top of page

2014.03.30 Japan Trip #6 Day10 - Kumamoto


วันที่ 10 ของทริปนี้แล้ว จรลีจากเบปปุไปที่คุมะโมโตะ เราจะไปเยี่ยมเยียนบ้านเกิดของเจ้าหมีคุมะมง วางแพลนไว้ว่าจะไปเดินดูซากุระที่ปราสาทคุมะโมโตะ ปราสาทคุมะโมโตะก็เป็นอีกหนึ่งปราสาทที่เราอยากไปเยือนมานานแล้วด้วย

เริ่มต้นวันท่ามกลางความเปียกของฝนที่ตกมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ฝนเพิ่งหยุดหมาดๆตอน 8 โมงเช้าเลย เดินจากที่พักไปที่สถานี Beppu

ตอนแรกที่จะจองที่นั่งรถไฟไปคุมะโมโตะนั้น เราตั้งใจจะนั่งรถไฟ Limited Express Sonic ไปต่อรถไฟชินคังเซ็นที่สถานี Kokura แต่ตอนจองคราวนี้เราใช้ JR North Kyushu Pass แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถใช้จองนั่งได้นะ ตอนนั้นก็อึ้งนิดๆ กำลังคิดว่าแล้วงี้กูทำยังไงดีล่ะเนี่ย เจ้าหน้าที่เค้าก็ช่วยเหลือด้วยการหารอบรถไฟชินคังเซ็นอื่นให้โดยไปขึ้นรถไฟที่สถานี Hakata มาลองหาข้อมูลทีหลังจึงได้รู้ว่า JR Kyushu Pass นี่ ใช้จองที่นั่งรถไฟชินคังเซ็นระหว่างสถานี Kokura กับสถานี Hakata ไม่ได้นั่นเอง เค้าเลยจองให้ไปขึ้นรถไฟชินคังเซ็นที่สถานี Hakata เอาแทน

แต่ก่อนจะไปต่อรถไฟชินคังเซ็น เราต้องนั่งรถไฟ Limited Express Sonic ขบวนนี้จากสถานี Beppu ไปลงที่สถานี Hakata ซะก่อน

รถไฟ Limited Express Sonic ที่เรานั่งในวันนี้เป็นที่นั่งแบบ non-reserved นะ เพราะว่าเมื่อคืนมาจองที่นั่งแบบ reserved ไม่ทัน เต็มเร็วมาก! ถ้านั่งจากโออิตะคงได้นั่งแน่ๆ แต่พอมาเริ่มต้นที่เบปปุเลยตุ๊มๆต่อมๆเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ได้นั่ง แต่ที่นั่งเต็มเอี้ยดจนต้องมีคนยืนเลยล่ะ

ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงจากสถานี Beppu ก็มาถึงสถานี Hakata กลับมาเยือนที่ที่คุ้นเคยจนได้

เดี๋ยวจะต่อรถไฟชินคังเซ็นจากที่สถานี Hakata ไปลงที่สถานี Kumamoto ต่อ จองที่นั่งรถไฟไว้เรียบร้อย ขานั่งไปได้นั่งเป็นรถไฟ Shinkansen Mizuho ส่วนขานั่งกลับได้นั่งรถไฟ Shinkansen Tsubame ทั้งสองสายนี้เรายังไม่เคยนั่งมาก่อนเลย ที่เคยนั่งมาแล้วคือ Shinkansen Sakura น่ะ

ยืนรอรถไฟที่ชานชาลา จองที่นั่งได้ตู้รถหมายเลข 8

รถไฟชินคังเซ็นขบวน Mizuho มารับแล้วๆ รถโมเดลเดียวกับ Sakura เด๊ะๆเลย

กินข้าวกล่องบนรถไฟอีกวัน กราแต็งชีส

เรานั่งรถไฟ Shinkansen Mizuho 603 ออกจากสถานี Hakata เวลา 10.20 น. มาถึงสถานี Kumamoto เวลา 10.53 น. ใช้เวลาแค่ 33 นาทีเท่านั้นเอง

พอเดินลงมาในสถานี เจอผลิตภัณฑ์หมีคุมะมงเต็มไปหมด..

