top of page

2014.03.31 Japan Trip #6 Day11 Part1 - Omura,Nagasaki


วันที่ 11 ของทริปตะลุยจูโกกุ-ชิโกกุ-คิวชูแล้วนะ และก็เป็นวันเที่ยววันสุดท้ายด้วยเพราะพรุ่งนี้จะกลับไทยแล้ว วันนี้เรามีแพลนเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดนะงะซะกิ เมืองประวัติศาสตร์อีกเมืองที่เคยถูกระเบิดนิวเคลียร์ถล่มเมื่อ 70 ปีก่อน เพราะงั้นก็คงมีอนุสรณ์สถานให้ระลึกถึงอยู่มากมาย แต่จุดที่เราชอบที่สุดคือการไปชมวิวเมืองยามค่ำคืนบนเขาอินะสะ และแน่นอนว่าเราจะไม่พลาดการไปชมซากุระสวยๆของนะงะซะกิด้วย

ยังคงเริ่มต้นวันกันที่สถานี Hakata เช่นเคย วันนี้เราวางโปรแกรมไว้ว่าจะเดินทางไปเยือนเมืองโอมุระกับนะงะซะกิล่ะ โดยจะแวะไปเดินชมซากุระบานที่สวนโอมุระก่อน เมืองโอมุระเป็นทางผ่านและอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองนะงะซะกิเท่าไหร่นัก ก็ไม่น่ามีปัญหาเกี่ยวกับการเดินทางเนอะ

เส้นทางสู่จังหวัดนะงะซะกิในวันนี้ เราจะได้นั่งรถไฟ Limited Express Kamome ที่เป็นรถไฟที่วิ่งระหว่างฟุคุโอกะ-นางาซากิ ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 50 นาที หรือเกือบๆ 2 ชั่วโมง แต่ขาไปเราจะไปลงที่สถานี Isahaya เพื่อต่อรถไฟไปลงที่สถานี Omura แล้วค่อยนั่งรถไฟจากโอมุระไปนะงะซะกิอีกที ส่วนขากลับก็ยิงยาวจากนะงะซะกิกลับฟุคุโอกะ และวันนี้คงได้ใช้ JR North Kyushu Pass วันสุดท้าย ทั้งที่จริงๆแล้วใช้พรุ่งนี้ได้อีกวัน แต่พรุ่งนี้คงไม่ได้ไปเที่ยวไหนนอกเมืองแล้วน่ะ

เราจองที่นั่งของรถไฟ Limited Express Kamome 7 เอาไว้ รถไฟจะออกจากสถานี Hakata เวลา 7.54 น. จะไปถึงสถานี Isahaya เวลา 9.30 น.

อย่างที่บอกไปว่ารถไฟด่วนขบวนนี้ไปถึงสถานี Nagasaki แต่เราจะลงกลางทางเพื่อไปเที่ยวชมซากุระบานซะก่อน

ที่นั่งภายในรถ นั่งกินๆนอนๆกันยาวๆไป

และก็เช่นเคยเหมือนที่ทำมาทุกๆวัน ซื้อข้าวกล่องมากินบนรถไฟ วันนี้ยกให้เป็นวันของสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า

มาถึงสถานี Isahaya แล้ว ความสนุกกำลังจะบังเกิดขึ้นเพราะว่ามีเวลาให้วิ่งไปต่อรถไฟ JR สาย Seaside Liner เพื่อนั่งไปลงสถานี Omura ต่อซึ่งมีเวลาต่อรถไฟแค่ 3 นาทีเท่านั้นเอง!

แต่ปรากฏว่ารถไฟเค้าออกจากชานชาลาเลทให้ล่ะ.. กระเตงอุปกรณ์การถ่ายรูปไปขึ้นรถไฟที่จอดแช่รอรับอยู่แล้ว

ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็ถึงสถานี Omura แล้ว ก่อนจะขึ้นรถไฟขบวนนี้ควรเช็คตารางรถไฟสายนี้ให้ดีๆนะ เพราะมันมีสายเสริมไปนู่นนี่หลายจุดหมายปลายทางเหมือนกัน แต่ถ้านั่งสั้่นๆแบบเรามาโอมุระแบบนี้ก็ไม่มีปัญหา ปัญหาสำคัญของรถไฟคิวชูคือรถไฟมักจะเลทด้วยสาเหตุบางประการซะมากกว่า..

