอบๆได้นะ มีอยู่ทั่วอยู่แล้วทุกที่เลย

เดินฝ่าแดดไปเรื่อยๆ ตอนแรกว่าจะเดินไปเข้าชมสวนชุกเกะอิเอ็งที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลปราสาทฮิโรชิม่าก่อน แต่พอพิจารณาถึงว่าตอนนี้ซากุระคงยังไม่บาน ก็เลยขอผ่านสวนนี้ไปและกัน(เหมือนสวนโคระคุเอ็งที่โอคะยะมะ) ไปลุยปราสาทเลยดีกว่า

ฝากท่อที่เมืองฮิโรชิม่า

เดินมาเรื่อยๆก็ถึงหน้าบริเวณปราสาท ก็เหมือนปราสาทบนพื้นราบที่อื่นๆ คือมีคูน้ำล้อมรอบตามตำราพิชัยยุทธ์ญี่ปุ่น

เดินข้ามสะพานตรงผ่านทางเข้าบริเวณสวนปราสาท

มาถึงบริเวณภายในสวนปราสาท ถึงจะร้อนไปหน่อยแต่ดูร่มรื่น

ซากปูนที่เห็นนี้คืออาคารศูนย์กำลังกองทัพภาคที่ 5 ที่เคยใช้บัญชาการรบเมื่อสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มันเหลือแค่นี้ไม่ใช่เพราะใครที่ไหน คุณนิวเคลียร์ Fat Man ที่อเมริกาหย่อนลงมาทักทายชาวฮิโรชิม่าช่วงท้ายสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 1945 นั่นล่ะ

มองไกลๆเห็นยอดปราสาทฮิโรชิม่าอยู่ลิบๆนั่นแล้ว

เดินขึ้นมาถึงหน้าปราสาทแล้ว ปราสาทหลังนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากโดนนิวเคลียร์บอมบ์นะ

เก็บไปอีกหนึ่งปราสาทในทริปนี้!

ปราสาทฮิโรชิม่านี้เสียค่าเข้าชม 360 เยน

ภายในปราสาทก็จัดโซนเหมือนกับทุกปราสาทที่อื่นๆ มี exhibition แสดงประวัติและข้าวของที่หลงเหลืออยู่ และเราก็ได้พบกับท่านลอร์ดอาซาโนะทั้งตระกูลเสียที หลังจากที่ได้ยินกิตติศัพท์จากหนังเรื่อง 47 Ronin มานาน

บนยอดปราสาทก็จัดเป็น observe area เช่นกัน สามารถเดินออกไปชมวิวได้เหมือนกับปราสาทโอซาก้าเลย

มองลงไปยังลานหน้าปราสาทข้างล่าง

นอกจากเห็นวิวเมืองได้รอบแล้ว บนนี้ยังมีลมพัดเย็นสบายมากๆเลย

กลับลงมาจากปราสาทฮิโรชิม่า ก็เดินกลับออกไปทางศาลเจ้าโกโคคุที่อยู่ใกล้ๆกัน

เดินเข้าไปในศาลเจ้าโกโคคุกันซะหน่อย

เดินทะลุออกทางข้างศาลเจ้าโกโคคุ เป็นทางออกอีกฝั่งนึง ตอนเดินเข้าเราเข้ามาทางแยกที่ไปสวนชุกเกะอิเอ็ง มาออกตรงทางออกใกล้ๆกับ Central Park

ลานน้ำพุบริเวณทางออกที่เราเดินออกมาจากศาลเจ้า

ดูเป็นศิลปะร่วมสมัย

จากลานน้ำพุนี้ มองย้อนกลับไปก็ยังคงมองเห็นปราสาทฮโรชิม่าได้อยู่

ซูมเห็นปราสาทฮิโรชิม่าอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่

เป็นอันจบแพลนการเที่ยวในเมืองฮิโรชิม่าช่วงเช้าของวันนี้แล้ว

เดินข้ามถนนทะลุผ่านทางข้ามใต้ดินขึ้นมาอยู่ที่ Central Park มุ่งหน้ากลับไปที่สถานีรถราง พอละสำหรับฮิโรชิม่าวันนี้ เดี๋ยวช่วงบ่ายจะเดินทางไปเกาะมิยะจิมะต่อ ส่วนมิวเซี่ยมกับ A-Bomb Dome ไว้ไปเยือนพรุ่งนี้ช่วงบ่ายละกัน

เดินฝ่าแดดแรงแล้วหน้าชากลับจาก Central Park มาถึงที่สถานี Kamiyacho-Nishi เพื่อรอขึ้นรถรางกลับไปที่สถานี Hiroshima

รถรางสาย 6 ที่นั่งกลับสถานี Hiroshima ได้มาพอดี ขึ้นเลยๆ 150 เยนเหมือนเดิม

ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็กลับมาถึงสถานี Hiroshima ก่อนจะไปมิยะจิมะ ว่าจะไปหาข้าวเที่ยงกินซะก่อน จะได้ไปเที่ยวช่วงบ่ายต่อได้ยาวๆ ที่สถานีรถไฟมีร้านอาหารเยอะอยู่นะเพราะมีห้างอยู่ที่สถานี จำได้ว่ามีเพื่อนที่เคยไปเที่ยวฮิโรชิม่าเคยรีวิวไว้ว่ามีร้านฮิโรชิม่ายากิอยู่เพียบ น่าสนใจๆ

เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ของห้างมันเป็นโซนร้านอาหารก็เจอร้านอาหารมากมาย มีร้านฮิโรชิม่ายากิอยู่หลายร้านเรียงกันเป็นตับๆเลย มีทั้งร้านคนเยอะและร้านคนไม่เยอะ เราก็เลือกร้านคนกลางๆและกัน

เข้าไปนั่งแล้วก็สั่งโอโคโนมิยะกิมา 1 ที่ รอป้าคนขายทำเสร็จประมาณ 10-15 นาที

ฮิโรชิม่ายากิหอยนางรม จานนี้ราคา 1,050 เยน

ขอใช้เวลากินมื้อเที่ยงสักพัก เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวกันต่อช่วงบ่ายที่เกาะมิยะจิมะ นั่งรถไฟ JR ไปไม่ไกลเท่าไหร่ แล้วมาต่อกันใน Part 2 จ้า

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page