แม้แต่ของฝากก็ทำแพ๊คเกจเป็นหมีคุมะมงทั้งนั้นเลย 555+

กะจะมาหาตู้ Coin Locker เพื่อฝากกระเป๋าสัมภาระที่หิ้วไปค้างแรมที่ยุฟุอินและเบปปุซะหน่อย ปรากฏว่าในวันที่เป็นเทศกาลมัทสึริต่างๆแบบนี้ Coin Locker เต็มหมดเรียบเลย.. เราก็เลยจำใจต้องหอบกะเตงกระเป๋าไปเดินเที่ยวในเมืองด้วย การเดินทางในเมืองคุมะโมโตะนั้นเราเลือกใช้บริการรถรางประจำเมือง เดินมาหน้าสถานีรถไฟก็จะเห็นสถานีของรถรางอยู่ไม่ไกล เดี๋ยวจะนั่งรถรางนี้เข้าเมืองไปเที่ยวปราสาทคุมะโมโตะ

รถรางที่จะนั่งไปเป็นรถราง route A ค่าโดยสาร 150 เยนตลอดสาย รถรางสายนี้จะผ่านสถานที่ที่เราจะไปในวันนี้ทั้งหมดเลย ได้แก่ ปราสาทคุมะโมโตะและถนนชอปปิ้งทั้งสองคือ Shimotori Shopping Area และ Kamitori Shopping Area

นั่งรถรางจากหน้าสถานี Kumamoto ไปลงที่ป้ายสถานี Hanabatacho หรือป้ายสถานี Kumamotojo Shiyakushomae ก็ได้ เนื่องจากมันเดินเข้าสู่บริเวณปราสาทได้เหมือนกัน แต่ถ้าลงที่ Hanabatacho ก็จะใกล้กับทางเข้าถนนชอปปิ้งมากกว่า

เดินผ่านตรงริมกำแพงปราสาทเห็นมีการแสดงพอดี บอกแล้วว่ามาช่วงมัทสึริจริงๆ

เดินผ่านสะพานข้ามคลองที่ล้อมรอบสวนปราสาทคุมะโมโตะ

ฝั่งที่เดินผ่านมาเมื่อครู่นี้มีซุ้มขายของกินเพียบเลย สมกับเป็นช่วงเทศกาลชมดอกซากุระจริงๆ

แค่เพียงเริ่มเดินเข้าสู่บริเวณสวนปราสาทก็เจอผู้คนเยอะขนาดนี้แล้ว..

เดินเข้ามาถึงก็เจอซากุระบานและกลุ่มผู้คนที่มานั่งชมดอกไม้

จากตรงจุดชมซากุระตรงทางเข้าปราสาทนี้ก็จะเห็นอาคารหอสังเกตการณ์ของปราสาทได้ ใกล้ๆกันนั้นคงกำลังมีการบูรณะบางอย่างอยู่

จากนั้นเราก็เดินไปตามทางต่อเรื่อยๆ เพื่อจะไปให้ถึงบริเวณทางเข้าของปราสาทคุมะโมโตะ ช่วงนี้เป็นเทศกาลชมดอกซากุระบาน รถราที่เข้ามาก็จะเยอะหน่อยแบบนี้

แบกกระเป๋ากระเตงไปเที่ยวด้วยตลอดทาง ดูเป็นคนบ้าหอบฟางนะ 555+

กลีบดอกซากุระที่ร่วงโรยลงมาอยู่บ้าง แต่บนต้นก็ยังสวยอยู่นะ!

ทางนี้เป็นทางเข้าของรถยนต์ น่าจะเป็นที่จอดรถมั้ง

กลีบซากุระอยู่เต็มพื้นถนนเลย ดูสวยไปอีกแบบ

เข้าไปเดินเล่นซะหน่อย เผื่อจะมีอะไรน่าสนใจให้ทำ

เราเดินตรงไปตามถนนต่อเรื่อยๆ อีกนิดนึงก็จะเจอทางเข้าปราสาทซึ่งต้องจ่ายค่าเข้าชมเสียก่อน

ชำระค่าเข้าชมที่หน้าทางเข้า เราจะเข้าชมแค่ปราสาทคุมะโมโตะ เลยจ่ายค่าเข้าชม 500 เยนอย่างเดียว

ได้รับตั๋วเข้าชมปราสาทมาแล้วๆ

แล้วก็หยิบใบแพมเพ็ทจากตรงที่ขายตั๋วเข้าชมหน้าทางเข้ามาอ่านเล่นด้วย

เดินเข้ามาจากทางเข้าก็เห็นปราสาทอยู่ตรงหน้าไกลๆ

เป็นปราสาทที่สวยสมคำร่ำลือจริงๆ นี่มันเป็น Top5 ของประเทศญี่ปุ่นเลยนะ!

ในที่สุดก็ได้มาเยือนปราสาทคุมะโมโตะแล้ว!