สถานี Omura อีกหนึ่งสถานีโลค่อลที่ได้มีโอกาสแวะในทริปนี้

เดินมุ่งหน้าไปยังทางออกสถานี รีบทำเวลากันเถอะๆ

ดูจากแผนที่ น่าจะใช้เวลาเดินไปถึงสวนโอมุระประมาณ 15-20 นาทีได้ ต้องรีบทำเวลาแล้วกลับมาให้ทันรถไฟไปนะงะซะกิ พลาดไม่ได้เพราะรถไฟมันมีชั่วโมงละขบวนเอง และจากที่ได้ติดตามเพจนะงะซะกิของพี่เอ๊ะละอองฟอง เค้าบอกว่าช่วงนี้ซากุระที่สวนโอมุระกำลังสวย เป็นช่วงเริ่มเทศกาลชมซากุระของที่นี่เลยด้วย

ระหว่างทางก็เดินผ่านย่านการค้าเล็กของเมืองด้วย

เดินตามแผนที่มาจนถึงถนนที่อยู่ติดทะเล ข้างหน้านั่นคือทางเข้าสวนโอมุระ

และเราก็เดินมาถึงหน้าสวนโอมุระแล้ว

แค่เดินเข้ามาก็เจอซากุระเป็นทิวแถวอยู่ข้างหน้าแล้ว!

หน้าทางเข้ามีการจัดดอกไม้สวยๆด้วยนะ เพราะว่านอกจากเทศกาลชมซากุระแล้ว ยังจะมีเทศกาลชมดอกไม้อื่นๆภายในสวนด้วยล่ะ เดี๋ยวเราจะพาเดินไปดูข้างในนะ!

"ยินดีต้อนรับสู่เมืองโอมุระ"

เห็นข้างหน้าทางเข้ากำลังมีการตั้งเต๊นท์ ก็น่าจะเป็นซุ้มกิจกรรมของงานเทศกาล

ดูแผนที่ของเมืองโอมุระ จริงๆก็มีหลายจุดที่น่าเดินไปถ่ายรูปเล่นนะ แต่พอดีเวลามีจำกัดก็เลยได้อยู่แค่แถวๆนี้

เริ่มเดินเข้ามาชมซากุระภายในสวนโอมุระ

"ซากุระแห่งโอมุระ" เค้าบอกว่าจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของการชมซากุระที่นี่คือจะมีถนนอุโมงค์ซากุระเป็นลักษณะอุโมงค์คู่ คือมีถนนสองเส้นทางขนานกันไปล่ะ

หยุดแวะชมซากุระข้างทางซักหน่อย พอดีเห็นว่ากิ่งซากุระมันโน้มลงมาจนจับต้องได้

ซากุระที่กำลังบานสวย

ผ่านฟ้าฝนลมแรงมาก็หลายวัน กลีบดอกซากุระก็มีร่วงหล่นลงพื้นบ้างเป็นธรรมดา อากาศแปรปรวนมักจะทำให้ซากุระโรยเร็วกว่ากำหนด

เดินข้ามสะพานผ่านบึงน้ำกลางสวนไปตามทาง

ดูเหมือนจะเริ่มเทศกาลชมดอกไม้กันแล้วนะ มีซุ้มขายของกินเพียบเลยตรงนั้น

และนี่ก็คืออุโมงค์ซากุระคู่ที่เป็นจุดเด่นเฉพาะของสวนโอมุระแห่งนี้ มีกลีบซากุระปลิวผ่านเป็นระยะๆ ประทับใจมาก บรรยากาศมันดีสุดๆเลย

