2014.03.24 Japan Trip #6 Day4 Part2 - Miyajima
หลังจากเดินทางไปชมปราสาทฮิโรชิม่าและบริเวณรอบๆมาในช่วงเช้า กลับมากินมื้อเที่ยงที่แถวสถานี Hiroshima พร้อมเตรียมเสบียงก็เดินทางไปเที่ยวต่อในตอนบ่าย จุดหมายต่อไปคือเกาะมิยะจิมะ
ท้องอิ่มแล้วก็มีแรงเที่ยวต่อยาวๆละ พร้อมที่จะไปลุยเกาะมิยาจิมะแล้ว! เช็ครอบรถไฟ JR สาย Sanyo Line มีรอบ 13.30 น.
รถไฟมาแล้วๆ ว่าแต่สีคุ้นๆนะ.. นี่มันขบวนเดียวกับที่นั่งที่โอคะยะมะเพื่อไปคุระชิกินี่นา! สาย Sanyo Line นั่นเอง
ใช้เวลา 26 นาทีก็มาถึงสถานี Miyajimaguchi
เดินออกจากรถไฟแล้วก็ไปหาทางออกกัน
เดินออกมาหน้าสถานี Miyajimaguchi ท่ามกลางแดดที่ค่อนข้างร้อน
มองจากหน้าสถานีรถไฟ JR ไปทางฝั่งตรงข้าม จะเห็นท่าเรือ JR Ferry ข้ามไปเกาะมิยะจิมะตั้งอยู่ คือมันใกล้กว่าที่คิดมากอ่ะ 555+ จะเดินข้ามถนนข้างบนหรือจะเดินข้ามทางเดินใต้ดินก็ได้แล้วแต่สะดวก
เดินมาถึงหน้าท่าเรือ JR มิยะจิมะแล้ว
ปกติแล้วจะใช้เวลานั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะมิยะจิมะ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้ว
รอบเวลาของเรือข้ามฟากก็จะมีตารางเวลาที่แน่นอนดังนี้ สามารถเอาไปใช้วางแผนในการเดินทางไปกลับล่วงหน้าได้เป็นอย่างดีเลย
สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้ JR Pass หรือพาสพิเศษของฮิโรชิม่า(2000 เยนนั่งรถรางและเรือข้ามฟากได้ไม่จำกัดเที่ยว) สามารถมาซื้อตั๋วสำหรับนั่งเรือข้ามฟากได้ที่ตรงนี้ หรือจะกดซื้อจาก vending machine ข้างๆในรูปนี่ก็ได้
เรียบร้อยแล้วก็เดินไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ได้เลย
อารมณ์เหมือนนั่งเรือข้ามไปเกาะช้างชะมัด แล้วคือเราเพิ่งจะไปเที่ยวเกาะช้างกับครอบครัวมาไม่นานนี้เอง 555+
ในที่สุดก็ได้เห็นเสาโทริอิกลางน้ำอันเลื่องชื่อ! เป็นบุญตามากๆ
ข้ามมาถึงฝั่งเกาะมิยะจิมะแล้ว เดินออกจากท่าเรือ เตรียมเดินเที่ยวบนเกาะทันที
จากแผนที่ท่องเที่ยวของเกาะมิยะจิมะ เราจะขึ้น ropeway ไปชมวิวบนยอดเขามิเซ็นก่อน แล้วค่อยลงมาแวะที่ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะและเจดีย์ห้าฉัตรเพื่อชมเสาโทริอิกลางน้ำปิดท้าย
เดินเลาะทะเลไปทางขวามือเรื่อยๆตามแผนที่
วิวตรงนี้อารมณ์เหมือนมาเที่ยวเกาะช้างจริงจัง..
ตัวละครลับอันโด่งดังของเกาะมิยะจิมะนี้ก็คือคุณกวางน้อยนั่นเอง เหมือนกับที่นารานั่นล่ะ
เอ้า! ยิ้มหน่อยๆ ทุกคนอย่าเผลอนะ เราโดนคุณกวางงับแผนที่ตอนกำลังถ่ายรูปเล่นไปทีและ
ยังคงเจอกวางน้อยตามทางเรื่อยๆไม่ขาดตอน
นี่เรามาเที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียวหรือไร..
เดินมาถึงเสาโทริอิกลางน้ำและ ตอนนี้น้ำขึ้นอยู่ ยังเข้าไปใกล้ไม่ได้ เดี๋ยวเย็นๆจะกลับมาใหม่
เรามาถึงมิยาจิมะแล้วนะ!
ที่เกาะมิยะจิมะนี่มีหอยนางรมดังนะ ไปซื้อหอยนางรมย่างมากินกันได้ รับประกันความอร่อยโดยเราเอง!
