top of page

2014.03.26 Japan Trip #6 Day6 Part1- Dazaifu


วันที่ 6 สำหรับทริปนี้ และเป็นวันแรกของการไปเหยียบเกาะคิวชู จากวันนี้ไปจะอยู่ที่คิวชูยาว 1 สัปดาห์ล่ะ! เริ่มต้นแพลนเที่ยววันนี้กันใกล้ๆใจกลางเมืองฟุคุโอกะก่อนเลย ช่วงเช้าไปเมืองดะไซฟุที่เป็นเมืองเก่าแก่ก่อน แล้วย้อนกลับมาเที่ยวในเมืองฟุคุโอกะ อุปสรรคที่มีก็คงจะเป็นฝนที่ตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืนและลากยาวมาถึงตอนเช้า ก็หวังว่าเมื่อเราเดินทางเข้าสู่ฟุคุโอกะแล้วฝนจะหยุดตกซะทีล่ะนะ

อรุณสวัสดิ์วันที่ 6 ที่ญี่ปุ่น ตื่นเช้าที่ฮิโรชิม่า ฝนยังคงไม่หยุดตกเลย ตกยาวมาตั้งแต่เย็นเมื่อวานนี้ ก็เป็นไปตามพยากรณ์อากาศนั่นล่ะว่าวันนี้ฝนจะตกเกือบทั้งวัน อาจจะทำให้การเที่ยวมีอุปสรรคเพิ่มขึ้นบ้าง ยังไงก็ขอให้มันหยุดตกยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีนะ วันนี้จะต้องหิ้วกระเป๋าจากฮิโรชิม่าข้ามเกาะไปคิวชูและพักที่ฟุคุโอกะก่อนในสองคืนแรก

ไหนๆก็ไหนๆ ขอดูพยากรณ์ของวันพรุ่งนี้ยาวไปทั้งสัปดาห์เลยดีกว่า วันนี้คือ 26 พรุ่งนี้เท่าที่ดูนี่คือฟุคุโอกะมีแดดแฮะ! พรุ่งนี้เราจะไป Huis Ten Bosch ซึ่งอยู่นะงะซะกิตอนบนซึ่งจะอยู่ระแวกใกล้กับฟุคุโอกะและซะกะ เพราะงั้นมันน่าจะแดดเหมือนกัน โล่งใจไปเปราะนึง.. แต่วันต่อไป(28-29)นี่สิ มันมีเมฆฝนซะแบบนั้น.. เสียวๆอยู่เหมือนกัน

เช้านี้ก็ลงมากินอาหารเช้าของโรงแรมเช่นเคย สิ่งที่เปลี่ยนไปคือยากิอุด้งกลายเป็นยากิโซบะ 555+

กินมื้อเช้าเรียบร้อยก็กลับห้องพักไปเก็บสัมภาระ แล้วก็เช็คเอ๊าท์เตรียมตัวเดินทางจากฮิโรชิม่ามุ่งหน้าไปฟุคุโอกะ จะไปคิวชูแล้ว ตื่นเต้นจัดชนิดที่ขึ้นมายืนรอต้อนรับชินคังเซ็น Sakura เข้ามาจอดเทียบชานชาลาเลยทีเดียว อีกตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะกว่าจะมา 555+

ก็เหมือนสถานีชินคังเซ็นทั่วไป ที่จะบอกว่าตรงที่เรายืนรออยู่นี้มันเป็นช่วงที่ตู้รถเท่าไหร่เมื่อรถไฟมาจอดเทียบ จะมีบอกทั้งรถไฟที่เป็น 8 ตู้รถและ 16 ตู้รถเลย สำคัญคือมีบอกด้วยว่าตู้รถที่เท่าไหร่เป็นที่นั่งแบบ non-reserved เพื่อที่จะได้ไปต่อแถวรอได้ถูกที่ถูกเวลา ไม่งั้นอาจจะเต็มจนต้องยืน สำหรับรถไฟ 8 ตู้รถ ที่นั่ง non-reserved จะอยู่ตู้รถที่ 1-3 และสำหรับรถไฟ 16 ตู้รถ ที่นั่ง non-reserved จะอยู่ตู้รถที่ 1-5 ล่ะ