เราเดินมาถึงทางเข้าของซากปราสาทคุชิมะแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปดูข้างในนะ อยากดื่มด่ำกับซากุระรอบๆมากกว่า ที่สำคัญคือมีเวลาจำกัดด้วย ถือซะว่าเป็นของแถมในสวนโอมุระก็แล้วกัน

เดี๋ยวจะเดินไปทางนั้น ที่มีทุ่งดอกไอริสนั่นล่ะ

อย่างที่เราเกริ่นไว้ตอนแรกว่าที่นี่มีดอกไม้อื่นๆให้ชมด้วยนั่นก็คือดอกไอริส ซึ่งในตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาบาน ต้องเป็นช่วงเดือนหน้าไปน่ะ

เดินมาตามทางเพื่อชมซากุระริมกำแพงปราสาท ตรงนั้นเป็นหอสังเกตการณ์ที่หลงเหลืออยู่ของปราสาท มุมนี้เป็นมุมนิยมที่ทุกคนที่มาเที่ยวต้องมาถ่ายรูป

ไกลๆตรงนู้นก็เป็นทะเล สวนโอมุระอยู่ติดทะเลมากๆเลยนะเนี่ย

เงยหน้ามองซากุระที่อยู่ใต้กำแพงปราสาท

ดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อจริงๆนะ

อีกหนึ่งสวนที่มีซากุระสวยๆให้ชม บรรยากาศดีมากเลย เราแนะนำนะทุกคน

หลังจากถ่ายรูปเล่นจนเพลิน ก็ได้เวลาเดินกลับและ เดี๋ยวจะกลับไปไม่ทันรถไฟจะแย่เอา

เดินกลับมาทางหน้าทางเข้าชมปราสาท

แล้วก็มาเดินผ่านอุโมงค์ซากุระคู่เป็นทางขากลับ

บรรยากาศมันดีมากจริงๆให้ตายสิ! อยากอยู่ตรงนี้นานๆจัง 555+

ออกมาถึงด้านหน้าทางเข้าอีกทางนึง มีจุดที่ให้สำหรับนั่งชมซากุระบานด้วย

ป้ายเชิญชวนเข้ามาชมอุโมงค์ซากุระในสวนโอมุระ เป็นทางเข้าของรถยนต์

ตรงนี้คือทางเดินด้านหน้าสวนโอมุระที่ติดกับถนน คือเราเดินเข้าอีกฝั่งแล้วมาออกฝั่งอุโมงค์ซากุระ เลยต้องเดินผ่านเลาะสวนกลับมาฝั่งทางเดินข้างหน้า

เลยลัคกี้ได้ถ่ายรูปซากุระเล่นท่ามกลางลมพัดเย็นฉ่ำปอด ซากุระที่นี่สวยจริงๆนั่นล่ะ

เลาะมาจนถึงหน้าทางที่เราเดินเข้าสวนโอมุระในตอนแรก แล้วก็เดินมุ่งหน้ากลับสถานี Omura เลย รีบจ้ำเข้าเพราะเดี๋ยวจะไปถึงไม่ทันรถไฟ

ทั้งวิ่งทั้งเดินสลับกันไป สุดท้ายกลับมาถึงสถานี Omura ทันเวลาพอดี ข้ามฝั่งไปรอรถไฟอีกฟากชานชาลา แต่รถไฟก็ดันมาเลทให้อีกเหมือนเดิม เพิ่งเคยเจอรถไฟเลทที่ญี่ปุ่นก็สายนี้นี่ล่ะ เลทกันสุดๆไปเลย เหนื่อยวิ่งฟรี 555+

บนรถไฟคนค่อนข้างเยอะนะ ดีที่มีคนลงสถานี Isahaya เยอะอยู่ ก็เลยได้สลับนั่งบ้าง ไม่งั้นคงต้องยืนไปตลอด 40 นาทีที่นั่งไปลงสุดสายที่สถานี Nagasaki เลย