"ขอป๋มเข้าไปหน่อยฮับ"
จากตรงหน้าศาลเจ้า เราเดินเลยขึ้นไปตรงทางเดินโมมิจิดะนิก่อน แล้วจะขึ้น ropeway ไปบนยอดเขามิเซ็น
ป้ายบอกทางว่า ropeway อยู่ข้างหน้านี้
จริงๆแล้วจะไปขึ้น ropeway มันต้องเดินขึ้นเขาตามเส้นทางโมมิจิดะนิ แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็สามารถรอใช้บริการรถบัสรับส่งขึ้นไปหน้าสถานี ropeway ก็ได้
เวลารอบของรถบัสมีบอกอยู่ตรงป้ายรอรถเลย เช็คเวลากันให้ดีตามสะดวกจ้า
ส่วนเราขอเดินขึ้นเอาบรรยากาศตามทางเดินโมมิจิดะนิละกัน ใช้เวลา 15 นาทีในการเดินขึ้นไปถึงสถานี ropeway ล่ะ
ถึงสถานี ropeway ก็ซื้อตั๋วแบบ round trip ราคา 1,800 เยน ropeway ที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 9.00 - 17.30 น. ถ้าพลาดขึ้นหรือลงหลังเวลานี้ เดินขึ้นเขาราวๆ 2 กม. สถานเดียวนะ!
ropeway ขึ้นเขามิเซ็นนี้ จะแบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกันคือ ช่วงแรกจะเป็นกระเช้าขนาดเล็ก ระยะจะยาวประมาณ 2 ใน 3 ของระยะทั้งหมด ออกจากสถานี Momichidani ขึ้นไปพักที่สถานี Kayatani กระเช้าจะออกทุกๆ 1 นาที ใช้เวลา 10 นาที และช่วงที่ 2 คือกระเช้าขนาดใหญ่ ออกจากสถานี Kayatani ไปยังสถานี Shishiiwa ที่อยู่บนเขามิเซ็น กระเช้านี้ออกทุกๆ 15 นาที ใช้เวลา 4 นาทีถึงปลายทาง
กระเช้าของช่วงแรกมาแล้ว เป็นกระเช้าเล็กๆส่วนตัว จุได้ 3-4 คน
มองย้อนลงไปตามสลิงข้างล่าง มีกระเช้าสวนขึ้นลงไปมา
สูงกว่าที่คิดมากเลยแฮะ เขามิเซ็นเนี่ย..
ช่วงนี้ได้นั่งกระเช้าติดๆกันเลยนะเนี่ย
ใกล้ถึงสถานีกลางทางและ เดี๋ยวต้องไปต่อกระเช้าขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก
เดินลงมารอขึ้นกระเช้าไปต่อ
กระเช้าใหญ่ที่จะขึ้นไปสถานีสุดสายบนเขา
ยิ่งสูงวิวก็ยิ่งสวย
ไม่นานนักก็ถึงปลายทาง แล้วเราก็จะได้ชมวิวทะเลงามๆแล้ว!
แต่ช้าก่อน.. จากที่เคยคิดว่าขึ้นกระเช้าไปถึงแล้วจะมีลานกว้างชมวิวได้เลยนั้นมันผิดนะ! ใช่ครับ.. มันต้องเดินขึ้นเขาลงเขาทะลุป่าไปตามทางเป็นกิโล เพื่อที่จะไปถึงจุดชมวิวบนยอดเขามิเซ็น อะไรจะปานนั้น..
ทางเดินก็ดูวิบากใช่ย่อย คล้ายๆกับทางเดินป่าที่เขาใหญ่หรือห้วยขาแข้งเลย
เดินดีๆ ระมัดระวังด้วยนะ พลาดตกลงไปนี่เป็นศพได้เลย..
วิวตามทางก็มีพอให้ใจชื้นชื่นบานได้บ้าง
เดินมาเป็นกิโลได้เจอวัดบนเขาแล้ว! มาถึงอาคารหลักของวัดไดโชอิงบนเขาที่ทำตัวเหมือนเป็นจุดพักที่ดี
ใกล้ๆกันนั้นเป็นอาคารซังคิโด ไปไหว้สักการะซะหน่อย
อนุสรณ์สถานแห่งความรักเหรอ?
หลังจากพักสักเดี๋ยวก็ได้เวลาขึ้นไปต่อและ เดินขึ้นบันไดไปตามทางเรื่อยๆ อีกไม่ไกลแล้ว
หน้าผาตรงนี้มีคนเอาหินมาก่อเจดีย์ด้วยแฮะ กองอยู่ใกล้ๆกับอาคารมงจูโดและคันนงโดตามทางเดินขึ้นไปสู่ยอดเขา ว่ากันว่าเพื่อบูชาเทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษาเขา
แต่เรานั้นกลับสนใจวิวสวยๆแบบนี้มากกว่า!