ที่พื้นตรงหน้าทางเดินเข้าออกโบกี้บนชานชาลาก็มีหมายเลขติดไว้ให้ดูด้วย

รออยู่สักพัก ก็ได้เวลาที่เจ้า Sakura ที่เราจะนั่งมาเทียบชานชาลาแล้ว เรากำลังจะได้นั่งชินคังเซ็น Sakura เป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยล่ะ!

ขึ้นรถไฟมาแล้วๆ นั่งสบายมากๆ ที่นั่งกว้างขวาง รักเลย

เรานั่งรถไฟ Shinkansen Sakura 543 ออกจากสถานี Hiroshima เวลา 8.23 น. จะไปถึงสถานี Hakata เวลา 9.30 น. คราวนี้จองตั๋วที่นั่งไว้ตั้งแต่ก่อนออกมาจากโอคะยะมะเลยนะ! กลัวมันจะเต็มอีกเลยไม่อยากประมาท 555+

ใช้เวลาประมาณ 60-70 นาทีก็มาถึงสถานี Hakata ในเมืองฟุคุโอกะแล้ว ก้าวแรกบนเกาะคิวชู!!

ลงบันไดเลื่อนมาที่สถานีข้างในและ เดี๋ยวจะลากกระเป๋าฝ่าฝนไปที่พักเพื่อเช็คอินและฝากกระเป๋าสัมภาระก่อน

ดูแผนที่ในสถานีก่อนๆ รู้สึกต้องออกขวาไปทาง Chikushi Gate

ตามแผนที่นี้ ที่พักของเราคือ Khaosan Annex Fukuoka ต้องเดินขึ้นไปข้างบนและข้ามสะพาน น่าจะใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที

เดินเลาะทางรถไฟมาเรื่อยๆถึงสะพาน เดินมาเรื่อยๆฝนมันหยุดตกซะงั้น! แต่ไม่รู้จะตกอีกมั้ย รีบๆเอาของไปเก็บจะดีกว่า กลัวว่ามันจะเทลงมาอีก

ข้ามสะพานนี้ไปจนสุดถึงแยกไฟแดงนั่นก็ถึงแล้ว

มาถึงหน้าโรงแรมที่พักของเราที่ฟุคุโอกะแล้ว

โรงแรมเป็นโฮสเทลชื่อว่า Khaosan Annex Fukuoka

เป็นที่พักที่เราอยาก recommend มากๆ มีห้องพักที่มีห้องน้ำในตัวให้เลือกด้วย สะอาดและใหม่ คนไม่เยอะเหมือนข้าวสารโตเกียว บริการดีมากๆ ภาษาอังกฤษดีเยี่ยม ประทับใจขนาดเราให้ 10 เต็ม 10 เลยนะ! ถ้ามีโอกาสก็ว่าจะมาพักอีกให้ได้เลย

หลังจากฝากกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย(เพราะห้องพักยังไม่ได้ตอนเช็คอิน) ก็ได้เวลาเดินย้อนกลับมาที่สถานี Hakataอีกครั้ง ฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตกลงมาใหม่ด้วย เพราะงั้นก็รีบไปเที่ยวกันเลยดีกว่า! เดี๋ยวเราจะไปเที่ยวที่เมืองดะไซฟุ ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ของคิวชูที่อยู่ไม่ห่างจากฟุคุโอกะมากนัก ก่อนจะกลับมาเที่ยวในเมืองฟุคุโอกะอีกที

