top of page

2014.10.29 Japan Trip #7 Day7 Part1 - Geibikei

วันที่ 7 ของทริปตะลุยภูมิภาคโทโฮคุ วันนี้เรามีแพลนไปเที่ยวที่จังหวัดอิวะเตะ มีสถานที่สวยๆน่าไปอยู่หลายที่เลยนะ แต่เราเลือกมาแล้วสองที่ด้วยกัน ช่วงเช้าของวันนี้เราจะไปล่องเรือชมโตรกผาเกบิเค ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่หาไม่ง่ายในญี่ปุ่นเหมือนกันนะ ปกติจะเป็นเส้นทาง Hiking หรือขับรถผ่านกันซะมากกว่าที่จะมีนั่งเรือชมความงามธรรมชาติแบบนี้ เป็นอะไรที่ชิวมากๆ ส่วนช่วงบ่ายจะเดินทางไปเมืองฮิระอิซุมิ ที่เป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของภูมิภาคและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ.2011 โดยมีวัดจูซอนจิเป็นตัวชูโรง

อากาศวันนี้ดีมากๆ มีแดดออกทำให้รูปที่ถ่ายออกมาสวย หลังทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ เราออกจากโรงแรมที่เซ็นไดก่อน 8 โมงเช้าเพราะจองรถไฟชินคังเซ็นรอบเวลา 8.02 น. เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้

เดินมาถึงสถานี Sendai ขึ้นไปรอรถไฟที่ชานชาลาทันที เพื่อรอรถไฟไปเที่ยวที่โตรกผาเกบิเค (Geibikei Gorge)

การเดินทางเช้านี้นั้น เราจะต้องนั่งรถไฟชินคังเซ็นจากสถานี Sendai ไปลงที่สถานี Ichinoseki แล้วต่อรถไฟ local ที่สถานี Ichinoseki ไปลงที่สถานี Geibikei อีกที

ถึงกับตำแหน่งของตู้รถไฟซึ่งบอกรายละเอียดไว้ที่พื้นชานชาลาเลยนะ!

รถไฟชินคังเซ็นมาถึงแล้วจ้า

นี่คือ Yamabiko ที่เราจะนั่งไปเที่ยวเช้านี้ล่ะ

เรานั่งรถไฟ Shinkansen Yamabiko 41 ออกจากสถานี Sendai เวลา 8.02 น. จะไปถึงสถานี Ichinoseki เวลา 8.36 น. ได้นั่งตู้ที่ 10 รั้งท้ายขบวนเลย

เวลา 8.36 น. ก็มาถึงสถานี Ichinoseki แล้ว ใช้เวลาเดินทาง 34 นาทีด้วยกัน

สถานีนี้ค่อนข้างร้างนะ คนขึ้นลงรถไฟน้อย และแน่นอนว่ารถไฟชินคังเซ็นก็จอดที่สถานีนี้น้อยขบวนเช่นกัน ดังนั้นต้องดูรอบรถไฟและกะเวลาให้ดีๆ ไม่งั้นจะต้องมานั่งรออยู่ที่สถานีนี้นานจนรากงอกเอาได้

ดูเหมือนว่าที่นี่โปเกม่อนจะโด่งดังพอสมควรเลยแฮะ

มีกลองพิธีเก่าที่ตกแต่งภายในสถานี

เดี๋ยวจะต้องเดินไปต่อรถไฟ local กันต่อ

ตามแผนที่การเดินทางของเว็บไซต์ Japan-Guide นั้น จากสถานี Ichinoseki เราจะต้องต่อรถไฟ JR สาย Ofunato Line ไปลงที่สถานี Geibikei ชื่อเดียวกับที่เที่ยวนั่นล่ะ

เดินต่อรถเข้าสถานี JR แล้วลงไปรอรถไฟที่ชานชาลากันเลยๆ

สังเกตว่ารอบรถนั้นค่อนข้างน้อย อย่างสายนี้นี่มาชั่วโมงละขบวนเอง การตกรถไฟสักครั้งจะเสียเวลาชีวิตมากๆ ถึงแม้ว่าหน้าสถานีรถไฟจะมีรถบัสที่สามารถใช้บริการนั่งไปถึงเกบิเคได้เช่นกันก็ตาม แต่เราจะต้องไปเสียเงินเพิ่มทำไมทั้งๆที่เรามีบัตร JR Pass อยู่จริงมั้ยล่ะ? ดังนั้นการบริหารเวลานี่สำคัญมากๆนะ