เดินออกจากรถไฟมุ่งหน้าไปยังทางออกสถานี

มาถึงนะงะซะกิในเวลาเที่ยงพอดีเลย คุมเวลาเที่ยวได้ค่อนข้างดี

ที่สถานีก็มี Tourists Information Center อยู่ด้วย ภาษาอังกฤษยอดเยี่ยมเลย ใครที่จะมาเที่ยวไม่ต้องกังวลนะ

ที่นี่ก็มีห้าง Amu ตรงสถานีเหมือนกันด้วย สงสัยได้ชอปปิ้งก่อนกลับอีกวัน 555+

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ไปเที่ยวกันต่อเลย เดินข้ามสะพานลอยข้างหน้าสถานี Nagasaki เพื่อไปป้ายรถบัสที่อยู่ข้างหน้าสถานี เราจะนั่งรถบัสไปชมซากุระบานที่บนเขาทะเทะยะมะที่อยู่ชานเมืองนะงะซะกิก่อน

บนสะพานลอยก็เหมือนเป็นสวนหย่อมเลย

จุดเด่นของนะงะซะกิก็คือเมืองบนเขานี่ล่ะ มีการสร้างบ้านเรือนลดหลั่นไปตามชั้นภูเขา เหมือนเมืองในยุโรปเลยเนอะ

ก่อนมาเที่ยวทริปนี้ เราตามหาข้อมูลรถบัสของนะงะซะกิเพื่อนั่งไปสวนทะเทะยะมะซึ่งมันอยู่บนเนินเขา แปลกใจนิดๆเพราะตอนเริ่มต้น search จากรีวิวคนไทยนั้นมันไม่มีข้อมูลเรื่องรถบัสเลย.. คนไทยไปนะงะซะกิก็มีพอสมควรนะ แต่ไม่มีเอ่ยถึงสวนทะเทะยะมะมาก่อน! เราเลยลอง search หาต่อด้วยภาษาอังกฤษ ก็เจอแค่ 3 เว็บบล๊อก แต่ละอันไม่มีรูปประกอบและไม่มีคำบรรยายที่ชัดเจน คือตอนนั้นน่ะรู้แค่ว่ามันมีรถบัสแต่ว่าสายอะไรและขึ้นรถได้ที่ตรงไหนนั้นไม่รู้เลย! หนทางสุดท้ายก็คงต้องหาจากเว็บญี่ปุ่น เริ่มจากระบุต้นทาง-ปลายทาง ด้วยการ search ที่หมวดรูปใน google ก็จะเจอรถบัสมากมาย แต่เห็นรถบัสสายนึงหน้าตาคุ้นๆเหมือนรถบัสที่วิ่งผ่านอุโมงค์ซากุระในรูปโปรโมทสวนทะเทะยะมะ เป็นรถบัสสีแดงสดดูเก่าๆ นั่งไล่ไปไล่มาก็เจอรถบัสคันที่3ในเว็บรถบัสนะงะซะกิ บอกจุดหมายชัดเจนว่าผ่านที่ไหนบ้าง ก็พบว่าผ่านทั้งสถานี Nagasaki และสวนทะเทะยะมะ ใช่แน่นอน! ก็เลยเกิดเป็นภาพจำว่ารถบัสหน้าตาแบบนี้คือไปถึงสวนทะเทะยะมะ พอมันมาก็โบกขึ้นรถได้เลย

จะบอกว่าตอนแรกเราขึ้นรถบัสผิดฝั่งด้วยล่ะ ต้องลงแล้วมาขึ้นฝั่งที่ถูกต้องใหม่ 555+

นั่งไปเรื่อยๆ รถบัสก็พาขึ้นเขามาเรื่อยๆเลย จนสุดสายที่ป้ายนี้ ตรงจุดที่ลงรถคือป้าย Tateyamakoen-guchi ค่าโดยสาร 160 เยน

จากป้ายรถบัส เดินย้อนกลับไปหาทางเข้าสวนทะเทะยะมะที่อยู่ใกล้ๆ

ตรงนี้ไงที่เป็นไฮไลท์นึง คือเวลานั่งรถบัสผ่านอุโมงค์ซากุระ

เจอทางเดินชมซากุระในสวนทะเทะยะมะแล้ว!