ยืนรอรถไฟ JR สาย Kagoshima Line Rapid มาขึ้นรถทันรอบเวลา 10.30 น. พอดีเลย

ภายในตู้รถไฟคนน้อยมากเลย ด้วยความที่เป็นวันธรรมดาและมีฝนตกลงมาล่ะมั้ง

ใช้เวลา 15 นาทีก็มาถึงสถานี Futsukaichi แล้ว เรามาลงที่สถานีนี้เพื่อไปต่อรถไฟ Nishitetsu ไปดะไซฟุ

ดูตารางรถไฟขากลับฟุคุโอกะเอาไว้ก่อน จะได้แพลนเวลากลับมาได้ง่ายยิ่งขึ้น

สาเหตุที่เรามาลงรถไฟที่สถานี Futsukaichi ก็เพราะว่า เดี๋ยวจะต้องเดินเท้าไปต่อรถไฟเอกชน Nishitetsu เพื่อไปลงที่สถานี Dazaifu อีกที (สถานี Dazaifu ไม่มีรถไฟ JR ผ่าน) จากแผนที่จะมีสถานีรถไฟของ Nishitetsu อยู่ 2 สถานีคือ สถานี Murasaki และสถานี Nishitetsu-Futsukaichi สถานี Murasaki นั้นอยู่ใกล้กว่าแต่จะต้องเสียเงินค่าโดยสารมากกว่าและจะต้องไปต่อรถไฟที่สถานี Nishitetsu-Futsukaichi อยู่ดีด้วย ดังนั้นเราเลยเดินมุ่งหน้าไปที่สถานี Nishitetsu-Futsukaichi เลยดีกว่า

เดินออกจากสถานีฟุทสึกะอิจิแล้ว ฟ้าเริ่มสดใส ฝนหยุดตกไปประมาณชั่วโมงนึงได้ละ ไม่มีอุปสรรคในการท่องเที่ยวแล้ว

เดินออกจากสถานีรถไฟมาก็เลี้ยวไปทางซ้ายมือ ตรงผ่านย่านเมืองของฟุทสึกะอิจิ ที่เมืองนี้ยังมีเสาไฟฟ้าอยู่เลย หลายๆเมืองใหญ่เค้าเอาลงใต้ดินหมดแล้วนะ

รอบข้างทางก็มีดอกไม้สวยๆเป็นระยะเลย ได้ฝนชุ่มฉ่ำมาทั้งคืนด้วยสิ

ข้ามคลองระหว่างเมือง สายน้ำเชี่ยวกรากมากๆ

ใช้เวลาเดินประมาณ 12 นาทีก็เดินมาถึงสถานี Nishitetsu-Futsukaichi จนได้

ไปหยอดเงินซื้อตั๋วโดยสารรถไฟก่อนแล้วค่อยเข้าไปข้างในสถานี

ค่าโดยสารจากสถานีนี้ไปลงที่สถานี Dazaifu ราคา 150 เยน

ดูป้ายแล้วก็เดินไปชานชาลาที่ 1 ที่รถไฟจะมาจอดเทียบชานชาลา

รถไฟสาย Dazaifu Line ที่วิ่งรับส่งเพียง 2 สถานีนั้นจอดรออยู่ที่ชานชาลาแล้ว

ลวดลายของรถไฟขบวนนี้ก็เป็นเอกลักษณ์พิเศษที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์และความเป็นเมืองเก่าแก่ของดะไซฟุ

จากสถานี Nishitetsu-Futsukaichi เรานั่งรถไฟ Nishitetsu สาย Dazaifu Line (วิ่งระหว่างสถานีนิชิเท็ตสึฟุทสึกะอิจิ-สถานีดะไซฟุเท่านั้น ผ่านทั้งหมด 3 สถานี) มาถึงสถานี Dazaifu ใช้เวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้น

เดินออกจากรถไฟไปทางออกกันเลย

หน้าทางออกมี Tourists Information Center ด้วยนะ ไม่ธรรมดาๆ

เดินออกมานอกสถานีแล้ว มีป้ายบอกทางไปศาลจ้าวดาไซฟุบอกอยู่แล้ว

หน้าสถานี Dazaifu ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูขมุกขมัวเพราะฝนเพิ่งจะหยุดตกได้ไม่นานนัก