รถไฟ JR สาย Ofunato Line ที่จะนั่งนี่เป็นรอบเวลา 9.12 น. จะออกจากสถานี Ichinoseki ไปสุดสายที่สถานี Kesennuma

รถไฟบางสายก็จะมีจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันนะ ดังนั้นเราควรจะเช็คให้ดีก่อนว่ารถไฟขบวนไหนไปสุดสายที่สถานีใดและผ่านสถานีที่เราต้องการจะลงหรือไม่ แต่ถ้าทุกขบวนนั้นผ่านสถานีที่เราจะลงอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาเลย แต่เราก็อยากจะแนะนำให้ควรเช็คเอาไว้ก่อนนะ จะเช็คจากเว็บมาก่อนหรือถามเจ้าหน้าที่สถานีก็ได้

นั่นคือรถไฟสาย Ofunato Line ล่ะ เป็นรถไฟแบบ one man หรือคือรถไฟเดี่ยวๆสั้นๆแบบนี้ เดี๋ยวจะได้นั่งรถไฟนี้ไปเกบิเคกัน

รถไฟมาจอดเทียบท่าแล้ว คนโดยสารน้อยมากเลย ที่ว่างแบบเหลือๆ

รถไฟออกจากสถานี Ichinoseki เวลา 9.12 น. มาถึงสถานี Geibikei เวลา 9.41 น. ใช้เวลาเดินทาง 29 นาที

ดูตารางเดินรถไฟขากลับเอาไว้ก่อน รอบรถไฟค่อนข้างน้อยจริงๆ ถ้าพลาดรถไฟรอบ 11.36 น. ไปนี่ต้องรอถึงเวลา 13.11 น. เลยนะ! ต้องควบคุมเวลาให้ดีหน่อยละ

พร้อมแล้วเดินลงจากชานชาลา แล้วคือแบบชานชาลาบ้านนอกมากอ่ะ รถไฟที่นั่งมาก็เป็นแบบรางเดี่ยว รถขาไปขากลับใช้รางเดียวกันสลับกันมา แล้วที่สถานีก็ไม่มีนายท่าตรวจตั๋วหรือเกทประตูกั้นด้วยนะ ลงรถไฟแล้วเดินออกเลย local แบบสุดจริงๆ

เดินลงมาปุ๊บก็เจอแผนที่ของเมืองเกบิเค จากสถานี Geibikei เดินไปทางขวาราวๆ 500 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเดินวนลงข้างล่างจะถึงท่าเรือ

เดินออกมาตามถนนที่ดูเงียบเชียบ

ริมถนนมีทางระบายน้ำ ทำให้บริเวณนี้ร่มเย็นมากๆ น่าเอาเตียงผ้าใบมากางนอนจัง 555+

เดินมาสุดทางเลี้ยวขวามา จะเห็นทางรถไฟเขียวๆข้างหน้า เดินตรงผ่านไปแล้วเลี้ยวขวาเลาะไปตามแม่น้ำ

มีป้ายบอกทางอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวหลงทางเลย

เดินตรงไปเรื่อยๆ ข้างหน้านั่นก็คือท่าเรือแล้ว

มาถึงที่ท่าเรือก่อน 10 โมง ก็ต่อคิวซื้อตั๋วล่องเรือเลย จะได้ไม่เสียเวลา

ดูจากรอบออกเรือแล้ว หลัง 10 โมงเช้าจะมีชั่วโมงละรอบเองด้วย ดีแล้วที่มาถึงทันเวลา 10 โมงเช้า