เดินขึ้นไปชมวิวบนสวนข้างบนกันดีกว่า

ซากุระที่สวนทะเทะยะมะเป็นวิวซากุระบนเขาของนะงะซะกิ

สวนนี้เป็นที่ที่คนมาเที่ยวนะงะซะกิมักไม่ไปกัน ส่วนมากที่มาจะเป็นคนในพื้นที่ ทั้งๆที่วิวบนเขาบวกซากุระนั้นสวยงามมากแท้ๆ

ซากุระบนเขา เก๋ๆไปอีกแบบนะ!

ชอบวิวซากุระบนเขาแบบนี้จัง

มีคนมานั่งกินข้าวชมซากุระกันประปราย ส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว

เห็นซากุระสวยๆกี่ทีก็ชื่นใจจัง

เดินมาถึงบนเนินเขาของสวน เราเจอว่ามีซุ้มขายอาหารอยู่ด้วยนะ และใกล้ๆกันนั้นก็มีสวนสนุกสำหรับเด็กด้วย

เห็นซุ้มอาหารแล้วหิว ซื้อทะโกะยะกิมากินซะเลย อันนี้โรยชีสข้างบน

ส่วนอันนี้โรยเนงิแล้วใส่มายองเนส อร่อยดีๆ

มีทางเดินขึ้นไปบนจุดชมวิวด้วย ร้อนนิดๆแต่ก็ขอขึ้นมาถ่ายซักหน่อยละกัน

แดดดีท้องฟ้าสีคราม ถ่ายรูปสวยเลย

สามารถมองทะลุไปเห็นในเมืองด้านล่างนั่นด้วย

ทางเดินลงจากเนินเขามันมีหลายทาง เราเดินกลับลงมาตามทางเดินอีกฝั่งนึง

ทางเดินฝั่งนี้ก็มีซากุระสวยๆรายล้อมอยู่เช่นกัน

เดินกลับลงมาถึงถนนด้านล่างแล้วก็เดินไปตามทางอุโมงค์ซากุระ

ริมถนนนี่มองเห็นบ้านเรือนตามชั้นของภูเขา

ไม่ได้หาดูกันได้ง่ายๆนะสำหรับภูมิทัศน์การจัดวางผังเมืองตามภูเขาแบบนี้

เมืองบนภูเขาแบบนะงะซะกินี้เป็นอะไรที่เราประทับใจมากๆเลย

เดินกลับออกมารอรถบัสที่ป้ายรถเมล์ที่เดิมคือป้าย Tateyamakoen-guchi ที่เดิม

ที่ป้ายมีการเขียนว่า วันนี้คือวันที่ 31 มี.ค. จะเป็นวันสุดท้ายที่ค่าโดยสารจะเป็นราคาตามนี้ พรุ่งนี้คือวันที่ 1 เม.ย. 2014 จะมีขึ้น vat จาก 5% เป็น 8% แล้ว

ดูตารางเวลารถบัส เราต้องยืนรอประมาณ 15 นาทีแน่ะกว่ารถจะบัสจะมา..

รถบัสขับมาจอดก็ขึ้นรถ ไม่ลืมที่จะหยิบตั๋ว นั่งตั้งแต่ต้นสายรถบัสโล่งมาก นั่งสบายๆ

ใช้เวลา 15 นาที เราก็กลับมาถึงป้ายรถบัสหน้าสถานี Nagasaki อีกครั้ง

ต่อไปเราจะเดินทางไปเที่ยวที่สวนสันติภาพกลางเมืองนะงะซะกิ เดี๋ยวจะเริ่มใช้บริการรถรางของเมืองนะงะซะกิบ้างแล้ว

สำหรับ Part 1 นี้คงจบแค่เท่านี้ เดี๋ยว Part 2 จะพาชมสวนสันติภาพและขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาอินะสะ ที่ได้ชื่อว่าเป็นวิวกลางคืนที่สวยติด Top 3 ของประเทศเลยล่ะ

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page