ใกล้ๆบริเวณปราสาทก็มีต้นซากุระที่กำลังบานอยู่ประปราย ให้พอได้ถ่ายรูปเล่นได้

ปราสาทคุมะโมโตะกับซากุระบานก็เป็นอะไรที่พิเศษดีเหมือนกัน

ได้มาเยือนในช่วงเทศกาลชมซากุระก็เหมือนได้โบนัสพิเศษแถมกลับบ้านนั่นแล

จะเข้าชมปราสาทต้องเดินทะลุข้างใต้ปราสาทเข้าไปยังบริเวณลานด้านในเสียก่อน

ทางเดินข้างใต้ที่อ้อมไปยังด้านหน้าปราสาทและห้องโถงต่างๆได้

กลับขึ้นมาข้างบนอีกครั้ง จะเห็นบันไดทางเดินขึ้นสู่ปราสาท

ก่อนจะเดินเข้าไปชมปราสาทข้างใน ขอเดินมาถ่ายรูปเล่นตรงมุมหน้าปราสาทก่อนละกัน

นั่งถ่ายรูปคู่กับฮิโคมะรุคุง มาสคอตของปราสาทคุมะโมโตะ

ข้างบนหอคอยปราสาทจะเป็นจุดชมวิวเมือง แน่นอนว่าคนเยอะ.. วันหยุดแรกของเทศกาลชมซากุระนี่นะ

เดินขึ้นไปชมปราสาทข้างในกันต่อเลยๆ

ชั้นล่างๆก็จะเป็นการจัดแสดงนิทรรศการ ชมประวัติความเป็นมาและสิ่งของที่เป็นโบราณวัตถุต่างๆ

แล้วก็เดินมุ่งหน้าขึ้นสู่จุดชมวิวที่คนเยอะมากเลยวันนี้

จากบนนี้เห็นวิวเมืองคุมะโมโตะได้กว้างไกลดีจริง

นักท่องเที่ยวยังคงทยอยกันเข้ามาชมปราสาทกันอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน

เดินกลับลงมาข้างล่างอีกครั้ง

ยังประทับใจวิวปราสาทกับซากุระบานมาก

ขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี

จริงๆแล้วรอบๆบริเวณปราสาทนั้นมีจุดชมซากุระอยู่หลายจุดเลยด้วยนะ เดินไปมุมไหนก็จะเจอผู้คนที่มายืนชมวิวและถ่ายรูปกันทั้งนั้น

เสร็จจากการเข้าชมปราสาทคุมะโมโตะแล้ว เดินกลับออกไปอีกทางตรงที่เป็นที่จอดรถ มันมีทางลงไปข้างล่างบริเวณโซนร้านอาหารและของฝาก

เจอนักแสดงในงานมัทสึริเพียบเลย ยิ่งทำให้เหมือนคนเยอะเข้าไปใหญ่

เดินมาถึงโซนของกินของฝากแล้ว

ดูจากแผนที่แล้วก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนะ แต่ก็ไปเดินเล่นซักนิดละกัน

มีร้านอาหารและร้านของฝากต่างๆให้ได้กินได้จับจ่าย

คงเป็นช่วงเวลาเที่ยงก็เลยแลดูคนเยอะเป็นพิเศษตามร้านอาหาร

อ๊ะ! เดินมาเจอเจ้าถิ่นอย่างหมีคุมะมงจนได้!

และเราก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปคู่ด้วย 555+

เดินออกมาแล้ว เดี๋ยวจะมุ่งหน้าไปถนนชอปปิ้งต่อ

เดินออกมาสถานีรถราง Hanabatacho ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เดินอีกนิดก็ถึงทางเข้าถนนชอปปิ้ง Shimotori Shopping Area แล้ว

พอข้ามถนนมา ถนนที่เราเดินเข้าไปชื่อว่าถนนกินซ่า

ฝาท่อที่คุมะโมโตะนี้จะมีหลายลายกระจายอยู่ตามถนนต่างๆ

อย่างที่เราเดินผ่านแล้วเห็นอันนี้เป็นหนึ่งในหกลายนั้น

มาถึงทางเข้า Shimotori Shopping Area แล้ว

ยังคงเจอการแสดงกระจายอยู่แถวๆย่านการค้าด้วย

มีร้าน animate อยู่ที่นี่ด้วยแฮะ

เดินมาจนสุดถนน ฝั่งตรงข้ามยังมีถนนชอปปิ้งอีกที่นึงคือ Kamitori Shopping Area ด้วย ไปเดินกันต่อๆ

กระเป๋าคุมะมงใบนี้น่าซื้อจัง

สินค้าเกี่ยวกับคุมะมงมีขายอยู่เยอะมากๆเลยล่ะ ใครชอบคุมะมงคงจะฟินมากๆ

เดินชอปปิ้งเพลินจนลืมไปว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย เปิดดูในเว็บมีร้านราเม็ง recommend อยู่ใกล้ๆ Kamitori Shopping Area

ดูรูปประกอบแล้วน่าสนมาก!