ตามแผนที่ เดินออกจากสถานี Dazaifu แล้วก็เดินตรงไปตามทางย่านร้านค้าไม่ไกลเท่าไหร่ก็ถึงศาลเจ้าดะไซฟุแล้ว

เดินตรงออกมาจากสถานีรถไฟ

มีป้ายบอกทางก็มุ่งหน้าไปตามนั้นเลย

เดินตรงผ่านย่านร้านค้าซึ่งเป็นถนนทางเข้าสู่ศาลเจ้าดะไซฟุ

เดินมาเรื่อยๆก็เจอเสาโทริอิหิน บ่งบอกว่าเป็นทางเข้าสู่ศาลเจ้า

เดินผ่านหน้าร้าน Starbucks ในตำนานที่เค้าร่ำลือกันในเน็ต ซึ่งเป็นร้านที่ตกแต่งหน้าร้านด้วยไม้หน้าสาม ดูเก๋ๆ

เป็นการออกแบบที่สุดยอดมากนะ คิดได้ไงเนี่ย ชอบๆ

มาถึงบริเวณหน้าทางเข้าศาลเจ้าแล้ว

ทางซ้ายมือนี้จะมุ่งหน้าไปศาลเจ้าดะไซฟุ ส่วนทางขวามือนั้นจะมุ่งหน้าไปวัดโคเมียวเซ็นจิ เราไปทางซ้ายมือก่อนเพราะสำคัญกว่า

เดินข้ามสะพานโค้งสีแดงนี้ไป 3 สะพาน สะพานข้ามทั้ง 3 ช่วงที่แบ่งเป็นอดีต,ปัจจุบันและอนาคต พอฝนหยุดล่ะก็ได้เห็นนักท่องเที่ยวทยอยกันมาเรื่อยๆ

ในสระน้ำนั้นมีปลาคาร์ฟตัวเบ้อเริ่มอยู่เยอะแยะเลย สำหรับสระน้ำนี้ถูกออกแบบมาเป็นตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า "หัวใจ" ด้วย

บรรยากาศความร่มรื่นภายในศาลเจ้า

มาถึงประตูฌานทางเข้าสู่ศาลเจ้าดะไซฟุแล้ว

มีวัวตัวนี้เฝ้าประตูอยู่ด้วยล่ะ

ถ้าได้แตะสัมผัสจะมีความโชคดีล่ะ!

เดินผ่านประตูเข้าไปข้างใน

และเราก็มายืนอยู่ตรงหน้าศาลเจ้าดะไซฟุที่มีอายุพันกว่าปีแล้ว

เป็นสถานที่แรกที่ได้มาเที่ยวที่เกาะคิวชูเลยล่ะ

ศาลเจ้าดะไซฟุ หรือ Dazaifu Tenmagu Shrine นั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อพันปีที่แล้วโดยเป็นที่ทำการของรัฐบาลประจำจังหวัดชิกุเซ็นมาก่อน แต่สุดท้ายได้มีเรื่องราวตำนานของสุกะวะระเทพแห่งการเรียนรู้ ก็เลยได้กลายมาเป็นศาลเจ้า และมีนักเรียนนักศึกษามาขอพรให้ประสบความสำเร็จในการสอบปีละหลายแสนคน

ได้เห็นนักบวชกำลังสวดมนตร์อยู่พอดี เสียงงึมงำๆดังออกมาจนคนที่ยืนรอบนอกก็ยังได้ยิน

มีร้านเช่าเครื่องรางของขลังต่างๆของศาลเจ้า คิวยาวเหมือนกันเพราะที่นี่เค้าดังจริง

เดินเล่นรอบๆศาลเจ้า ไปเจอว่าหลังศาลเจ้ามีพวงน้ำเต้าอยู่เพียบเลย

พวงน้ำเต้าจำนวนมาก

ความเป็นที่นิยมของศาลเจ้านี้มีมากแค่ไหน ลองดูจำนวนผู้คนที่เดินทางมาสักการะเอาได้เลย