ซื้อตั๋วเสร็จเค้าแจกแผ่นพับมาให้ด้วย เจ้าหน้าที่เค้าถามด้วยว่ามาจากประเทศอะไร เผื่อว่าจะเป็นคนจีนหรือเกาหลีมั้ง คือแผ่นพับจะมีภาษาจีนกับเกาหลีด้วยน่ะ พอเราบอกว่าพวกเรามาจากไทยก็เลยได้ภาษาอังกฤษมาแทน

รอต่อคิวลงเรือแล้ว ถ้าหากว่ารอบไหนคนเยอะ อาจจะปล่อยเรือไปทีละ 2-3 ลำเลยนะ แต่ถ้ามาแบบชิวๆเรื่อยๆเหมือนวันนี้ก็ลงเรือลำเดียวก็พอ

คนโดยสารลงเรือกันครบเรียบร้อย พร้อมออกเรือได้

มีฝูงเป็ดอยู่รอบๆด้วยนะ น้องเป็ดพวกนี้นี่จะว่ายน้ำตามเรือไปด้วยนะเออ น่ารักดี

เริ่มต้นการล่องเรือชมธรรมชาติกันเลย!

ใบไม้เปลี่ยนสีรอบๆนี่สวยงามมาก

มาล่องเรือที่โตรกผาเกบิเคไปพร้อมๆกันเลย

ใบไม้เปลี่ยนสีสะท้อนกับแสงแดด มุมมองจากบนเรือ

จะเริ่มผ่านเข้าสู่โตรกผากันแล้วนะ

ริมตลิ่งทางฝั่งตรงข้ามนั่นเป็นโขกหินที่จอดเรือพักเอาไว้

เข้าสู่โตรกผาแล้วๆ แต่ละจุดก็จะมีชื่อด้วยนะ แต่เราฟังที่คุณฝีพายบรรยายไม่ค่อยออก เอาแผ่นพับมาดูก็พอกล้อมแกล้มได้บ้าง

ตรงนี้เหมือนเป็นศาลเจ้า คุณฝีพายเล่นมุขด้วยอ่ะ บอกว่าสามารถโยนเหรียญไปขอพรได้ ถ้าโยนลงนี่โชคดีมาก แต่ถ้าจะให้ดี โยนเหรียญ 500 เยนเลยนะครับ 555+

เรือค่อยๆล่องไปตามลำน้ำอย่างช้าๆ รับลมเย็นๆไปพลาง

มาถึงโค้งซ้ายข้างหน้า

แล้วรอรับด้วยโค้งขวา จะเห็นว่าแม่น้ำค่อนข้างคดเคี้ยวใช้ได้เลย

ดื่มด่ำกับบรรยากาศล่องเรือสบายๆครั้งนี้ให้เต็มที่!

และก็มาถึงวิวโตรกผาสวยๆที่เราต้องการมาชมให้ได้ซะที!

โตรกผาสูงตระหง่านที่มีใบไม้เปลี่ยนสีแซม เข้ากับท้องฟ้าสีครามในวันนี้มากๆ

ผ่านโตรกผาหินใหญ่มา ก็ใกล้จะถึงสุดทางที่สามารถล่องเรือผ่านมาได้แล้ว เดี๋ยวเรือจะไปจอดเทียบท่าตรงบริเวณเต๊นท์สีเขียวข้างหน้านั่น

คุณฝีพายที่นี่คุยเก่งมากๆ มีเรื่องเล่าให้ผู้โดยสารขำขันกันตลอดเวลา ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง(ส่วนใหญ่จะไม่ออก) แต่ก็สนุกดี

ระหว่างที่คุณฝีพายกำลังหันเรือจอดเทียบท่าอยู่ เราก็หันกลับไปถ่ายโตรกผาด้านบนของคุณลุงฝีพาย

แสงแดดที่ส่องลงมาสะท้อนกับใบไม้เปลี่ยนสี เป็นอะไรที่สวยมากจริงๆ ถ้ามีโอกาสเราจะมาอีกอย่างแน่นอน!

เรือจะจอดให้พวกเราเดินเล่นแถวๆนี้ประมาณ 15 นาที แล้วก็จะให้พวกเรากลับมาลงเรือเพื่อกลับท่าเรือ

เดี๋ยวเราจะเดินไปถ่ายรูปโตรกผาด้านในต่อ แต่ก่อนอื่นมาปลาบปลื้มกับน้ำใสสีมรกตก่อน

น้ำใสมากกกกกกกกกกกกกกก!