ตรงจุดชมวิวเค้าทำเป็นหอสูงขึ้นมาให้ยืนชมวิวได้สะดวกๆล่ะ
สุดขอบฟ้านั่นเป็นแผ่นดินใหญ่ของฮิโรชิม่า
มีเกาะเล็กเกาะน้อยรายล้อมอยู่มากมาย
วิวสวยลมเย็นชื่นใจดีจริงๆ ความลำบากในการเดินมาถึงตรงนี้ค่อยๆหายไปและ
ดวงอาทิตย์ใกล้จะคล้อยลาจากฟ้าแล้ว
วิวภูเขาบนเกาะมิยะจิมะนี่มันช่างสวยจริงๆ ถ่ายรูปเพลินมากเลย
มัวแต่ถ่ายรูปเพลินจนเกือบลืมดูเวลา ต้องรีบเดินลงละ เดี๋ยวจะกลับไปที่กระเช้าลงไปข้างล่างไม่ทัน ว่าแล้วก็รีบจ้ำอ้าวเดินกลับลงไปที่สถานี ropeway
ก่อนกลับขอขึ้นไปยืนผงาดอีกสักครั้ง!
เดินย้อนกลับไปตามทางเดิม ประมาณเวลาการเดินไว้ที่ 20 นาที น่าจะต้องมีวิ่งสลับเดินกันบ้างแหงๆ
กลับมาถึงสถานี ropeway จนได้ ที่สำคัญคือมาทันรอบ 17.15 น. หรือคือรอบรองสุดท้ายด้วยซ้ำ เล่นเอาเหงื่อท่วมเลยนะเนี่ย รองเท้าเป็นรูขาดไปนิดนึงด้วย 555+
ขากลับก็เช่นเคย ต้องลงมาเปลี่ยนกระเช้าก่อน
สำหรับกระเช้าเล็กนี้มีขึ้นลงได้ตลอดเวลา ไม่ได้มีรอบเหมือนกระเช้าใหญ่ข้างบน รอคิวแป๊บเดียวก็ได้ขึ้นแล้ว
จบภารกิจบนเขามิเซ็นแล้วครับ สีหน้าดูเหนื่อยๆ.. แน่ล่ะวิ่งขึ้นวิ่งลงเขามิเซ็นนี่นะ!
กลับลงมาถึงสถานีด้านล่างอย่างปลอดภัย ระหว่างเดินออกจากสถานีเจอรูปวิวที่เค้าถ่ายจากบนยอดเขามิเซ็น หลายๆรูปสวยมากๆ ทำไมเราถ่ายไม่ได้แบบนั้นบ้าง 555+
เดินย้อนกลับลงมาทางเดินโมมิจิดะนิเหมือนเดิม ประมาณ 15 นาทีเราก็มาถึงหน้าศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ ดูจากเวลาแล้วคงจะไม่ได้ไปวัดไดโชอินหลังใหญ่ที่อยู่ด้านล่างใกล้ๆกันนี่ซะแล้ว เพราะฟ้าเริ่มมืดและวัดก็คงจะปิด
เสียค่าเข้าชมศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ 300 เยน
เสาไม้นี่มันแดงได้ใจจริงๆ
เกาะมิยะจิมะนี่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่บริสุทธิ์จากการตายเชียวนะ รู้สึกเหมือนได้มาชำระล้างตัวเองดีจัง
ตามที่คาดไว้เลย พอถึงช่วงเย็นๆใกล้ค่ำนี่น้ำลงไปสุดๆเลย
ตรงหาดไกลๆนั่นมีคนลงไปเดินถ่ายรูปเล่นแล้วด้วย
ลงไปเดินถ่ายรูปตรงหาดทรายที่น้ำลงกะเค้าบ้างดีกว่า
ตรงนี้ก็มุมนิยมล่ะ ถ่ายจากศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ มีแบ๊คกราวน์ข้างหลังเป็นเสาโทริอิกลางน้ำ
เดินห่างออกจากศาลเจ้ามาเรื่อยๆ ตอนเดินต้องระวังกันหน่อยเพราะมันค่อนข้างแฉะและลื่นพอสมควร
เสาโทริอิกลางน้ำอยู่ข้างหน้าเราแล้ว!
เสาโทริอิกลางน้ำที่เป็นไฮไลท์สำคัญของเกาะมิยะจิมะ
เสียดายนิดๆที่น้ำลงไปไม่สุด ไม่งั้นเราคงเดินไปโอบกอดฐานของเสาโทริอิแน่ๆ
เดินเฉียงมาถ่ายมุมทางขวามือ พยายามเดินตรงที่เป็นผืนดินไปให้ใกล้ที่สุดเพื่อจะได้เก็บรูปได้ถนัดๆ
ไม่ว่าจะมุมไหนก็ดูสวยงามจริงๆ
ยิ่งเวลามืดลงเรื่อยๆ น้ำทะเลก็ดูจะลดลงไปเรื่อยๆเช่นกัน จนเริ่มที่จะเดินไปได้เกือบถึงเสาโทริอิแล้ว พอถึงตอนเริ่มจะมืดเค้าจะเปิดไฟสปอตไลท์ฉายไปที่เสาโทริอิด้วยนะ
ท้ายที่สุดก็ไปใกล้เสาโทริอิกันได้ถึงเท่าที่เห็นในรูปนี้ แต่แค่นี้เราก็ได้รูปสวยๆและน่าประทับใจกลับบ้านแล้วล่ะนะ!