หลังจากเราเช่าเครื่องรางเสร็จ(เอากับเค้าด้วย)ก็เดินกลับมาทางเก่า

หันกลับไปทางศาลเจ้าที่เพิ่งจะเดินจากมา กลายเป็นถนนโล่งเพราะคนไปแออัดกันอยู่ในบริเวณข้างใน

กลับมาถึงตรงทางแยกข้างหน้าทางเข้า

เดินเลยมาทางฝั่งวัดโคเมียวเซ้นจิ ตรงนี้ดูเงียบเชียบจริงๆ สงสัยคนเค้าไปทางศาลเจ้าดะไซฟุกันหมด

เดินซื้อของฝากและของที่ระลึก ก่อนจะกลับมาที่สถานี Dazaifu อีกครั้ง เราเปลี่ยนแผนนิดหน่อยด้วยความที่ขี้เกียจเดินไกล เลยกะจะนั่งรถไฟ Nishitetsu ไปต่อรถไฟลงสถานี Murasaki ที่อยู่ใกล้กับสถานี Futsukaichi มากกว่าสถานี Nishitetsu-Futsukaichi เสียค่าโดยสาร 200 เยน แพงกว่าแค่ 50 เยนแต่เดินสั้นกว่ากันเยอะเลย

เสียบตั๋วแล้วเดินเข้ามาภายในสถานีรถไฟ

เดินไปที่ชานชาลาเพื่อรอรถไฟกลับ

ขากลับได้นั่งรถไฟแบบธรรมดาล่ะ ไม่ได้มีลวดลายพิเศษอะไร

นั่งรถไฟ Nishitetsu สาย Dazaifu Line จากสถานี Dazaifu กลับมาลงที่สถานี Nishitetsu-Futsukaichi เดี๋ยวจะต้องต่อรถไฟ Nishitetsu สาย Tenjin-Omuta Line ไปอีก 1 สถานีเพื่อลงที่สถานี Murasaki

ถึงสถานี Nishitetsu-Futsukaichi เดินไปรอต่อรถไฟที่ชานชาลาของสาย Tenjin-Omuta Line

รถไฟมาแล้ว คนยังคงใช้บริการน้อยอยู่เหมือนเดิม

ใช้เวลาแค่นาทีเดียว เราก็มาถึงสถานี Murasaki แล้ว

เดินออกมาจากสถานีรถไฟ เลี้ยวไปทางซ้ายแล้วเดินตรงไปตามทาง มีป้ายบอกทางเดินไปสถานี Futsukaichi เรื่อยๆ ซึ่งมันก็บอกให้ตรงและตรงอย่างเดียว

รีบเดินจนกลับมาถคงสถานี Futsukaichi อีกครั้ง ที่รีบเดินเพราะเราดูเวลารถไฟรอบกลับไว้ มันเหลืออีก 5 นาทีรถไฟจะมา ซึ่งสุดท้ายก็มาถึงก่อนรถไฟจะมา 2 นาทีแน่ะ

และเราก็นั่งรถไฟ JR สาย Kagoshima Line Rapid ขบวนเดิมกลับสถานี Hakata

กลับมาถึงสถานี Hakata เกือบๆบ่าย 2 โมงได้ มีเวลาให้เที่ยวในเมืองอีกเหลือเฟือเลยนะเนี่ย

เดี๋ยวต่อไปจะเป็นแพลนท่องเที่ยวในเมืองฟุคุโอกะ ซึ่งเราว่าจะไปดูซากุระบานที่สวนโอโฮริและสวนปราสาทไมสุรุ ช่วงเวลานี้ซากุระกำลังจะเริ่มบานพีคแล้ว อยากรู้จังว่าจะสวยขนาดไหน เดี๋ยวเอาไว้เล่าต่อใน Part 2 นะ!

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page