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย มาเยือนแล้วนะ..โตรกผาเกบิเค

เดินตรงเข้าไปด้านใน มีสะพานให้ข้ามไปชมโตรกผา

ข้ามสะพานมาและ เห็นตรงนั้นคนไปถ่ายรูปกันเยอะ

เดินมาถ่ายเหมือนเป็นชะง่อนผายื่นออกมานิดนึงอ่ะ มันคือหินศักดิ์สิทธิ์รึเปล่านะ? เหมือนว่าเค้าจะมีให้ปาหินเพื่อให้เข้าไปตรงช่องผาหินนะ แต่เรามัวแต่ถ่ายรูปเลยไม่รู้ว่าเค้าไปปาหินกันจริงรึเปล่า 555+

เสร็จแล้วพวกเราก็เเดินข้ามสะพานกลับไปทางเดิม

ใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณนี้ ดูยังไม่ค่อยเหลืองๆส้มๆเท่าไหร่ ถ้ามาช้ากว่านี้สัก 4-5 วันน่าจะสวยกว่านี้เยอะเลยนะ

แต่น้ำนี่ยอมรับเลยว่าใสมากจริงๆ

ใสขนาดไหนก็น้ำใสไหลเย็นแลเห็นตัวปลาละกัน

กลับมาถึงเรือละ เดี๋ยวจะนั่งกลับเรือล่องกลับไปทางเก่าแม่น้ำเดิม

ระหว่างยืนรอคิวลงเรือก็ขอถ่ายรูปโตรกผาข้างหน้านั่นซะหน่อย

คุณลุงฝีพายกลับหัวเรือแล้ว เตรียมล่องเรือกลับได้

เรือผ่านโตรกผาสูงๆสวยๆนี้อีกครั้ง

เงยหน้าขึ้นไปถ่าย โตรกผานี้สูงเท่าไหร่กันนะ? มหึมาจริงๆ

เจอเรือฝั่งขามาแล่นผ่าน ทักทายหยอกล้อกันเล็กน้อย 555+

ขากลับนี่คุณลุงฝีพายจะร้องเพลงที่มีความหมายในการล่องเรือชมความงามธรรมชาติที่เกบิเคนี่ให้ฟังแบบสดๆด้วยล่ะ เสียงดี ประทับใจมากเลย

มาฟังคุณลุงฝีพายร้องเพลงกันดีกว่า

ล่องเรือไปเรื่อยๆ ลมเย็นสบายดีจัง ฟังคุณลุงฝีพายร้องเพลง มีความสุข

ดีเลย์เล็กน้อยแต่ก็กลับมาถึงท่าเรือแล้ว ลงจากเรือแล้วต้องรีบเดินกลับไปที่สถานีรถไฟทันที เดี๋ยวจะตกรถไฟกลับเอา

ใช้เวลากึ่งเดินกึ่งวิ่งจากท่าเรือมาประมาณ 7-8 นาที เรากลับมาถึงสถานีก่อนที่รถไฟจะมาเวลา 11.36 น. รอดไปที..

และสุดท้ายพวกเราก็กลับมาถึงสถานี Ichinoseki ก่อนที่รอบรถไฟที่จะไปฮิระอิซุมิจะออกเกือบๆ 10 นาทีแน่ะ มีเวลาให้ตุนน้ำตุนเสบียงกันได้สบายๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปรอรถไฟที่ชานชาลาอีกครั้ง

เดี๋ยว Part2 เราจะพาไปเที่ยวกันต่อที่เมืองฮิระอิซุมิ ที่นั่นเป็นเมืองเก่าแก่มีวัดที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่งเลยด้วยล่ะ

About Puttiano Rossi

"เป้าหมายของเราคือการไปเยี่ยมเยือนให้ครบทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีก็จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้"

  • Black Facebook Icon
  • Black Instagram Icon
  • Black Twitter Icon
Never Miss a Post!
bottom of page