มืดซะแล้ว ได้เวลากลับละ ขากลับเดี๋ยวจะไปแวะซื้อของที่ระลึกตรงร้านค้าที่เดินผ่านขามา รู้สึกว่าจะปิดทุ่มนึง ยังทันๆ
ระหว่างทางเดินกลับ เสาไฟตะเกียงเริ่มเปิดไฟแล้ว
หันกลับไปดูเสาโทริอิ มีแสงออร่าจากสปอตไลท์แล้ว
เดินไปมองทะเลไป เราเป็นคนที่ชอบฟังเสียงคลื่นมากๆ
เดี๋ยวต้องเดินกลับไปยังท่าเรือที่เห็นไกลๆตรงนู้น
โถ.. หนาวสินะลูก.. เจ้ากวางน้อย ยิ่งมืดลงอากาศยิ่งหนาวเย็น
หลังจากซื้อของฝากของที่ระลึกเสร็จ เราก็เดินกลับไปที่ท่าเรือ ยามค่ำบนเกาะแบบนี้นี่ลมหนาวพัดกระชากใจดีนักแล.. ต้องนั่งรอเรือเฟอร์รี่มารับอีก เรือรอบต่อไปเวลา 19.30 น.
พอเรือมาถึง ยื่น JR Pass ให้พนักงานดูก็ขึ้นเรือได้เลย คราวนี้เราไม่อาจทานทนกับกระแสลมข้างนอกได้ เลยต้องมานั่งเจียมตัวอยู่ข้างในเคบิ้นแทน 555+
ใช้เวลา 5 นาทีก็กลับถึงแผ่นดินใหญ่ ก่อนจะเดินกลับไปที่สถานี Miyajimaguchi เพื่อนั่งรถไฟกลับสถานี Hiroshima
ดูตารางเวลารถไฟ JR สาย Sanyo Line ขากลับ รถไฟจะมาเวลา 19.51 น.
เดินขึ้นมายืนรอรถไฟที่ชานชาลา
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเหมือนขาไป ก็กลับมาถึงสถานี Hiroshima แล้ว
และก็ได้เวลาชอปปิ้งของกินที่ซุปเปอร์ในห้างในสถานี! สองทุ่มแล้วของลดราคาเพียบ หยิบจับกันอย่างเมามันส์ 555+
หลังจากชอปปิ้งกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเดินกลับโรงแรมและรับกุญแจจากพนักงานที่ล็อบบี้ พนักงานเค้าพูดคำว่า "ขอบคุณครับ" ซะด้วยแน่ะ! ใครไปสอนพนักงานที่โรงแรมนี้พูดไทยเนี่ย!? ได้ห้องหมายเลข 402 อยู่ชั้นสองทางซ้ายสุดแฮะ
เข้ามาถึงก็วางของกองๆไว้ก่อนเลย ไม่ต้องจัดแจงอะไรมากเพราะเดี๋ยวอีก 2 วันก็ต้องไปต่อแล้ว
เตียงห้องดูดี นอนและนั่งสบาย พื้นที่ใช้สอยในห้องดูกว้างพอเหมาะ ที่สำคัญคือโรงแรมยังดูใหม่อยู่
ห้องน้ำกว้างโอเคเลยนะ งวดนี้ได้โรงแรมที่ห้องน้ำในตัวกว้างขวางใช้ได้ทั้งสองโรงแรมที่พักเลย เยี่ยมๆ
นั่งอัพเดตการผจญภัยในวันนี้สักพักก็เตรียมตัวนอนและจ้า พรุ่งนี้ตามพยากรณ์อากาศนั้นฝนจะตกช่วงบ่ายๆเย็นๆ ช่วงเช้าเรามีแพลนจะไปเที่ยวที่เมืองอิวะคุนิที่อยู่ในเขตจังหวัดยะมะกุจิ จากนั้นก็จะกลับมาเที่ยวส่วนที่เหลือของฮิโรชิม่าต่อ ก่อนจะไปชอปปิ้งช่วงค่ำๆทิ้งท้าย หวังว่าฝนคงจะปราณีเรา ไปตกซักตอนชอปปิ้งหรือถ้าไม่ตกเลยจะดีมากนะ สาธุ