คุมะโมโตะราเม็งรสชาติอร่อยสุดยอดจริงๆ

กินอิ่มแล้วก็เดินย้อนกลับมาที่ Shimotori Shopping Area อีกครั้ง

พอดีว่าฝากกระเป๋าไว้ในห้างเพื่อจะได้เดินชอปปิ้งตัวปลิว ก่อนกลับก็เลยต้องไปเอากระเป๋าที่ห้าง PARCO ก่อน

เดินไปขึ้นรถรางกลับสถานี Kumamoto ที่ป้ายสถานี Torichosuji ที่อยู่บนถนนระหว่างถนนชอปปิ้งทั้งสอง คนเยอะเหมือนกัน ต่อคิวกว่าจะได้ขึ้นก็กินเวลาไปเป็นสิบนาทีเลย

กลับมาลงรถรางที่หน้าสถานี Kumamoto แล้วก็เดินเข้าสู่สถานีรถไฟ

จองตั๋วรถไฟขากลับ ขบวน Sakura ที่ไปสุดสายที่สถานี Shin-Osaka นี่เต็มเอี้ยดไปหมดแล้ว เหลือแต่ขบวน Tsubame ที่ไปสุดสายที่สถานี Hakata เราจะไปลงที่สถานี Hakata ก็เลยไม่ได้เดือดร้อนอะไร

เดินดูของฝากเสร็จก็ขึ้นไปยืนรอรถไฟ ขบวนที่เราจะนั่งกลับคือ Shinkansen Tsubame 338 จะออกจากสถานี Kumamoto เวลา 18.04 น. ไปถึงสถานี Hakata เวลา 18.52 น.

ภายในตู้รถโล่งมากกกกกก แทบอยากนอนเหยียดยาวซักแถว!

กลับมาถึงฟุคุโอกะเป็นที่เรียบร้อย เราเดินกลับไปเช็คอินพร้อมทั้งเก็บกระเป๋าที่ที่พักที่เดิมคือ Khaosan Annex Fukuoka ก่อน ได้ห้องพักห้องเดิมเลยด้วย 555+

เก็บของที่ห้องพักเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาที่สถานี Hakata เพื่อชอปปิ้งต่อ ใต้สถานีนั้นเป็นห้าง Amu ล่ะ ชอปเพลินแน่งานนี้!

แต่ว่าก่อนอื่นขอเดินเลยไปร้าน Book-Off ร้านซีดีมือสองที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีเท่าไหร่นักก่อน แม้แผ่นซีดีไอด้อลของที่นี่จะมีไม่เยอะ แต่ก็ทำให้เราหมดไปหลายพันเยนได้เหมือนกัน..

จากนั้นก็เดินกลับมาเข้าห้าง Amu ตรงสถานีฮะคะตะ ที่นี่มีห้าง Tokyu Hands ตั้งแต่ชั้น 1-5 เลย มีสินค้าทีมเบสบอล Hawks ขายด้วยล่ะ

ชั้น 8 ก็มีร้าน Tower Records ด้วย แผ่นไอด้อลภาคใต้เพียบเลย เวลาของการเสียเงินเป็นหมื่นของแท้..

ได้เวลากินมื้อเย็นก่อนห้างจะปิดและ งวดนี้ยังไม่ได้กินข้าวหน้าปลาไหลเลย ขอจัดซักมื้อละกันนะ!

ข้าวหน้าปลาไหลเซ็ตนี้ 2,400 เยน ดูน้อยไปหน่อยแต่รสชาติก็โอเคนะ เป็นการปิดวันที่ฟินใช้ได้เลย กินอิ่มนอนหลับฝันดีแล้วล่ะคืนนี้

พรุ่งนี้จะเป็นวันเที่ยววันสุดท้ายของเราในทริปนี้ เราจะไปเที่ยวที่จังหวัดนะงะซะกิ มีแพลนว่าจะไปชมซากุระบานด้วย แล้วก็ไปเยี่ยมชมสวนสันติภาพ Peace Memorial Park ปิดท้ายด้วยชมวิวเมืองยามค่าคืน เป็นอีกวันที่แพลนอัดแน่น แต่ไหนๆก็วันสุดท้ายละ สู้ตาย!

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page